วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2551

“ทายาทพราหมณ์ราชสำนัก” เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมืองเอาชนะมนต์ดำเขมรได้

Rating:★★★
Category:Other





 


“ทายาทพราหมณ์ราชสำนัก”
เชื่อ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมือง
เอาชนะมนต์ดำเขมรได้










โดย ผู้จัดการออนไลน์

 ๒ สิงหาคม ๒๕๕๑  ๑๓:๕๓ น.


 



นครศรีธรรมราช - ทายาทพราหมณ์ราชสำนักชี้มนต์เขมรแค่มนต์ดำ-อวิชชาชั้นต่ำ ชี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงคู่ประเทศไทย พระสยามเทวาธิราช พระแก้วมรกต พระเสื้อเมืองพระทรงเมือง สามารถปกปักษ์รักษาให้รอดพ้นได้ ไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อเหลืองหรือสีแสดงพลังใด ๆ ผู้รู้ยันเขมรทำพิธีโอกาสเป็นไปได้สูง และวันที่ประกอบพิธีในช่วงเกิดสุริยุปราคาอีกด้วย เผยการสะกดดวงเมืองเคยมีจริงที่นครศรีธรรมราชเพื่อไม่ให้เกิดความเจริญ ทำให้ต้องมีการแก้ดวงเมืองและสร้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชอันโด่งดังในเวลาต่อมา


       จากกรณีที่นางบุน รานี ฮุนเซน ภริยานายกฯ กัมพูชา นำคณะสงฆ์พร้อมทหาร ตำรวจ และชาวกัมพูชาจำนวนมาก ลุยประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และทำบุญประเทศเสริมดวงเมืองบนเขาพระวิหาร ทำให้มีกระแสการสวมเสื้อเหลือง เพื่อต้องการสร้างพลังต่อต้านการทำพิธีบางอย่างของชาวกัมพูชานั้น
       
       พราหมณ์ศักดิ์ระพี พรหมชาติ บุตรชายของพราหมณ์แจ้ง พรหมชาติ พราหมณ์ราชสำนักอาวุโส เปิดเผยว่า ตามความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดมานั้น เชื่อว่าการสวมใส่เสื้อเหลืองหรือเสื้อสีใด ๆ นั้น ไม่สามารถไปสร้างพลังอำนาจใด ๆ ได้ นอกจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ที่จะมีพลานุภาพต่อต้านสิ่งชั่วร้าย การทำพิธีใด ๆ ก็ตามของเขมรไม่น่ามีผลใด ๆ กับประเทศไทย เนื่องจากคุณลักษณะของประเทศไทยนั้น มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงคู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่โบราณ ส่วนหมอเขมรนั้น ปัจจุบันเลือนหายไปมาก ผู้สืบทอดนั้นน่าจะมี แต่ไม่มีคุณสมบัติเช่นอดีต
       

       "ผมเห็นว่าลักษณะของเขมรนั้นแตกต่างกับไทย หมอเขมรวิชาเขมรเป็นวิชาประเภท "อวิชชา" เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความไม่เป็นเป็นมงคล เรื่องไม่ดี เช่นทำให้เจ็บป่วย ทำให้บ้า ทำให้ตาย ทำให้ไม่บังเกิด ในขณะที่พื้นฐานของประเทศไทยนั้น เกี่ยวข้องกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง ล้วนแต่เป็นฝ่ายวิชชาดีทั้งหมด จึงแตกต่างกันในเชิงวิชาชั้นต่ำกับวิชาชั้นสูง ถ้าฝ่ายเขมรทำพิธีนั้น สิ่งที่จะต่อต้านและเป็นแรงผลักดันความต่ำช้ากลับคืนไปยังที่มาได้ คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ประเทศไทย เช่น พระสยามเทวาธิราช พระแก้วมรกต พระเสื้อเมืองพระทรงเมือง สามารถปกปักรักษาได้ วิธีที่จะสร้างความมั่นใจและเชื่อมั่นในเชิงความเชื่อให้กับประชาชนนั้น จะต้องทำพิธีต่อดวงเมือง ซึ่งผู้ที่มีความรู้ในด้านนี้และเป็นผู้ทำพิธีจะต้องเป็นราชครูพราหมณ์ประจำราชสำนักเท่านั้น" ทายาทพราหมณ์ราชสำนักกล่าว
       
       ด้านนักวิชาการระดับผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่งใน จ. นครศรีธรรมราช (ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับพิธีกรรมโบราณ เปิดเผยว่า พิธีการสะกดดวงเมืองนั้น จากการศึกษานั้นพบว่ามีอยู่จริง ยกตัวอย่างที่นครศรีธรรมราช หรืออาณาจักรศรีวิชัยเดิม ที่ พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้ทำพิธีครั้งใหญ่แก้ดวงเมืองที่เชื่อว่าถูกสาปสะกดไว้เมื่อปี ๒๕๓๐ ราว ๒๐ ปีที่ผ่านมานี้เอง ทั้ง ๔ มุมเมืองของนครศรีธรรมราช เป็นพิธีที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ โดยเชื่อว่าถูกพวกพราหมณ์ในอดีตได้สาปสะกดดวงเมืองไว้ไม่ให้เจริญ มีความแต่ความวุ่นวาย ก่อนที่ศาสนาพุทธจะเข้ามามีอิทธิพลในย่านอาณาจักรศรีวิชัย และจุดที่มีการทำพิธีเมื่อครั้งโบราณนั้นยังมีอยู่ทุกจุด เป็นต้นกำเนิดของการแก้ดวงเมืองและสร้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชอันโด่งดังในเวลาต่อมา
       
       ต่อกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีหมอเขมรทำพิธีสะกดดวงเมืองของประเทศไทย ตามความเชื่อนั้นเชื่อว่ายังมีพิธีเช่นนี้อยู่ แต่จะทำจริงหรือไม่นั้นไม่ทราบได้ แต่วิธีการทำพิธีนั้นเข้าใจว่าจะมีการทำในลักษณะสะกดดวงเมือง โดยช่วงที่มีสุริยุปราคาตามความเชื่อนั้น เชื่อว่าเป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์กำลังอ่อนแรง ถูกพระราหูเข้าอมครอบงำ เป็นฤกษ์ที่เหมาะต่อการทำเช่นนี้ และต้องยอมรับว่าคุณลักษณะของพิธีกรรมเช่นนี้ในเขมรยังมี และค่อนข้างมีชื่อเสียงด้วย ความน่าเชื่อก็มีอยู่
       
       
ซึ่งการทำพิธีนั้นเหมือนกับการทำคุณไสยคือทำให้ดวงอ่อนแรง และอาจผูกดวงให้ดวงของมนุษย์เข้าไปมีอำนาจเหนือกว่าควบคุมดวงเมืองได้ หรือทำให้ดวงเมืองอ่อนจนถึงขั้นล่มสลาย มีเหตุเภทภัยเข้าบ่อนทำลาย สมัยโบราณนั้นไม่มีใครบอกเลขดวงเมืองพร่ำเพรื่อ จะรู้อยู่เฉพาะราชครูหรือพราหมณ์ราชสำนักกับผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น หากมีการทำพิธีเช่นนี้ย่อมเท่ากับมีผู้รู้ดวงเมืองนำไปทำพิธี








 


ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000090845


http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000090548


 



 

12 ความคิดเห็น:

  1. มาอ่านและรายงานตัวครับผม

    ตอบลบ
  2. ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นย่อมพ้นภัย

    ตอบลบ
  3. ขึ้นเยอะขนาดนี้ ขึ้นจากบ้านเรา ฝั่งไทยใช่ไหมคะ

    ตอบลบ
  4. ดีค่าพี่น้องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
    สู้มั้ยสู้)))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))

    "มาทำหน้าที่
    ใช้หนี้แผ่นดิน
    และมาทำบุญ"
    ใช่ป่าวคะ

    ตอบลบ
  5. สาธุค่ะ
    จริงค่ะ
    ไม่ต้องใส่เสื้อเหลือง ใช้ "พลังแห่งธรรม" ก็คุ้มภัยได้จริงมั้ยคะ

    ตอบลบ
  6. แหงหละค่ะ
    มหารานีเธอคงไม่ไต่ผาขึ้นไปแหง ๆ (เก่งจริงไต่เดะ เดะ เดะ)

    แหม น่าจะระเบิดกะไดทิ้งซะเลยนะคะ
    เอาให้ขึ้นไม่ได้ลงไม่ได้ค้างเติ่งกันอยู่บนนั้น (อยากลงไต่เอา หรือรอตัดถนนเสร็จ)
    ไม่ก็รื้อปราสาทซะเลย
    แล้วบรรทุกไปส่งให้ไปประกอบใหม่ที่พนมเปญ
    ดีมั้ยคะ "คุณเจ้าฯ"

    อิอิ...พูดเล่นค่ะ

    ตอบลบ
  7. แหมคุณหวานเจี๊ยบ มหารานีอ่ะ เขามา ฮอล์อ่ะคุณหวานเจ้าขา..ประชาชนของเขาต่างหาก ยกโขยงมาทางบ้านเราอ่ะ แหม!!!!

    ตอบลบ
  8. ๕๕๕ !!!!!!
    จริงด้วยค่ะ "คุณเจ้าฯ"
    ลืมไปว่าเค้าเป็นมหารานี มีฮอล์นั่ง
    กร๊าก กร๊าก ก ก ก ก ก ก ก ก

    ขอบคุณที่ชี้แนะค่ะ

    ตอบลบ
  9. ขอรูปไปใส่บล็อกหน่อยนะครับ

    ตอบลบ
  10. คนขนาดนี้ มันล้ำเขตเราแน่ ทำไมทีเราไม่จับมันบ้างนะ

    ตอบลบ
  11. เชิญค่าเชิญ ยินดีค่า
    ชอบรูปไหนเอาไปได้หมดทั้งบ้านเลยค่า
    เจ้าของบ้านใจดี

    ตอบลบ
  12. หรือมันไต่หน้าผาขึ้นมาหว่า
    หรือถนนที่มันเร่งตัดเสร็จแล้วหว่า
    หรือ "นายใหญ่" สั่งเปิดทางหว่า

    ระเบิดกะไดทิ้งซะให้หมดเลยดีมะเนี่ยฮึ

    ตอบลบ