ปูด 'กลุ่มขนานอำมาตย์' สายตรงถึงพลังพิสดาร!

Rating:	★★★★★
Category:	Other

วันเสาร์ที่ 13 มีนาคม 2010 เวลา 08:31 น.

ปูด'กลุ่มขนานอำมาตย์' สายตรงถึงพลังพิสดาร! ขวาง'พวกนิยมซาดิสม์' ถ้าแรง-ต้องแรง'ในเกม'

ซุบซิบไทยอินไซเดอร์         โลก(การเมืองไทย)ร้อนๆ กลับมาเป็นจุดสนใจของ “ผู้คน” ทั้งในและต่างประเทศอีกครั้ง หลังจาก “แดงดีเดย์เดือด” ประกาศสงครามครั้งสุดท้าย “ไม่ชนะ...(นักโทษ)ก็จบเห่”         เพราะเป็นอีกครั้งที่ “อารมณ์ผู้คน” ไม่ว่าจะอยู่ในแวดวงไหน ต่างพูด-ต่างถาม...เป็นเสียงเดียวกันว่า“จะแรงหรือเปล่า-จะจบอย่างไร”         จะเห็นว่า 2 สัปดาห์ก่อน ที่จะถึงวัน “แดงดีเดย์เดือด” มีการโหมโรง “ความน่าสะพรึงกลัว” ของ “ก๊วนนรกป่วนเมือง” แบบชนิดที่...ถ้าเปรียบเหมือนคนกินอาหาร ก็จะถึงขั้นเอียน-จนอาเจียน...เพราะ “เบื่อ” จนทำให้ “เอือม”...555         แต่อย่างน้อย “หมากเกมนี้” ก็ใช้ได้ผล...เพราะทำให้ “ผู้คนในเมืองหลวง” ตกอยู่ในอาการ “ผวา” กันเป็นแถว          บทพิสูจน์หนึ่ง...ที่ชัดเจนมากคือ วันสุกดิบ-ศุกร์ 12 มี.ค. ที่เป็น “ออเดิร์ฟ” ของ “แดง ดีเดย์เดือด” นั้น ถนนหนทางบนเมืองหลวง...โล่งผิดปกติ-โล่งยิ่งกว่าตอนสงกรานต์หรือปีใหม่...เสียอีก          “ผู้คนหลากหลาย” ที่ต้องใช้ชีวิตในเมืองหลวง ต่างตัดสินใจ “เลือก” ที่จะ “อยู่กับเหย้า-เฝ้ากับเรือน” แทนที่จะออกไปทำงานตามปกติ         เพราะภาพในอดีต...ตั้งแต่เหตุ “ยึดทำเนียบฯ-ปิดสนามบิน-สงกรานต์เลือด” ที่มีการปิดถนน มีภาพแห่งความรุนแรงของ “คนสองสี : เหลือง-แดง”นั้น...ผู้คนส่วนใหญ่ “รับกันไม่ได้” (ถ้ายอมรับสภาพความจริงกัน...อย่าคิดเข้าข้างตัวเอง)         นักธุรกิจ-พ่อค้า-แม่ค้า-ประชาชน...ที่ไม่ได้มี “ผลประโยชน์แฝง” แบบพวก “บิ๊กเนม” แต่ต้อง “หาเช้า-กินค่ำ” มี “รายจ่าย” ที่ fix ตายตัว...หลายคน “รู้ซึ้งดี” ถึงเกมแห่งอำนาจ...ซึ่งหากมี “ฝ่ายหนึ่ง” ได้ประโยชน์ “อีกฝ่ายหนึ่ง” ก็ย่อมเสียประโยชน์         มีแต่พวกเขาเหล่านี้เท่านั้น...ที่มีแต่เสียกับเสีย แถมไม่มีสิทธิอ้างหรือเรียกร้อง ตามที่ “แต่ละฝ่าย-แต่ละสี” ชอบอ้างอิง-ชอบมีหลังพิง...กัน         เพราะ 2-3 ปีก่อน...ต้องเผชิญกับ “ม็อบเหลือง” / มาปีที่แล้วกับปีนี้ ต้องมาผจญกับ “ม็อบแดง” นึกอยากปิดถนน-เดินขบวนก็ทำกันหน้าตาเฉย โดยอ้างแต่ว่า“รัดทำมะนวยฉบับหัวคูณ” เปิดช่องให้ทำได้ หรือไม่ก็อ้างแต่ “ประชาธิปตาย(แล้ว)”          เรียกได้ว่า “สู้รวยแล้ว” แต่พวกตัวเอง (ทั้งสองฝ่าย) แต่ “ชีวิตของประชาชนคนธรรมดา” ไม่ได้มี “สิ่งที่ดีแก่ชีวิต” กับเค้า(บ้าง)เลย         เวลานี้มีแต่เสียงที่เอื้อนเอ่ย...บ่นให้ “คนกันเอง” ฟังว่า...“จะเอายังไงก็เอา-จะได้จบกันเสียที”         โดย “คนเอ่ย-คนเอื้อนเอ่ย” ไม่ได้สนใจแล้วว่า “สีไหนจะชนะ-สีใดจะพ่ายแพ้” เพราะทุกคนก็มี “ปากท้อง” ที่จะต้องเอาชีวิต(ตัวเองและครอบครัว)ให้รอด         ยิ่งมาเห็นรายการ “นักรบ” อยากเปลี่ยนอาชีพ...หันมาขาย “ผลไม้” แล้วยิ่งไปกันใหญ่         แทนที่จะเป็น “ที่พึ่ง” ของคนในบ้านเมืองและประชาชนตาดำๆ แต่กลายเป็นว่า “นักรบ” ดันมาถกเถียงกันเรื่อง “ผลไม้”         เริ่มจาก “เสธ.เพี้ยน” ที่ออกมาเปิดประเด็นเรื่อง “กองทัพแตงโม” เปลือกนอกสีเขียว-ข้างในสีแดง แถมมีเมล็ดอื้อซ่าส์ ที่รอคอยการขยายพันธุ์ จนถูก “3 เกลอหัวขวด” นำไปขยายผล...ให้เป็นที่ “ขบขัน-เฮฮา”         เลยมีรายการคิด “สงครามจิตวิทยา” เอาคืน จาก “บิ๊กสีเขียวที่บ้าจี้” ด้วยการสั่งให้ฉายภาพ “สารพัดผลไม้” ที่เน้น “เปลือกนอกสีเขียว-เนื้อในสีเหลือง”เพื่อต้องการตอกย้ำถึงการเทิดทูน (แต่ยังไม่เกี่ยวข้องกับ “สีของแก๊งข้างถนน” ที่ชอบกินก๋วยเตี๋ยว “เส้นใหญ่”)         งานนี้ถึงขั้นนึกผลไม้อะไรออก ก็จะปูดออกมาทันที ไม่ว่าจะเป็น “สัปปะรด-ทุเรียน-มะม่วง”          เพราะเปลือกนอกที่ออกโทนสีเขียวนั้น สามารถสื่อได้ทั้ง “หูตาสัปปะรด-เขี้ยวเล็บแหลมคม-สุภาพอ่อนโยน”          เรียกได้ว่าเป็นการบลั๊ฟกันแบบทันที-ทันควัน!!!         แต่ดันลืมนึกไปว่า ผลไม้ที่ตัวเองหยิบมาเป็นตัวอย่างนั้น “กินมากก็ร้อน(ใน)มาก”...555         สะท้อนให้เห็นว่า เดี๋ยวนี้ ถ้าคิดจะเป็น “นักรบ” จะอวดอ้างเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ หรือโชว์เหรียญกล้าหาญอย่างเดียวไม่ได้แล้ว แต่ต้องหันมาอวดกันในเรื่องสรรพคุณของ “ผลไม้” ด้วย…555         ไม่สงสัยกันบ้างหรือว่า ทำไมเพียง “เสธ.เพี้ยน” คนเดียว ที่ออกมาบ้าระห่ำ...ถึงทำให้ “กองทัพ” ต้อง “บ้าจี้” สั่นสะเทือนตามไปด้วย ทั้งๆ ที่ “เขา” ก็ไม่ได้ “คุมกำลัง” แต่อย่างใด และถ้าจะจัดการเอาผิดจริงๆ ทำไมจะทำไม่ได้         และจู่ๆ ฝีมือระดับที่เคย “ทำนายบึ้ม” แล้ว “แม่นเหมือนจับวาง(เอง)” แต่ทะเล่อ-ทะล่า(แบบจงใจ) โผล่ไปที่กองปราบ เพื่อให้ “หมาต๋า” ล็อกตัว...ทั้งตัวเองและลูกน้อง          ชนิดที่...ถ้าไม่มีการเตี๊ยม-รู้กันแล้ว ก็ต้องบอกได้ว่า “โง่บรม” เสียสถาบันคนจบโรงเรียนเสนาธิการ...หมด         หรือแม้แต่ “ชายชื่อเล็กมากเล่ห์” ที่อารมณ์ของบ้านเมืองกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม...แต่จู่ๆ งานนี้ดันขอเข้าโรงหมอ เพื่อรักษาตา แบบชนิดที่ “จงใจ” เสียเหลือเกิน...555         นี่ยังไม่นับรวม “นายพลแม็คอาเธ่อร์” ที่จู่ๆ ก็อ้างเหตุ “งอน” พวกขี้ตู่...และจู่ๆ ก็เงียบฉี่ ขอนั่งเป็นคนดู...ดูหมากัดกันดีกว่า...อิๆๆๆ         อย่างที่ “พี่ใหญ่-อ.ย.” บอกย้ำแบบปากเปียกปากแฉะกับ “ไต่กอ” มาตลอดว่า…         สิ่งที่เป็นจริง...อาจไม่ใช่สิ่งที่(ท่าน)เห็น         เพราะ... โลกนี้คือละคร...และ “การเมืองไทย” ก็คือ “การเล่นละคร”         อยู่ที่ว่า ...ช่วงเวลาไหน-ใครจะเล่นบทไหน...ต่างหาก!!!          และดูเหมือน “พล็อตเรื่อง” ที่เขียนไว้ กำลังเข้าสู่จุด “ไคลแม็กซ์” ชนิดที่ “ตอนจบ” ของ “ละครโรงนี้” ยังไม่มีใครเดาได้ และยังไม่รู้ด้วยว่า...จะจบเมื่อไหร่!!!         เพราะขนาด “ตัวละคร” ที่เล่นเอง...“หลายคน” ก็ยังไม่รู้-ยังไม่ได้เห็น “พล็อตเรื่อง” ทั้งหมดเลย         เหตุเพราะว่า “เจ้าของโรงละคร” กลัว “ลับหลุด” เพราะ “อำนาจ” ไม่เข้าใครออกใคร แถม “เงิน” ยังสามารถ “ซื้อผี” ให้โม่แป้งได้         ดังนั้น “ตัวละครแต่ละตัว” จึงรู้แต่ “บท” ที่ตัวเองต้องเล่น และเล่นให้เนียนที่สุด-สมบทบาทที่สุด...เท่านี้ก็ “พอเพียง”         เพื่อทำให้ “ละครเรื่องนี้” สมบูรณ์แบบที่สุด และทำให้ “นักโทษเหลี่ยมจัด” กับ “สมุนซ้ายจัด” ได้รับรู้บทเรียนอันเจ็บแสบว่า “แนวคิด” ที่ชอบทำตัว“ตีเสมอ” เพื่อจะ “ล้มล้างบางอย่าง” นั้น...มันไม่ง่าย ดั่งที่คิดและฝันไว้         ยิ่งต้นสัปดาห์...มีภาพหนึ่งที่ปรากฏออกมา ซึ่งสามารถสะท้อนอะไรต่อมิอะไร ได้ดีกว่า “คำพูดหลายร้อยคำ” เสียอีก         และเป็น “สัญญาณสุดวิเศษ” ที่ทำให้ “หัวขวดคนหนึ่ง” ถึงกับ “อกแตกตาย” เพราะ “เขา” เคยออกมาปากเก่ง วิจารณ์ในเรื่อง “นั่งตีเสมอ” มาแล้ว         เรียกได้ว่า “ข้าราชกู” ทั้งหลาย...ที่ได้เห็นภาพสุดวิเศษนี้ ย่อมรู้ดีว่า “ตัวเอง” ควรจะต้องทำอะไร-อย่างไร...ต่อไป         ยิ่งเวลานี้ มีการเตรียมพร้อมในการนำกฎหมายที่ครอบคลุมทุกเรื่อง 18 ฉบับ มารองรับให้ “ข้าราชกู” ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ได้ทำงานอย่างเต็มที่ และไม่ต้องกลัวว่า ตัวเองจะต้องมาเดือดร้อน เหมือนคราวสลายม็อบเหลือง ก็ยิ่งทำให้ “ข้าราชกู” ทั้งหลาย พร้อมที่จะ “สู้-ฟัด” แบบเต็มที่         แต่เวลานี้ “หวย” จะออกเลขอะไร-ออกแบบไหน-ออกอย่างไร...ยังไม่มีใครตอบได้ชัด!!!         ต้องดู “สถานการณ์” กัน “วันต่อวัน” เพราะทั้งสองฝ่าย-สองขั้ว...รวมไปถึง “มือที่สาม” ต่างก็ต้องปรับตัวกัน “รายวัน” เช่นกัน         หลังจากเห็นสภาพท้องถนนในวันสุกดิบ-ศุกร์ 12 (ที่ไม่ใช่ 13) ที่ “โล่งผิดปกติ” เป็นการสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า “อารมณ์คนกรุง” เป็นอย่างไร และ“ชัดเจน” มากว่า ต้องการ “สงบ” หรือ “รุนแรง”         ทำให้ “ทุกฝ่าย” ต้องหันมาประเมินตัวเองและวางแผนกันใหม่          จะเห็นว่า “แกนนำแดง” เองยังต้องรีบเลิก แล้วหันมาสุมหัวกันวางแผน-ปรับทัพ...กันใหม่          ขณะที่ “ฝ่ายมีอำนาจ” ก็ต้องนั่งสรุปและประเมินแผนในการตั้งรับและป้องกัน...กันใหม่          โดย “สองฝ่าย” ต่างจับ “อารมณ์คนกรุง” เป็นตัวตั้ง เพื่อให้ “ซีกตัวเอง” ได้เปรียบสุดๆ         เวลานี้ก็ห่วงแต่ “มือ(สารพัดพิษ)ที่ไม่ได้รับเชิญ” เท่านั้น...ซึ่งมี “ความอยาก-ความกระสัน” ให้เกิดความรุนแรง โดยอาศัย “อารมณ์คนกรุง” นี้...มาสุมไฟให้แรง เพื่อให้ตรงเป้าประสงค์ที่ตัวเองต้องการ         นั่นคือ “ล้างบาง...เฉพาะบางสี” แต่อุ้มชูเฉพาะ “สีของพวกตัวเอง” และ “สีที่ตัวเองชอบ”...555         แต่ “ไต่กอ” อยากให้จับตาถึงบทบาทของคนกลุ่มใหม่ ที่เรียกขานกันในหมู่ “คลุกวงในชั้นสูงสุด” ว่า “กลุ่มขนานอำมาตย์” (แค่ชื่อก็สะแด่วแห้วแล้ว) ซึ่งไม่ต้องการให้เกิดเหตุรุนแรง          เพราะ “กลุ่มขนานอำมาตย์” นี้...รู้ดีว่า “เกมยั่วยุ” ของ “คนสองสี” เวลานี้ “หัวขบวน”ของทั้ง 2 ฝ่าย ต่างต้องการให้เกิดความรุนแรง เพื่อหวังอาศัยสถานการณ์ให้ “ฝ่ายตัวเอง-สีตัวเอง” ได้เปรียบและเหยียบ “สีตรงข้าม”ให้จมธรณี         โดยไม่สนใจ “วิธีการ” และ “เป้าหมาย”ว่า...ประชาชนตาดำๆ จะต้องได้รับความเดือดร้อน-ความเจ็บปวด-ความสูญเสีย...เพียงใด         ซึ่ง “ไต่กอ” ขอบอกว่า “กลุ่มขนานอำมาตย์” นี้ มี “พลังความคิด” ที่ไม่อาจมองข้ามได้ อีกทั้งเป็นกลุ่มก้อนที่สามารถ “สายตรง” ถึง “พลังพิสดาร” จน“ผลักดัน” ให้ “ความคิดดีๆ” เกิดผลต่อสังคม ทั้งในทาง “กว้าง” และ “สูง”          มากเพียงพอที่จะทำให้ “แบ็กอัพ” ของ “เหลือง” หรือ “แดง” หรือ “เขียว” หรือ “น้ำเงิน” ต่างสะพรึงกลัว เพราะรู้ดีว่า “กำลังสู้อยู่กับใคร”         ไม่เช่นนั้น...คงไม่เกิดปรากฏการณ์ “สัญญาณพิสดาร” สวนทางกับ “พลังพิเศษซาดิสม์” (ที่ใครๆ ก็รู้ว่ามากบารมีแค่ไหน) ที่พยายามจะฉายหนังม้วนเก่า “ขออภัยในความไม่สะดวก” ที่สุดแสนจะ “หน่อมแน้ม”         โดย “สัญญาณพิสดาร” นี้ส่งผ่านตรงไปยัง “ป.น้องเล็ก” (คนอื่นไม่เกี่ยว) ซึ่งเวลานี้กำลัง “ขึ้นหม้อ” มีพลังทั้งกว้าง x สูง ชนิดที่ข้ามหัว “รุ่นพ่อ-รุ่นพี่-รุ่นน้อง”         อันเป็นการทำให้ “แผนการ” ของ “พวกซาดิสม์-ชอบรุนแรง” ไม่เป็นไปตามที่ตัวเองหวัง!!!         ที่สำคัญ ณ วันนี้ “ป.น้องเล็ก” จะ “บ้าระห่ำ” ตาม “รุ่นพ่อ-รุ่นพี่-รุ่นน้อง” ที่ชอบ “ซาดิสม์” ไปทำไม          เพราะทุกวันนี้อยู่เฉยๆ ก็ “ขี่คอเด็ก” อยู่แล้ว ขืนทะเล่อทะล่าอะไรลงไป “จะได้ไม่คุ้มเสีย”          พูดอย่างนี้...หลายคนคงเดากันออกว่า “แผนการนี้” คืออะไร...เพราะ “ถ้า(ปล่อยให้)ทำแล้ว...จะได้ไม่คุ้มเสีย” มีแต่จะนำพาประเทศเข้ารกเข้าพง...หนักเข้าไปอีก         ยุทธการของทั้ง “คนที่มากบารมี(บ้านมีเสาแน่นหนา)” กับ “คนที่บารมีหดหาย(ต้องระเห็จในต่างแดน)” ที่เน้น “แบ่งแยกแล้วปกครอง” ให้แต่ละคน-แต่ละฝ่าย มี “พละกำลัง” ของตัวเอง...เพื่อมาคานกันเอง และจะได้ง่ายต่อการ “คอนโทรล” นั้น...เวลานี้กำลังถูก “ทดสอบ” จาก “กลุ่มขนานอำมาตย์” ที่ว่ากันว่า...เวลานี้กำลังมาแรงม๊ากมาก         แต่จะเป็นใครบ้างนั้น...ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องเปิดตัว เพราะเดี๋ยวจะถูก “ตีแตก” ก่อนวันอันสมควร...555         เอาเป็นว่า...กลเกมการเมืองครั้งนี้...จะ “จบสวย” หรือ “ไม่สวย” ก็แล้วแต่...แต่ต้องไม่ใช่วิธีการล้าหลังแบบเดิมๆ อีกต่อไป Whatever will be, will be          เพราะหากจะมีการใช้ “กำลัง” ก็ต้องเป็นการใช้หนทางและรูปแบบที่ “ทั่วโลก” ให้การยอมรับ         ไม่เห็นปฏิกิริยาของ “พี่เบิ้มเมืองลุงแซม” กับ “พี่บิ๊กเมืองผู้ดี” ที่จู่ๆ ก็โดดออกมาดักคอ “แดง” ไม่ให้ดีเดือด...จนเกินเหตุ...หรือ???         นับเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง!!!         สะท้อนความจริงที่ว่า...งานนี้ถ้าจะแรง ก็ต้องแรงในเกม...ถ้าจะมีรายการใช้กำลังจัดการ เพื่อความชอบธรรม เพื่อความสงบสุขของประชาชี...ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย!!!          ไม่เหมือนกับ “ยุทธวิธีเดิมๆ” ที่อะไรๆ ก็เน้นแต่ “ขออภัยในความไม่สะดวก” แต่พอทำมาแล้ว “บางคนที่ชอบกินขิง” กลับทำให้ “ไม่สะดวก” หนักขึ้นไปอีก...แถมตัวเองยังเคลียร์เรื่อง “บ้านบนเขา” ให้สง่างามไม่ได้เลย...555         ส่งท้ายวีคนี้...“ไต่กอ”...ฮัมเพลงเพราะๆ ซึ้งๆ มีความหมาย...         When I was just a little girl          I asked my mother what will I be          Will I be pretty          Will I be rich          Here's what she said to me          Que sera sera          Whatever will be, will be          The future's not ours to see          Que sera sera          When I was just a child in school          I asked my teacher what should I try          Should I paint pictures          Should I sing songs          This was her wise reply          Que sera sera          Whatever will be, will be          The future's not ours to see          Que sera sera          When I grew up and fell in love          I asked my sweetheart what lies ahead          Will there be rainbows day after day          Here's what my sweetheart said          Que sera sera          Whatever will be, will be          The future's not ours to see          Que sera sera          What will be, will be          Que sera sera...         “อะไรจะเกิดมันก็เกิด”...555          เพียงแต่ว่า...ทุกอย่างมันยัง Under Control อยู่ในเกมที่ต้องเล่นกัน ห้ามเล่นนอกเกมเด็ดขาด…เพราะบทเรียนจากการปิดสนามบิน ที่เล่นนอกเกม มันพิสูจน์ชัดแล้วว่า "คุ้ม-ไม่คุ้ม" ต่างชาติ "โอเค-ไม่โอเค"...อิๆๆๆ ............................. คอลัมน์ “ซุบซิบไทยอินไซเดอร์” โดย “ไต่กอ”

ที่มา : http://thaiinsider.info/2009news/gossip/6277-2010-03-13-01-56-39