
Rating: | ★★★ |
Category: | Other |
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา อาณาจักรที่รุ่งเรืองที่สุดอีกยุคสมัยหนึ่งของไทย เราพบว่ามีการตราบทลงโทษขั้นรุนแรงที่สุดคือโทษประหารชีวิตเอาไว้ในพระไอยการกระบถศึก ซึ่งเป็นกฎหมายที่ตราขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่สอง และมีการแก้ไขเพิ่มเติมในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ก่อนจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมอีกครั้งในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ แต่กฎหมายฉบับนี้ มิได้มีการแก้ไขในบทลงโทษความผิดขั้นประหารชีวิตและวิธีการประหารชีวิตเลยแม้แต่น้อย คือยังคงลักษณะเดิมไว้แต่ครั้งการตราขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่สองทุกประการ
วิธีการประหารชีวิตตามพระไอยการกระบถศึกบันทึกและอธิบายเอาไว้อย่างละเอียดถึงวิธีการลงโทษประหารยี่สิบเอ็ดวิธี หรือยี่สิบเอ็ดสถาน ดังนี้
สถาน ๑ คือ ให้ต่อยกระบานศีศะ (กบาลศีรษะ) เลิกออก (เปิดออก) เสีย แล้วเอาคีมคีบก้อนเหล็กแดงใหญ่ใส่ลงไปในมันสะหมอง (มันสมอง) ศีศะพลุ่งฟู่ขึ้นดั่งม่อ (หม้อ) เคี่ยวน้ำส้มพะอูม
สถาน ๒ คือ ให้ตัดแต่หนังจำระ (จาก) เบื้องหน้าถึงไพรปากเบื้องบนทั้งสองข้างเป็นกำหนด ถึงหมวกหู (ใบหู) ทั้งสองข้างเป็นกำหนด ถึงเกลียวคอชายผมเบื้องหลังเป็นกำหนด (หนังบริเวณคอถึงท้ายทอย) แล้วให้มุ่นกระหมวดผมเข้าทั้งสิ้น (ม้วนเข้าหากัน) เอาท่อนไม้สอดเข้าข้างละคน โยกคลอนสั่นเพิกหนังทั้งผมนั้นออกเสียแล้วเอากรวดทรายหยาบขัดกระบานศีศะชำระให้ขาวเหมือนพรรณศรีสังข์
สถาน ๓ คือ ให้เอาขอเกี่ยวปากให้อ้าไว้ แล้ให้ตามประทีบ (ดวงไฟ) ไว้ในปาก ไนยหนึ่ง (นัยหนึ่ง) เอาปากสิวอันคมนั้นแสะแหวะผ่าปากจนหมวกหู (ใบหู) ทั้งสองข้าง แล้วเอาขอเกี่ยวให้อ้าปากไว้ให้โลหิตไหลออกเต็มปาก
สถาน ๔ คือ เอาผ้าชุบน้ำมันพันให้ทั่วร่างกายแล้วเอาเพลิงจุด
สถาน ๕ คือ เอาผ้าชุบน้ำมันพันนิ้วทั้งสิบนิ้วแล้วเอาเพลิงจุด
สถาน ๖ คือ เชือดเนื้อให้เป็นแรงเป็นริ้วอย่าให้ขาดจากกัน ตั้งแต่ใต้คอลงไปถึงข้อเท้าแล้วเอาเชือกผูกจำ ให้เดินเหยียบริ้วเนื้อริ้วหนังแห่งตน ให้ฉุดคร่าตีจำให้เดินไปกว่าจะตาย
สถาน ๗ คือ เชือดเนื้อให้เนื่องด้วยหนังเป็นแร่งเป็นริ้ว ตั้งแต่ใต้คอลงมาถึงเอว และให้เชือดตั้งแต่เอวให้เนื่องด้วยหนังเป็นแร้งเป็นริ้วลงมาถึงข้อเท้า กระทำหนังเบื้องบนให้คลุมลงมาเหมือนนุ่งผ้า
สถาน ๘ คือ ให้เอาห่วงเหล็กสวมข้อศอกทั้งสองข้าง ข้อเข่าทั้งสองข้างให้มั่น แล้วเอาหลักสอดในวงเหล็กแย่งขึงตรึงลงไว้กับแผ่นดินอย่าให้ไหวตัวได้ แล้วเอาเพลิงรน (ลน) ให้รอบตัวจนกว่าจะตาย
สถาน ๙ คือ ให้เอาเบ็ดใหญ่ที่มีคมสองข้างเกี่ยวทั่วร่างเพิก (เปิด) หนังเนื้อและเอ็นน้อยใหญ่ให้หลุดขาดออกมาจนกว่าจะตาย
สถาน ๑๐ คือ ให้เอามีดที่คมเชือดเนื้อให้ตกออกจากกายแต่ทีละตำลึง (นำเนื้อมาชั่งให้ได้น้ำหนักหนึ่งตำลึง : มาตราวัดสมัยโบราณ) จนกว่าจะสิ้นมังสา (เนื้อ)
สถาน ๑๑ คือ ให้แล่สับทั่วร่าง แล้วเอาแปรงหวีชุบน้ำแสบกรีดครูดขูดเสาะหนังและเนื้อแลเอ็นน้อยใหญ่ให้ลอกออกให้สิ้น ให้อยู่แต่ร่างกระดูก
สถาน ๑๒ คือ ให้นอนลงโดยข้าง ๆ หนึ่ง แล้วให้เอาหลาวเหล็กตอกลงไปโดยช่องหูให้แน่นกับแผ่นดิน แล้วจับขาทั้งสองข้างหมุนเวียนไปดังบุคคลทำบังเวียน (เวียนเทียน)
สถาน ๑๓ คือ ทำมิให้หนังพังหนังขาด แล้วเอาลูกสีลา (ลูกหิน) บดทุกกระดูกให้แหลกย่อย แล้วรวบผมเข้าทั้งสิ้น ยกขึ้นหย่อนลงกระทำให้เนื้อเป็นกองเป็นลอม แล้วพับห่อเนื้อหนังกับทั้งกระดูกนั้นทอดวางไว้ดั่งตั่งอันทำด้วยฟางซึ่งเอาไว้เช็ดเท้า
สถาน ๑๔ คือ ให้เคี่ยวน้ำมันให้เดือดพลุ่งพล่าน แล้วลาดสาดลงมาแต่ศีศะ (ศีรษะ) จนกว่าจะตาย
สถาน ๑๕ คือ ให้กักขังสุนัขร้ายทั้งหลายไว้ อดอาหารหลายวันให้เต็มอยาก แล้วปล่อยให้กัดทึ้งเนื้อหนังกินให้เหลือแต่ร่างกระดูกเปล่า
สถาน ๑๖ คือ ให้เอาขวานผ่าอกทั้งเป็นแหกออกดั่งโครงเนื้อ
สถาน ๑๗ คือ ให้แทงด้วยหอกทีละน้อย ๆ จนกว่าจะตาย
สถาน ๑๘ คือ ให้ขุดหลุมฝังเพียงเอว แล้วเอาฟางปกลงคลุมร่างก่อนคลอกด้วยเพลิงพอหนังไหม้ แล้วไถด้วยไถเหล็กให้เป็นท่อนน้อยท่อนใหญ่เป็นริ้วน้อยริ้วใหญ่
สถาน ๑๙ คือ ให้เชือดเนื้อล่ำออกทอดด้วยน้ำมัน เหมือนทอดขนม ให้กินเนื้อตัวเองจนกว่าจะตาย
สถาน ๒๐ คือ ให้ตีด้วยตะบองสั้นตะบองยาวจนกว่าจะตาย
สถาน ๒๑ คือ ตีด้วยหวายที่มีหนามจนกว่าจะตาย
ในปี พ.ศ. ๒๔๕๔, หนังสือพิมพ์ภาษาฝรั่งเศสฉบับหนึ่ง ได้ลงเรื่องการประหารชีวิตโดยการตัดศีรษะในประเทศสยาม ซึ่งขณะนั้นเป็นที่รู้กันว่าหมายถึงประเทศไทย มีการบรรยายภาพว่า
“Une Execuction Capitale Au Siam”
ภาพโดย (copyright) ริชาร์ด เอส เอริคช์
ภาพวาดแสดงถึงให้เห็นถึงการลงโทษในประเทศไทย ตามคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ ให้ได้รับการทรมาน และถูกประหารชีวิตในที่สุด เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ในศตวรรษที่ ๑๕
ที่มา :
- วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
http://th.wikipedia.org/wiki/โทษประหารชีวิต
- http://www.buildboard.com/viewtopic.php/1161/10521/13576/0/
- http://www.pattayadailynews.com/thai/showfeature.php?FeatureID=0000000474
แวะมาดูความโหดคับ โชคดีที่เกิดไม่ทัน
ตอบลบโหดจิงๆ
ตอบลบรู้ได้ไงคะว่า "เกิดไม่ทัน"
ตอบลบไม่แน่นา...เหอเหอ
ตอบลบเนาะ...เนาะ...โหดจริง ๆ
คนแปะแปะไปก็หยอง ๆ ไป
แต่ก็ชอบอ่านนะคะ
แล้วโทษโจรไปบุกเพื่อนบ้านอ่ะ
ตอบลบสงสัยต้องเพิ่ม สถาน ๒๒ หงะ
ตอบลบแต่รอลงอาญาก่อนละกันเนาะ
คนไทยใจดี เมืองไทยเมืองพุทธ...เนาะ...เนาะ...
ซะหน่อยน๊า คนไทยใจดีเลยเขียนกฎหมายใหม่ให้พ้นโทษป่าวอ่ะ แฮ่ๆๆ มีฝ่ายตรวจสอบอยู่แถวนี้ป่าวหว่า
ตอบลบ"รอลงอาญา" ม่าช่าย "นิรโทษกรรม" นา
ตอบลบ"นิรโทษกรรม" ดูหน้าด้านไปปะ...หุหุ
เรามะช่ายฝ่ายตรวจสอบ เราเป็น "ยาม" จ้า....อะคริอะคริ
สถานที่ 10 เหมาะที่สุด โกงไปกี่บาท เอามาชั่งแล้วเฉือนเนื้อออกในปริมาณน้ำหนักที่เท่ากับน้ำหนักเงินชาติที่โกงไป...เหมาะกับแม้วมากมาก เสนอนายกเข้า ครม ด่วนที่สุด
ตอบลบห้า ห้า ห้า !!!!!!!
ตอบลบกร๊าก กร๊าก ก ก ก ก ก ก ก ก ก ก ก !!!!!!
โหดจังขะ "ลุงแม้ว ว ว ว ว ว ว ว ว ว ว ว ว ว ว"
เฉือนเนื้อหมดตัวก็ได้น้ำหนักไม่ถึงหรอกขะ
อ้อ..."ลุงแมว" แสดงความคิดเห็นได้ล่อแหลมเข้าเป้า ("เป้าที่มองไม่เห็น") มากขะ
เดี๋ย...เดี๋ย...ประดาสาวกได้เข้ามาด่าอิช้าน "จังไร" อีกแหง ๆ
ให้มันสาสมแก่โทษฑัณฑ์ที่มันได้ก่อ แล ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างเป็นเสี้ยนหนามแก่บ้านแก่เมืองต่อไป..
ตอบลบกราว ว ว ว ว ว ว ว ว ว ว ว ว ว ว ว ว
ตอบลบเสียงปรบมือกรูเกรียวจ้า
^_^'
ตอบลบน่าสงสารคนที่เป็นเพชฌฆาตด้วยนะคะ คงเป็นประเภทโรคจิต
ตอบลบโทษ หนัก ดีนะครับพี่
ตอบลบออกจะโหดไปนิด
น่านสิ
ตอบลบไม่รู้ "ป้าหวานฯ" เคยเป็นเพชฌฆาตป่าวเนาะ
โรคจิตด้วยหงะ
น่านสิ
ตอบลบแต่ไม่รู้ "ป้าหวานฯ" เคยเป็นเพชฌฆาตป่าวเนาะ
โรคจิตด้วยหงะ
ตอบลบสาสมดี...ชอบ..ชอบ