Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
นรกมาเกิด !
ยิงระเบิดใส่พันธมิตรฯ
เจ็บระนาว ๘ สาหัส ๒
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ๐๔:๕๔ น.
นรกมาเกิด ! หมาลอบกัดจองเวรไม่เลิก ยิงระเบิด M-79 ใส่พันธมิตรฯเจ็บระนาว ๘ สาหัส ๒ ราย เผยคนร้ายซ้อน จยย. ๒คัน ซุ่มยิงด้านหลัง บช.น. ผิดสังเกต ตำรวจงดตั้งด่านบริเวณดังกล่าว
วันนี้ (๒๒ พ.ย.) เมื่อเวลา ๐๒.๐๐ พ.ต.ท. สำเริง ส่งเสียง รอง ผกก.ปป.สน.ดุสิต รับแจ้งคนร้ายยิงระเบิด M-79 ใส่การ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณแยกสวนมิสกวัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบพื้นถนนถูกแรงระเบิดจนเป็นหลุมกว้าง ๑๐ ซม. นอกจากนี้พบกองเลือดและสะเก็ดระเบิดจำนวนหนึ่ง รถปิคอัพนิสสันฟรอนเทียร์ ทะเบียน ปธ ๔๒๑๖ กทม. ที่จอดอยู่บริเวณที่เกิดเหตุถูกสะเก็ดระเบิดด้านข้างเป็นรอยจำนวนมาก รถกระบะโตโยต้า ทะเบียน คน ๕๒๐๗ กทม. สะเก็ดระเบิดโดนกระจกด้านที่นั่งคนขับเป็นรอยร้าว เจ้าหน้าที่จึงเก็บสะเก็ดระเบิดไปให้เจ้าหน้าเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ตปพ.ตรวจสอบอีกครั้ง
ส่วนคนเจ็บมี ๘ ราย ประกอบด้วยนายเอกพล สหวัฒน์ อายุ ๓๓ ปี ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหลังและที่แขนขา นายอนุพงศ์ เสมอภาค อายุ ๒๒ ปี ถูกสะเก็ดระเบิดทั่วทั้งตัว ทั้งสองรายอาการสาหัส เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลรามาแล้ว
นอกจากนี้มี นายพงษ์ชนก กาญจนอมฤทธ์ อายุ ๓๑ ปี ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหลังและข้อศอก นายสำเริง บัวจันทร์ อายุ ๒๖ ปี บาดเจ็บหัวไหล่ซ้ายและบริเวณหู นายประคอง หาไชย อายุ ๓๘ ปี บาดเจ็บที่หูและหลัง นายสมชาย วงศ์สนธิ อายุ ๔๔ ปี บาดเจ็บที่หลัง นายณรงค์ นาคเอี่ยม อายุ ๖๔ ปี บาดเจ็บที่บริเวณคอและข้อศอก และนายวิรัตน์ เพียรสัจจะ อายุ ๕๔ ปี บาดเจ็บที่หลังและไหล่ ขา มือ ทั้งหมดบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่เต็นท์พยาบาลแพทย์อาสา
สอบสวนนายพงษ์ชัย แซ่ตั้ง อายุ ๔๒ ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะจอดรถแท็กซี่รอผู้โดยสารใกล้ ๆ กองทัพภาคที่ ๑ เห็นวัยรุ่น ๔ คน มีคนหนึ่งสวมเสื้อสีขาว ขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน ๒ คัน โดยจำได้เพียงคันเดียวว่าเป็นรถยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นโนวาสีแดง มาจอดบริเวณด้านหลังกองบัญชาการตำรวจนครบาล ฝั่งกระทรวงศึกษาธิการ ตนก็ไม่ได้สนใจ จากนั้นได้ยินเสียงดังบึ้ง จึงหันไปดู เห็นลูกไฟสีแดงลอยมาก่อนตกลงพื้นตรงบริเวณที่การ์ดอาสานั่งเฝ้ายามอยู่ เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เห็นคนเจ็บจำนวนมาก จากนั้นคนร้ายได้เร่งเครื่องหลบหนีไปทางแยกวังแดง
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้บริเวณแยกวังแดงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านตรวจค้นอาวุธบุคคลเข้าออก แต่ในระหว่างเกิดเหตุกลับไม่มีการตั้งด่านแต่อย่างใด นอกจากนี้ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ได้มีคำสั่งก่อนหน้านี้ให้เจ้าหน้าที่ทั้ง ๘๘ สน. ตั้งด่านตรวจค้นอาวุธในพื้นที่ แต่ยังมาเกิดเรื่องอีก
อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดเหตุมีคนเห็นรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยูสีขาวขับวนเวียน ๒-๓ รอบ ก่อนที่รถ จยย. ขับมาก่อเหตุยิงระเบิดใส่ดังกล่าว
ที่มา
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000138325
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น