วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

"จดหมายสมัคร" ถึงผู้ดำเนินรายการ "ความจริงวันนี้"

Rating:★★★★★
Category:Other

 


 


‘สมัคร’ ไม่สำนึก
เขียน จม. ยันไม่ผิด
ด่าพันธมิตรสหรัฐฯ รับข้อมูลด้านเดียว


 


โดย ผู้จัดการออนไลน์
๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ๐๐:๒๕ น.


 



บางส่วนของจดหมายจากนายสมัคร
ที่เขียนตัดพ้อผ่านรายการความจริงวันนี้ทางเอ็นบีที


 


ผู้จัดการออนไลน์ – “สมัคร” เขียนจดหมายผ่าน “สามเกลอหัวขวด NBT” ให้อ่านออกอากาศ ตัดพ้อโดนประท้วง-ด่าทอ ที่สนามบินฮุสตัน ยังด้านยันไม่เคยทำกรรมกับประเทศชาติและประชาชน ระบุไม่เคยคิดขายชาติ กอบกู้ประเทศชาติ ส่งเสริมกองทัพ กัดพันธมิตร สหรัฐฯ แค่คนกลุ่มเล็ก-รับข้อมูลแค่ด้านเดียว-บ่อนทำลายชาติ
      
       จากกรณีที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๖ พ.ย. ที่ผ่านมา (ตามเวลาในประเทศไทย) นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางไปถึงประเทศสหรัฐอเมริกา โดยขออนุญาตศาลไปรักษาอาการป่วยที่นครฮุสตัน มลรัฐเท็กซัส ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึงก็มีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมายกป้ายต้อนรับด้วยข้อความว่า “เวรกรรม ไม่ต้องรอชาติหน้า”, “พันธมิตร Houston (ไม่) ต้อนรับอ้ายคนขายชาติ” เป็นต้น
      
       วานนี้ (๗ พ.ย.) นายสมัครได้เขียนจดหมายส่งมาให้รายการ “ความจริงวันนี้” อ่านออกอากาศโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยข้อความในจดหมายมีดังนี้



       เรียน ท่านผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ที่นับถือ
      
       นับตั้งแต่ที่ผมพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ที่ผมรับผิดชอบเรื่องบ้านเมืองไปแล้ว ผมก็ไม่พยายามที่จะแสดงความคิดเห็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับทางการบ้านการเมือง โดยเมื่อเดือนเศษ ๆ ที่ผ่านมา ผมต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทางเมืองไทย และเมื่ออาการค่อยทุเลาลงแล้ว หมอทางเมืองไทยก็ตกลงกับหมอทางสหรัฐอเมริกาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญให้ผมเดินทางมารักษาตัวเพื่อให้อาการของโรคที่เป็นอยู่หายเสร็จเด็ดขาด
      
       เมื่อตอนที่ผมอยู่เมืองไทย คนอย่างผมก็ไปไหนมาไหนโดยไม่เคยเจอใครที่จะมาแสดงอาการด่าทอว่ากล่าวผมตลอดระยะเวลา ๗ เดือนที่ผมทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองอยู่
      
       ผมมาถึงเมืองฮุสตัน เมื่อเย็นวันที่ ๕ พฤศจิกายน มีคนไทย ๓-๔ คน มายกป้ายด่าทอผม ด้วยถ้อยคำหยาบคาย กล่าวหาว่าผมเป็นไอ้คนขายชาติ และบอกว่ากรรมเวรไม่ต้องรอชาติหน้า ถือป้ายตั้งแต่ผมออกจากเครื่องที่ผมเดินทางกันไป ๓ คนพ่อแม่ลูก กับญาติสนิทอีก ๒ คนรวมเป็น ๕ คน เข้าลิฟต์มันก็วิ่งถือป้ายเข้ามายืนอยู่ในลิฟต์ด้วย ออกไปรอเอากระเป๋าก็วิ่งเที่ยวชูป้าย เที่ยวถ่ายรูป ถ่ายดักหน้าดักหลัง ปากก็ตะโกนร้องคำเหมือนกับผมเป็นอาชญากรตัวสำคัญที่ทำลายบ้านเมือง ออกมายืนรอรถข้างนอกประตู ก็ออกมาวิ่งเที่ยวชูป้ายวิ่งข้ามฟากถนนไปมา แล้วไอ้เจ้าผู้ชายก็มายืนตะโกนด่าอยู่ข้างรถที่ผมขึ้นไปนั่ง ว่าผมเป็นไอ้ขายชาติ ๆ ๆ ๆ ๆ ตะโกนอยู่ข้างรถเหมือนเจ็บแค้นใจแทนพี่น้องคนไทยทั้งชาติทำนองนั้น
      
       ตลอดระยะเวลาที่ ๓-๔ คน เที่ยววิ่งแสดงกิริยาอย่างที่ว่า ผมไม่ได้แสดงกิริยาตอบโต้อะไร เพราะแม้แต่หน้าของเขา ๓-๔ คน ที่มาแสดงกันนั้น ผมก็ว่าไม่อยากมองหรือจดจำ
      
       ผมคิดอยู่ในใจเพียงว่า เมื่อผมมีโอกาสนั่งเขียนหนังสือผมก็คิดจะเขียนมาถึงผู้จัดรายการความจริงวันนี้ เพื่อบอกความจริงให้พวกที่เขามาแสดงกันอย่างที่ว่า โดยที่คนพวกนี้เขาไม่เคยรู้หรือแกล้งไม่รู้เลยว่าใครเป็นใคร เช่น
คนอย่างผมได้ทำอะไรให้กับบ้านเมือง ตลอดระยะเวลา ๗ เดือนที่ผมอยู่ในหน้าที่ ผมจะบอกให้ว่าคนอย่างผม นายสมัคร สุนทรเวช นั้นเป็นนักการเมืองที่ไม่เคยแม้แต่จะคิดเรื่องเอาชาติบ้านเมืองไปขายให้กับใครที่ไหน
      
       ตรงกันข้าม
ผมนี่แหละเป็นคนที่มีโอกาสทำหน้าที่เป็นคนกอบกู้สถานการณ์ของบ้านเมืองที่เกิดความเสียหายขึ้นภายหลังจากที่มีการยึดอำนาจการปกครองเป็นเวลาปีครึ่ง
      
       ผมเป็นหัวหน้าของคณะผู้คนที่เข้ามารับตำแหน่งที่เป็นผู้บริหารบ้านเมือง อย่างถูกต้องตามตัวบทกฎหมาย
       
       ตลอดเวลาที่ผมทำหน้าที่ทุกอย่าง อย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยเพื่อกอบกู้สถานะของความเป็นชาติที่อยู่ในสังคมโลกที่ประเทศทั่วโลกเขาหันกลับมาร่วมมือในกิจการต่าง ๆ จนเกือบเป็นปกตินั้น
ผมต้องทำงานหนักเพียงไร
      
       ผมเป็นคนที่ทำหน้าที่รักษาพระศาสนา ตั้งแต่ก่อนแต่ไร จนเมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรี ผมก็ยิ่งทำหน้าที่ปกป้องดูแลและส่งเสริมพระศาสนาที่คนไทยร้อยละ ๙๕ ของบ้านเมืองเรานับถือ
      
       ในความเป็นคนไทย ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีความจงรักภักดี และมีความเคารพเทิดทูน สถาบันสูงสุดของบ้านเมืองมาตลอด โดยไม่ต้องไปประกาศให้ใครในบ้านเมืองรู้ เพราะทั้งชีวิตผมและวงศ์ตระกูลผมที่สืบย้อนขึ้นไป ๒ ชั่วคนได้สนองงานถวายพระราชวงศ์จักรี ทั้งคุณตา คุณลุง คุณพ่อและคุณตาของผม โดยเมื่อถึงยุคของผม ผมก็ได้สนองงานถวายทุกวาระที่ผมได้รับหน้าที่เป็นฝ่ายบริหารบ้านเมือง
      
       อยากให้รู้ว่า แม้ผมจะทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แม้จะเป็นเวลาเพียง ๗ เดือน ผมก็ได้ทำหน้าที่ของผม ให้สถาบันที่มีหน้าที่ดูแลความมั่นคงของบ้านเมืองให้เข้าใจและไม่มีปัญหาที่จะไปทำให้เกิดความแตกแยกในกองทัพ รวมทั้งการให้ความสนับสนุนและส่งเสริมกิจการงานของกองทัพเป็นที่เข้าใจและพอใจของทุกฝ่าย
      
       ในฐานะที่ประเทศไทยได้ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มประเทศอาเซียน ผมได้ทำหน้าที่ของผมในกลุ่มประเทศอาเซียน ๑๐ ประเทศ กับประเทศคู่เจรจา ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ หรือจีน ที่ผมมีโอกาสได้พบเจรจาความกับรับผิดชอบอยู่ คือ ผมประกาศและยืนยันที่จะรักษาระบอบประชาธิปไตยให้ยังคงอยู่กับบ้านเมือง โดยไม่ยอมให้ใครมาใช้อำนาจแบบอนารยะมาล้มระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่เรามีและเป็นกันอยู่
      
       เมื่อผมพ้นจากหน้าที่เพราะคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ และผมไม่บอกรับเข้ารับตำแหน่งอีกเมื่อมีการแสดงจากการขัดข้องทางการเมือง ผมก็ถอยออกมาห่างอย่างที่ได้เรียนไว้ในตอนต้น
      
       ที่ผมต้องทำ และต้องเขียนมาถึงรายการความจริงวันนี้ก็เพราะผมต้องการให้พี่น้องประชาชนคนไทยที่รู้จักผมมาตลอด ชี้นำในการดำเนินงานทางการเมืองของผม ว่าผมไม่เคยคิดว่าคนอย่างผมที่ได้เข้ามาทำหน้าที่ทางการเมืองในช่วงที่ต้องมากอบกู้สถานะของประเทศจนเป็นปกติ จะมาถูกคนไทยที่มาอยู่ต่างแดนที่แม้ว่าตั้งแต่เข้ามายังไม่เคยเห็นหน้ากัน มาแสดงอะไรกับคนอย่างผมที่เดินทางมารักษาตัวกันเพียง ๕ คน อย่างที่เล่ามาให้ทราบแล้วในตอนต้น
      
       คนพวกนี้ แม้จะออกมาอยู่ไกลคนละซีกโลกของบ้านเมืองเรา อาจจะได้เสพหรือรับรู้แต่ข่าวที่เป็นการให้ร้ายป้ายสีกัน ในการจะล้างผลาญเป็นทางการเมืองโดยไม่ลืมหูลืมตา และไม่ยอมรับรู้รับฟัง ความจริงอีกด้านโดยแยกไม่ออกว่าใครทำอะไรให้บ้านเมืองมาอย่างไร จนมาคอยจ้องแสดงอาการอย่างที่ผมเล่ามาให้ฟังกันได้ เหมือนกับผมเป็นคนเลวทรามต่ำช้าที่เป็นผู้ทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหาย จนต้องมาเขียนป้ายประณามและมายืนตะโกนด่าซ้ำ ๆ ซาก ๆ ว่าผมเป็นไอ้ขายชาติ ๆ ๆ อยู่ข้างรถผม
      
       ขอเล่าความทุกข์ใจของผมมาถึงพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ยังมีใจเป็นชนชาติเดียวกันให้ทราบความจริงผ่านรายการความจริงวันนี้ ทั้งนี้ เพราะกิจกรรมที่ทำกันอย่างไม่ลืมหูลืมตาของคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่กระจายกันทั่วไปในแหล่งที่มีคนไทยอยู่ทั่วโลกอย่างที่ทำกันนี้ เป็นกิจกรรมที่คนเป็นหัวโจกดำเนินการจะมีความภาคภูมิใจอย่างไรก็ตามเถิด แต่นี่เป็นกิจกรรมที่ทำลายความเป็นชาติไทยที่มีความรักความผูกพันกันมายาวนานตลอดชีวิตของคนไทยเรา อย่างน่าเศร้าน่าสลดใจเป็นที่สุด
      
       เหมือนอย่างชื่อหนังสือเล่มใหม่ของผมที่กำลังเขียนอยู่ที่ผมให้ชื่อว่า
"บางทีจะสายไป...หากคนไทยยังไม่ฉุกคิด"
      
                                                   ด้วยรักและคิดถึง
                                                   สมัคร สุนทรเวช




       ทั้งนี้พันธมิตรฯ ฮุสตัน ให้เหตุผลถึงการเดินทางไปประท้วงนายสมัครถึงสนามบิน ทั้ง ๆ ที่ทั้งสงสารและสมเพชนายสมัคร โดยระบุว่า “ถึงแม้ว่านายสมัครจะป่วยหนัก แต่เราก็จำต้องเดินทางไปประท้วงเขาที่สนามบิน จากพฤติกรรมและการกระทำของเขาต่อนักศึกษา ประชาชน และประเทศชาติ ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะกรณีสังหารนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ในเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ จนถึงกรณีทำร้ายประชาชนในปี ๒๕๕๑ รวมถึงกรณีปราสาทพระวิหาร”



 


ที่มา
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000132402


 


 

4 ความคิดเห็น:

  1. เป็นนักการเมืองคนหนึ่งที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองจนวาระสุดท้าย

    ตอบลบ
  2. แค่คนไม่มีค่า ไม่มีราคา อย่าไปให้ค่าเขาเลย ลืมเขาเสียเถอะ

    ตอบลบ
  3. ค่ะ
    ลืมค่ะลืม
    เอาเวลาไปดู "หีบหลอนซ่อนวิญญาณ" ดีกว่านะคะ
    "ศิลามณี" ก็น่าสนุกนะคะ

    ตอบลบ