วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

พระไม่ควรออกมายุ่งวุ่นวายกับการบ้านการเมือง ?

Rating:★★★
Category:Other


ภาพพุทธประวัติ
ตอนพระพุทธองค์เสด็จมาห้ามทัพ
พระญาติฝ่ายพระบิดาและพระมารดา
ย่อมเป็นคำตอบได้อย่างดี
กับผู้ที่ตั้งคำถามว่า


พระไม่ควรออกมายุ่งวุ่นวาย
กับการบ้านการเมือง
?








สมุดภาพพระพุทธประวัติ
ฉบับอนุรักษ์ภาพเขียนทางพระพุทธศาสนา
โดย ครูเหม เวชกร


ภาพที่ ๕๙
ทรงห้ามพระญาติฝ่ายพระบิดากับฝ่ายพระมารดา
ซึ่งแย่งกันทดน้ำเข้านามิให้วิวาทกัน



        ภาพที่เห็นอยู่นั้น แสดงถึงเหตุการณ์ตอนหนึ่งที่พระพุทธเจ้าเสด็จกลับเมืองพระญาติ แต่คราวนี้เสด็จมาลำพังพระองค์เดียว เสด็จมาเพื่อทรงระงับสงครามระหว่างพระญาติทั้งสองฝ่าย พระญาติฝ่ายหนึ่งเป็นพระญาติฝ่ายพุทธบิดา ปกครองกรุงกบิลพัสดุ์ อีกฝ่ายหนึ่งเป็นพระญาติฝ่ายพุทธมารดา ปกครองโกลิยนคร หรือเทวทหนครก็เรียก ทั้งสองฝ่ายตั้งบ้านเมืองอยู่คนละริมฝั่งแม่น้ำโรหิณี แล้วเกิดพิพาทกันในปัญหาเรื่องน้ำที่ทดขึ้นทำนา เมื่อฝ่ายอยู่ทางเหนือน้ำทดน้ำจากแม่น้ำเข้านา ฝ่ายทางใต้ก็ขาดน้ำ ทั้งสองฝ่ายเปิดประชุมเพื่อตกลงกันก่อน แต่ก็ตกลงกันไม่ได้ จึงเกิดปะทะคารมกันอย่างรุนแรงถึงกับขุดบรรพบุรุษขึ้นมาประณามกัน

        ไอ้พวกสุนัขจิ้งจอกสมสู่กันเอง ฝ่ายที่ถูกด่าว่าอย่างนี้ เพราะต้นสกุลหลายชั่วคนมาแล้วได้อภิเษกสมรสกันเองระหว่างพี่ชายกับน้องสาว

       
ไอ้พวกขี้เรื้อน ฝ่ายตรงกันข้ามที่ถูกด่าตอบอย่างนี้ ก็เพราะต้นสกุลเป็นโรคเรื้อนถูกเนรเทศออกนอกเมืองไปอยู่ป่า

       
ทั้งสองฝ่ายเตรียมกำลังคนคือทหารและอาวุธจะเข้าห้ำหั่นกัน พระพุทธเจ้าทรงทราบเข้า จึงเสด็จมาทรงระงับสงคราม ทรงประชุมพระญาติทั้งสองฝ่าย แล้วทรงซักถามถึงต้นตอของตัวปัญหา

        พระพุทธเจ้า                ทะเลาะกันเรื่องอะไร
       
พระญาติ                    เรื่องน้ำ  พระพุทธเจ้าข้า
       
พระพุทธเจ้า                ระหว่างน้ำกับชีวิตคนนี่
                                      อย่างไหนจะมีค่ามากกว่ากัน

       
พระญาติ                    ชีวิตคนมากกว่าพระพุทธเจ้าข้า
       
พระพุทธเจ้า                ควรแล้วหรือที่ทำอย่างนี้
       
พระญาติดุษณีภาพทุกคน  ไม่มีใครกราบทูลเลย
       
พระพุทธเจ้า                ถ้าเราตถาคตไม่มาที่นี่วันนี้
                                      ทะเลเลือดจะไหลนอง

                                      
(โลหิตนที ปวัตติสสติ)

        พระญาติทั้งสองฝ่ายเลยเลิกเตรียมทำสงครามกัน เหตุการณ์ตอนนี้เป็นบทบาทสำคัญตอนหนึ่งของพระพุทธเจ้า  เพราะเห็นความสำคัญนี้ คนรุ่นต่อมาจึงสร้างพระพุทธรูปขึ้นปางหนึ่งเป็นอนุสรณ์ที่เรียกกันว่า
พระปางห้ามญาติ นั่นเอง



ภาพและข้อมูลจาก
สมุดภาพพระพุทธประวัติ
ฉบับอนุรักษ์ภาพเขียนทางพระพุทธศาสนา
โดย ครูเหม เวชกร



ที่มา
http://www.84000.org/tipitaka/picture/f59.html


 








        ภาพพุทธประวัติ ตอนพระพุทธองค์เสด็จมาห้ามทัพพระญาติฝ่ายพระบิดาและพระมารดา ซึ่งย่อมเป็นคำตอบได้อย่างดีกับผู้ที่ตั้งคำถามว่า พระไม่ควรออกมายุ่งวุ่นวายกับการบ้านการเมือง ? โดยหลงผิดไปว่า ผู้สงบแล้ว ควรไปอยู่แต่ที่สงบฯ ไม่ต้องออกมายุ่งเกี่ยวกับใคร  นี่คือความเข้าใจผิดของสังคมมนุษยชาติ

       
สมณะคือผู้สงบ เมื่อสงบได้แล้ว ก็จะต้องออกมาช่วยสังคมให้เกิดความสงบเรียบร้อย นี่คืองานและหน้าที่ของสมณะ



ที่มา
สมณะโพธิรักษ์
จากหนังสือ
การลอกคราบเป็นการเมืองใหม่
จัดพิมพ์โดยบริษัทฟ้าอภัย จำกัด
กรกฎาคม ๒๕๕๑





 


5 ความคิดเห็น:

  1. จริงครับ...ทุกผู้ทุกคนล้วนแต่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม

    ตอบลบ
  2. นักการเมืองก็ควรจะได้รับพระธรรมคำสอน(มากๆด้วยละ)

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณค่ะ

    ตราบใดที่นักการเมือง ผู้ปกครอง ไม่มีคุณธรรมมีแต่กิเลส ประเทศก็จะวุ่นวายมิรู้สิ้น ดังนั้นผู้มีคุณธรรมมากกว่าก็ควรจะสั่งสอน ชี้แนะพวกเขาเหล่านั้นที่มีต่อมคุณธรรมบกพร่อง เผื่อจะหายจากโรคสำนึกวิปลาส

    ปัญหาอยู่ที่ว่า พวกเขาเหล่านั้น จะรับกุศลธรรมได้หรือเปล่า?! เฮ้อ เวรกรำ

    ตอบลบ
  4. ว่าจะไม่แล้วนะ พระไหนเนี่ย

    ตอบลบ
  5. มีความคิดเห็นเกี่ยวกับพระ น้อยมากค่ะ แบบว่าเป็นคนบาปอ่ะ ห่างวัดค่ะ แต่มีสามัญสำนึกน้า

    ตอบลบ