วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2551

แผ่นดินร้อนเป็นไฟ จะดับได้อย่างไร...ธรรมะ ๕ นาที จาก "ภูเตศวร"

Rating:★★★
Category:Other

 


"โลกร้อนเพราะมนุษย์
มาจากหัวจิตหัวใจมนุษย์โดยตรง

"แผ่นดินลุกเป็นไฟ

"
ถ้าเป็นสมัยโบราณ
ชาวบ้านชาวเมืองจะนุ่งขาวห่มขาวถือศีลกัน
อีกทั้งยังงดฆ่าสัตว์ตัดชีวิตกันทั้งหมด"


  


 


 


 


 


 



 


แผ่นดินร้อนเป็นไฟ จะดับได้อย่างไร


ธรรมะ ๕ นาที  จาก ภูเตศวร


 


 


 


 


            วันก่อนนั่งคุยกับคุณ ทมยันตี เรื่องของเรื่องก็คือความห่วงใยประเทศชาติ...เริ่มตั้งแต่เรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ เงินบาทลอยตัว...และท้ายสุดคือ


            ภาวะอากาศอันเลวร้าย !


 


            ณ วันที่เราพูดคุยกัน คือช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งถือว่าเข้าสู่เหมันตฤดู...ที่ควรจะมีความหนาวเย็นแผ่ซ่านเข้ามาบ้างไม่มากก็น้อย หากจนบัดนี้กรุงเทพมหานครรวมทั้งจังหวัดใกล้เคียงร้อนระอุยิ่งกว่าเดือนเมษาฯ เสียอีก...


 


            ภาวะอย่างนี้คล้ายคำโบราณที่ว่า แผ่นดินลุกเป็นไฟ ยังไงยังงั้น...ยุคนี้คงต้องเรียกว่า...ข้าวยากน้ำมันแพง  แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนก็น่าจะเรียกว่า ข้าวยากหมากแพง อย่างแน่แท้  เหลียวมองดูท้องฟ้าก็มัวซัว อึมครึมอย่างไงพิกล  ผู้คนก็ทำท่าป่วยไข้กันทั่วทุกหัวระแหง...


 


            คุณ ทมยันตี กล่าวกับผู้เขียนว่า...ถ้าเป็นสมัยโบราณ ชาวบ้านชาวเมืองจะนุ่งขาวห่มขาวถือศีลกัน  อีกทั้งยังงดฆ่าสัตว์ตัดชีวิตกันทั้งหมด  บางท่านอาจหัวเราะมองเป็นเรื่องเหลวไหล  แต่คนที่เข้าใจเรื่องเกี่ยวกับพลังงานจะเข้าใจ



 


 


 


            ขณะนี้ทั่วโลกกำลังวิตกกับภาวการณ์ธรรมชาติที่เรียกว่าปรากฏการณ์ เอลนิโน่ที่นักวิทยาศาสตร์กล่าวเตือนมา...


            โลกกำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่


            ด้วยฤดูกาลจะแปรเปลี่ยน จนพืชผลขาดความอุดมสมบูรณ์ ด้วยฝนฟ้าตกไม่ถูกต้องตามฤดูกาล


 


            เหตุทั้งปวงคงไม่ต้องอรรถาธิบายกันมาก  ท่านทั้งหลายก็ต้องรู้ว่าเหตุการณ์ เอลนิโน่อันเป็นมหันตภัยร้ายบังเกิดจากสาเหตุอันใด ?


            เหตุเกิดจากการขาดความสมดุลของโลกด้วยเงื้อมมือมนุษย์นั่นเองครับท่าน


 


            ทุกวันนี้โลกเติบโตด้วยมลพิษจากโรงงาน...ท่อไอเสีย...ป่าถูกทำลายจนเหลือแต่แผ่นดินและตึกคอนกรีต...


            ต้นไม้ที่ดูดซับความร้อน...ให้ความร่มเย็น  ป้องกันน้ำท่วม  ทำให้ฝนตก  สูญหายจนสิ้น


            นั่นคือสาเหตุที่แท้จริง!


            และทั้งปวงเหล่านั้นล้วนเพราะน้ำมือมนุษย์ใช่หรือไม่ ?



 


 


 


            พุทธศาสนาสอนเราเรื่อง กรรมกรรมะก็คือการกระทำแหละครับ มนุษย์ทำต่อธรรมชาติไว้ ท้ายที่สุดธรรมชาติก็จะกลับมาทำลายมนุษย์เองเป็นธรรมดา


            น้ำท่วม...ฝนแล้ง  บรรยากาศโลกวิปริตแปรปรวนเหล่านี้ เราจะโทษใคร  นอกจากมนุษย์อย่างพวกเราด้วยกัน


 


            ถ้าจะกล่าวว่า วันนี้ กรรมกำลังมาเยือนมนุษย์ก็ไม่ผิด !  เคยกล่าวแล้วหลายครั้งว่า กระแสในโลกมีของคู่กันหรือตรงข้ามกันเสมอเป็นสัจจะ...เช่นดีคู่กับเลว...สุขคู่กับทุกข์ ร้อนคู่กับเย็น...เช่นเดียวกับดาวราหูที่เราอาศัยอยู่ในขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะร้อนรุ่ม   ความร้อนรุ่มที่บังเกิดจากการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน  มนุษย์มิเพียงเบียดเบียนสัตว์อื่น ๆ แม้แต่มนุษย์ด้วยกันก็ไม่ละเว้น...


 


            หรือเราจะปฏิเสธว่า  การล่าล้าง...ทำลาย  มิใช่อุปนิสัยมนุษย์ ?


          และปฏิเสธได้หรือว่า  การไล่ล่าทำลายมิใช่กระแสร้อนที่สุมหัวจิตหัวใจมนุษย์อยู่ในทุกวันนี้...?


 


            โลกร้อนเพราะมนุษย์...มาจากหัวจิตหัวใจมนุษย์โดยตรง  ที่กล่าวเช่นนั้นก็เพราะไม่ว่าจะทำอะไร  มนุษย์ต้องคิดต้องบังเกิดความอยากในใจในความคิดก่อนเสมอ...การดิ้นรน  การต่อสู้  การยื้อแย่งแข่งดี  การทำลายล้างชีวิตสัตว์ด้วยกัน เขาเรียกว่า เพลิงกิเลสตัณหาใช่หรือไม่


 


            นั่นคือ...ประเด็นที่เราจะวิสัชนากันในวันนี้


            ว่า...โลกร้อน แผ่นดินลุกเป็นไฟ ดับได้อย่างไร?



 


 



 



            พุทธศาสนาสอนเราให้ดับเพลิงทุกข์...เพลิงร้อน  เพลิงกิเลสในจิต เพราะจิตเป็นแหล่งแห่งทุกข์โดยแท้


            เรียกว่าดับที่ใจตนด้วยตน !


            ดับอย่างไร ?”


          ย่อมต้องมีคำถามเช่นนี้ คำตอบก็คือ


            เจริญเมตตาธรรม


            ถ้ามนุษย์ทุกคนมีเมตตาธรรม ความร้อนรุ่มจะบรรเทา จิตที่มีเมตตาจะสร้างกระแสเย็นแก่โลก...


            ถ้าส่ำสัตว์ทั้งปวง ยุติ การเบียดเบียนเอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน มีหรือโลกจะไม่ร่มเย็น


 


            ศาสนาพุทธสอนเราให้รู้เหตุ...เหตุจึงทำให้เกิดผล  ไม่เพราะคนเพียงกลุ่มเดียวหรอกหรือ  วางแผนทำลายระบบการเงินของเรา...ค่าเงินบาทจึงตกฮวบฮาบลงอย่างนี้  อย่างที่เห็นที่เป็น  คือการเบียดเบียนกันหรือเปล่าล่ะ...


          ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะการเบียดเบียนกันหรือไม่ ?



 


 


 


            ครับ มนุษย์เป็นอย่างนี้เสมอ...มีเท่าไหร่ก็ไม่พอ  คอยคดโกงคอยทำลายล้างกันไม่จบสิ้น  ทั้ง ๆ ที่ท้ายสุดแม้แต่ร่างกายที่มีกระดูกเลือดเนื้อก็ต้องผุพังคืนธาตุหยาบแก่โลกทุกคน


 


            นิ่งมองเถอะครับ  ไอ้ที่โกงกินมาเป็นหมื่นเป็นพันล้าน  ใครเอาไปได้บ้าง  เป็นชาวพุทธต้องเชื่อเรื่องกรรม  ดังหลวงปู่บัว สิริปุณโณ ท่านกล่าวไว้


            พระกินของชาวบ้าน ไม่ปฏิบัติธรรม คืนบุญ คืนกุศลให้ชาวบ้าน   เกิดชาติหน้าต้องมาเป็นควายไถนาใช้เขา...


           


            ฉะนั้น เชื่อเถอะครับ...คนกินบ้านกินเมืองกินเงินประชาชน ชาติหน้าจะรับกรรมยิ่งกว่า...


 


            ไม่รวยเงินรวยทองก็ช่างเถอะครับ รวยบุญ รวยทาน รวยกุศล รวยเมตตา มีค่ากว่ากันเยอะ...


 


            ทุกข์ก็อย่าไปท้อ...จนลงก็อย่าไปหวั่น  เอาสติสอนตนเข้าไว้  ใครบ้างเกิดมาหอบสมบัติมาด้วยทุกคนมาตัวเปล่า ไปตัวเปล่ากันทั้งนั้น



 


 


 


            ขอพูดเรื่องนี้อีกสักนิด  เพราะหมู่นี้เจอพรรคพวกที่เป็นนักธุรกิจบ่นอยากฆ่าตัวตายกันเยอะ...


            ผมว่าไม่อยากตายเพราะความจนหรอกครับ !


            แต่ที่อยากตายก็เพราะ  จมไม่ลงมากกว่า  เพราะศักดิ์ศรี  เพราะอัตตาทำให้มนุษย์เป็นทุกข์  ทั้ง ๆ ที่วันนี้ขายทรัพย์สินที่มียังไงก็ยังมีมากกว่าตอนลืมตาดูโลกแน่ ๆ


            บางรายทำให้ผมขำ...บ่นอยากตายแต่ยังขับรถราคาหลายล้าน  สวมนาฬิกาเรือนหลาย ๆ แสน  ส่วนคนทำไร่ทำนาหาเช้ากินค่ำกลับไม่ได้ยินบ่นอยากตายซักแอะ



 


 


 


            วันนี้...สวดมนต์เจริญเมตตาให้มากเข้าไว้  ใจจะได้เย็น  จิตกับใจร่มเย็นเสียอย่าง ต่อให้โลกร้อนยังไงเราก็ไม่รู้สึก...เพราะผู้ฝึกสติ  ฝึกสมาธิมาดีแล้ว  จิตย่อมแข็งแรง  แข็งแรงพอที่จะต้านทุกข์ทั้งปวงไม่ให้ครอบงำจิตใจเราได้ !


 


            เห็นทีต้องร่ำลากันด้วยกลอนแปดที่ว่า

                                  เมื่อเจ้ามามีอะไรมาด้วยเจ้า


                   เจ้าจะเอาแต่สุขสนุกไฉน


                   มาตัวเปล่าแล้วเจ้าจะเอาอะไร


                   เจ้าก็ไปตัวเปล่าเหมือนเจ้ามา


 


 


 


.....................................................................................................................

ที่มา :

เรื่อง...จากเว็บไซต์ "ธรรมะ ๕ นาที"

http://www.dhamma5minutes.com/webboard.php?id=38&wpid=0028

< 01 February 2007 09:21:34 >

ภาพ...จาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=220235

.....................................................................................................................


 


 


"
มนุษย์เป็นอย่างนี้เสมอ...
มีเท่าไหร่ก็ไม่พอ 
คอยคดโกงคอยทำลายล้างกันไม่จบสิ้น 
ทั้ง ๆ ที่ท้ายสุด
แม้แต่ร่างกายที่มีกระดูกเลือดเนื้อ
ก็ต้องผุพัง
คืนธาตุหยาบแก่โลกทุกคน


"
ไอ้ที่โกงกินมาเป็นหมื่นเป็นพันล้าน 
ใครเอาไปได้บ้าง 
เป็นชาวพุทธต้องเชื่อเรื่องกรรม


"
คนกินบ้านกินเมือง
กินเงินประชาชน
ชาติหน้าจะรับกรรมยิ่งกว่า
"


 


 


21 ความคิดเห็น:

  1. ร้อน จริงๆ ครับพี่...
    ....
    เราก็เป็นไปตาม กรรม ครับ
    ....

    ตอบลบ
  2. ไม่ใช่แค่บ้านเมืองนะคะป้าที่ร้อนเป็นไฟ
    ใจคนก็เหมือนกัน ร้อนเป็นไฟ
    ไม่รู้จักเย็น ไม่รู้จักอภัย
    ยิ่งเป็นแบบนี้ต้องปรับสภาพจิตใจ ควบคุมอารมณ์ตลอดเวลาเลย

    ตอบลบ
  3. ร้อน จน หน้า จอ จะไหม้ แล้ว พี่
    ช่างสรรค์ หา มาจริงๆ

    ตอบลบ
  4. หงะ...พี่ก็ร้อนแสบตาเลยนะเนี่ย..หุหุ

    แต่ "น้องกาย" เค้าบอกว่าเหมือนนรกอะ...เหอเหอ
    เดี๋ยวพี่ไปหาต้นงิ้ว กระทะทองแดง เอาหอกแหลมแทง มาเพิ่มดีก่า

    ตอบลบ
  5. ไหม้แล้วจ้าคุณน้องขา
    รถดับเพลิงอยู่ไหนหนอ? จะมาทันไหมเนี่ย?

    พูดถึงรถดับเพลิง ฉุกคิดถึงเรื่องอะไรบางอย่าง..คุ้น ๆ เหมือนฝัน...

    ตอบลบ
  6. อ้าว..ลืมบอกเรื่องที่ตั้งใจมาบอกคุณน้องเลย...อิอิ
    จะมาบอกว่าคิดถึงนะคะ

    ตอบลบ


  7. ฝันว่ากระไรคะคุณพี่ขา
    แผ่นดินลุกเป็นไฟรึป่าวคะ

    ตอบลบ

  8. อะขะ
    คิดถึงกันท่ามกลางกองเพลิง
    คิดถึงคุณพี่เช่นกันขะ

    ตอบลบ
  9. ฝันเรื่องรถดับเพลิงแว็บ ๆ อ่ะค่ะ

    ตอบลบ

  10. ฝันแทนคนศาลาว่าการ กทม. เค้าหรอคะ...อิอิ

    ตอบลบ
  11. ท่ามกลางกองเพลิงยังมีก๊อกน้ำนะคะ
    (มีน้ำหยดออกมาสองสามหยดด้วย)
    คุณพี่ดูดี ๆ สิคะ หาเจอมั้ยเอ่ย

    แต่อย่างว่าหละขะ "น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ"

    เออหนออยู่ดี ๆ ก็เผาบ้านตัวเองเล่นเนาะเรา

    ขอบคุณคุณพี่ที่ให้ที่ซุกหัวหลบเพลิงนะคะ

    ตอบลบ
  12. คุณน้องขา ก็อกน้ำจิ๋วเดียวละลายหมดแล้วค่ะ

    วอนเทวดามาช่วยล่ะค่ะ

    ตอบลบ
  13. ร้อนร้อนนี้มีไหม๊น้ำฉานนจะเอามาอาบให้หายยร้อนนน(ร้อนมากก็เอาน้ำเย็นลูบใจไปพลางๆก่อนเน้อ) :P

    ตอบลบ
  14. เอ่อ...คุณพี่ข้างบนคะ
    รถอาไรคะนั่น
    ใช่คันที่ "เฮียชู" แกให้ขับฉายหนังสั้นป่าวคะ

    ตอบลบ
  15. น่ากลัวจังครับ โลกเรา

    ตอบลบ
  16. คุณน้องคะ รถดับเพลิงค่ะ...
    แหม! กว่าจะได้มานะคะ ลำบากค่ะ อิอิ ช่วงนี้ข่าวเยอะ แต่ไม่ทราบว่าเป็นคันเดียวกับที่ฉายหนังเฮียชูอ๊ะป่าวอ่ะค่ะ

    ตอบลบ

  17. รถดับเพลิงยังร้อนเลยคุณพี่
    ส่งมาจะดับเพลิงได้ไหมหนอ

    ตอบลบ
  18. ‘เมื่อเจ้ามามีอะไรมาด้วยเจ้า
    เจ้าจะเอาแต่สุขสนุกไฉน
    มาตัวเปล่าแล้วเจ้าจะเอาอะไร
    เจ้าก็ไปตัวเปล่าเหมือนเจ้ามา’

    จะไปหาคนที่คิดได้จริงๆีที่ไหน กว่าจะได้คิดก็คงจะหาชีวิตไม่แล้ว

    ตอบลบ