วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2551

วั น ค อ ย . . . "วันตายนั่นแหละวันลืม"

 

 

 

 

 

 

วันคอย

ยอดรัก...จงมองที่ขอบฟ้า
โอบ ๆ โค้งลงมา นั้นคืออ้อมกอดจากฉัน
ยามเมื่อเราไกลกัน
เธอฉันดังอยู่เคลียไคล้

ยอดรัก...สายลมแผ่วละมุน
นั่นคือสายลมอุ่น ฉันพรมมาและจูบลูบไล้
เธอรู้บ้างหรือไม่
รักใครไม่เท่าเทียมฉัน

คืนวัน...จะผันแปรเปลี่ยนไป
แต่ใจฉันไม่อาจเปลี่ยนเวียนผัน
ซื่อตรง จงรักจนนิรันดร์
หากลืมฉัน ฉันคงต้องกลั้นใจตาย

ยอดรัก...การจากทั้งผูกพัน
ย่อมจะคิดถึงกัน เร่งวันคืนกลับเคียงกาย
ครองรักไม่รู้หน่าย
วันตายนั่นแหละวันลืม



ต้นฉบับ....ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา
ฉบับนี้...."คุณหวานเจี๊ยบ" ร้องเอง
 

 

 

 

 

 

 

 

วันคอย
วันตายนั่นแหละวันลืม

 

 

 

        ใครคนหนึ่งเคยถามฉันว่า ฉันกับเขาใครจะตายก่อนกัน

        แล้วเขาก็ชิงตอบว่า เขาขอตายก่อน เพราะเขาคงทนไม่ได้ที่จะเห็นฉันตาย หรือต้องเป็นคนจัดงานศพให้ฉัน

        เขายังบอกว่า เมื่อเขาตายแล้ว เขาจะคอยมองฉันลงมาจากข้างบน
พร้อมกับแหงนหน้ามองขึ้นไปบนฟ้า


       
ตอนที่ได้ฟัง ฉันก็คิดว่าเขาคงพูดเล่น ๆ ตามประสาคนทำงานศิลปะที่อารมณ์อ่อนไหว แต่หลังจากวันนั้นไม่นาน ฉันก็ได้รับข่าวว่า เขาตายแล้ว เขาฆ่าตัวตาย

        ฉันเคยรู้มาว่า เขาพยายามทำแบบนี้มาหลายครั้ง ประมาณสี่ห้าครั้ง แล้วไม่สำเร็จ แต่ครั้งนี้เขาทำสำเร็จ
เขาไปแล้วจริง ๆ


       
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงในชีวิตฉันที่เกิดขึ้นราวสิบปีได้ จนฉันค่อย ๆ จะลืมเลือนความทุกข์จากการพลัดพรากจากกันไป แม้จะจำติดใจ

        คงเป็นเพราะความตายของพ่อ ที่ทำให้ฉันหวนนึกถึงความตายของเขาคนนั้นขึ้นมาอีกครั้ง


       
พ่อจากไปเพราะสังขารที่เสื่อมโทรมผุพังไปตามกฎธรรมชาติ แต่เขาคนนั้นจากไปเพราะความอ่อนไหว อ่อนแอที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลก แต่กลับเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว กล้าที่จะปลิดชีวิตตัวเอง

        หลายปีที่ผ่านมา ฉันชอบอยู่กับการเจริญมรณานุสสติ พิจารณาความตาย จนรู้สึกว่าความตายเป็นเรื่องธรรมดาโลก 

        แต่กลับเป็นเรื่องน่าแปลกที่หลังจากนั้น ฉันมักมีโอกาสได้พบเห็นคนตายจากการฆ่าตัวตายบ่อย ๆ บางคนก็กำลังจะฆ่าตัวตาย หรือคิดจะฆ่าตัวตาย ซึ่งฉันก็ได้ช่วยให้เขาผ่านช่วงเวลานั้นมาได้อยู่หลายครั้งหลายคน

        ฉันเคยบาดเจ็บจากการช่วยคนที่กำลังจะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ฉันเคยปวดหัวแทบตาย เพราะต้องพูดคุยเกลี้ยกล่อมปรับทุกข์รับฟังเรื่องของคนทุกข์ที่คิดจะฆ่าตัวตายเป็นชั่วโมง ๆ แต่ฉันไม่เคยเบื่อหรือรำคาญพวกเขา เพราะฉันเจอมากับตัวเองแล้วว่า เสี้ยวเวลาระหว่างความเป็นกับความตายมันใกล้กันนิดเดียวจริง ๆ
 


        ฉันขอเพียงให้พวกเขาผ่านมันไปให้ได้


 
        ฉันอยากเห็นทุกคนอำลาโลกนี้ไปอย่างสงบ ค่อย ๆ ดับสังขารที่เสื่อมโทรมผุพังไปตามกาลเวลาคืนธาตุขันธ์ให้กับโลกอย่างพ่อ ไม่อยากเห็นใครจากไปด้วยการทำร้ายทำลายตัวเอง



        ฉันไม่อยากเห็นใครด่วนจากไป....
      เพียงเพื่อจะคอยมองฉันลงมาจากฟากฟ้าอีกแล้ว

 

 

 


 

 

10 ความคิดเห็น:

  1. ป้าหวาน ))))) นู๋ไม่ทราบข่าวเรื่องคุณพ่อป้าเลย > <

    ป้ารักษา สุขภาพนะคะช่วงนี้

    ขนาดยุ่งๆอยู่ก้อยังห่วงนู๋อีกขอบคุณป้ามากๆๆ

    เข่านู๋ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ แต่เวลาเดินขึ้นที่สูงๆยังมีอาการอยู่บ้างค่ะ

    ตอบลบ
  2. เหมือนมาลี ตูมแล้วบาน กลีบสะพรั่ง
    มิช้านาน ร่วงหล่น ลงทับถม
    เมล็ดพันธุ์ หุ้มความลับ ลอยตามลม
    รอเวลา งอกเป็นต้น หมุนเวียนไป

    คัดจาก พิเธีย ค่ะพี่
    เป็นกำลังใจให้นะคะ

    ตอบลบ
  3. ตอนยุ่ง ๆ เรื่องพ่อลืมหนูไปเลยหนะสิจ๊ะ
    ตกลงยังต้องการ "หมอของป้า" อยู่ป่าวจ๊ะ
    จะได้เอาเบอร์โทรฯ ให้

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณมากค่ะ "น้อง ญ"
    "พิเธีย" อีกแล้ว
    พี่น้ำลายหกเลยนะคะเนี่ย
    จะได้ไปซื้อวันไหนน้อ
    อยากอ่านจริง ๆ
    อิจฉาคนได้อ่านแล้วจัง

    ตอบลบ
  5. ลืมถามไป

    > <

    มันแปลว่าไรหงะ "คุณหมอหย่ายยยยยยยยยยยยยย"
    เหมือนหนวดแมวเลย...อิอิ

    ตอบลบ
  6. พี่เจี๊ยบเป็นคนดีจังเลยค่ะ ^_^

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณจ้า "น้องจิ๊บ"

    พี่ยังไม่ได้เป็นคนดีหรอกจ้า
    แค่ "พยายาม" จะเป็นคนดีเท่านั้นเอง
    (ร้ายมาแยะหงะ)

    ตอบลบ
  8. มันเป็นทางของเขา บางคนมีความปรารถนาความตายอยู่

    ตอบลบ
  9. เนาะ
    "ทางของเขา"
    แต่มันก็คงเป็น "ทางของเรา" ด้วยมั้ง
    ที่ต้องไปรู้จักกับพวกเขาและช่วยเขา
    (แม้จะทันบ้าง ไม่ทันบ้าง)

    ตอบลบ