วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

๓๐ พ.ย. - ยิงระเบิดถล่มหน้าเวทีทำเนียบ สาหัสนับ ๑๐ - ปาบึ้ม ASTV ซ้ำ

Rating:★★★★★
Category:Other

 



สัตว์นรก!
ยิงระเบิดถล่มหน้าเวทีทำเนียบ
สาหัสนับ 10 - ปาบึ้ม ASTV ซ้ำ



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 
30 พฤศจิกายน 2551 00:05 น.


เกิดเหตุคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่หน้าเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสนับสิบคน

          หลังจากนั้นเมื่อเวลา 00.15 น.ที่ผ่านมา คนร้ายได้ยิงระเบิดเข้าใส่สำนักงานเอเสทีวีที่บ้านเจ้าพระยาถนนพระอาทิตย์ จำนวน 2 ลูก พร้อมกับยิงอาวุธสงครามเข้าใส่จากทางแม่น้ำเจ้าหลายนัด หลังจากนั้นมีเสียงยืนปืนตอบโต้กันไปมาเป็นเวลาประมาณ 10 นาที



 


ที่มา
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000141378


 



สัตว์นรกกัดไม่ปล่อย
ปาระเบิดใส่เวทีทำเนียบฯ
พธม.เจ็บ!


โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
30 พฤศจิกายน 2551 00:42 น.


 


สัตว์นรกกัดไม่เลิก! ปาระเบิดใส่พันธมิตรฯ ใกล้เวทีภายในทำเนียบรัฐบาล บาดเจ็บรายหลาย เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต การ์ดพันธมิตรฯรีบนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

          วันนี้(29 พ.ย.)เมื่อเวลา 23.50 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงระเบิดใส่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยใกล้เวทีทำเนียบฯ จนทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนหลายราย โดยขณะนี้การ์ดพันธมิตรฯกำลังนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และในจำนวนผู้บาดเจ็บม่ช่างกล้องของเอเอสทีวีด้วย

          จากรายงานเบื้องต้น ลูกระเบิดตกลงในกลุ่มผู้ชุมนุมห่างจากเวทีประมาณ 200 เมตร มีผู้บาดเจ็บสาหัสด้วย โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า เห้นลำแสงยิงมาจากทางด้านชุมขนใกล้วัดเบญจมบพิตร

          หลังจากนั้นเมื่อเวลา 00.15 น.ที่ผ่านมา คนร้ายได้ยิงระเบิดเข้าใส่สำนักงานเอเสทีวีที่บ้านเจ้าพระยาถนนพระอาทิตย์ จำนวน 2 ลูก พร้อมกับยิงอาวุธสงครามเข้าใส่จากทางแม่น้ำเจ้าหลายนัด หลังจากนั้นมีเสียงยืนปืนตอบโต้กันไปมาเป็นเวลาประมาณ 10 นาที ก่อนที่จะเงียบเสียงไป

          (โปรดติดตามรายละเอียด)


ที่มา
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000141379


 




สัตว์นรกกัดไม่ปล่อย
ปาระเบิดใส่เวทีทำเนียบ
-ป่วน ASTV อีก!



โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 
30 พฤศจิกายน 2551 01:07 น.


การ์ด พธม. รีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล



หมาลอบกัดทำพี่น้องพันธมิตรฯ เจ็บหลายราย



แม้แต่ผู้สูงวัยก็ต้องมาบาดเจ็บกับเหตุการณ์เช่นนี้


สัตว์นรกกัดไม่เลิก! ปาระเบิดใส่พันธมิตรฯ ใกล้เวทีภายในทำเนียบรัฐบาล บาดเจ็บรายหลาย เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต การ์ดพันธมิตรฯรีบนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ไม่หนำใจลอบยิงระเบิดใส่ "เอเอสทีวี" อีก
      
       วันนี้(29 พ.ย.)เมื่อเวลา 23.50 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงระเบิดใส่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยใกล้เวทีทำเนียบฯ จนทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนหลายราย โดยขณะนี้การ์ดพันธมิตรฯกำลังนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และในจำนวนผู้บาดเจ็บมีช่างกล้องของเอเอสทีวีด้วย
      
       จากรายงานเบื้องต้น ลูกระเบิดตกลงในกลุ่มผู้ชุมนุมห่างจากเวทีประมาณ 200 เมตร มีผู้บาดเจ็บสาหัสด้วย โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า เห็นลำแสงยิงมาจากทางด้านชุมขนใกล้วัดเบญจมบพิตร
      
       หลังจากนั้นเมื่อเวลา 00.15 น.ที่ผ่านมา คนร้ายได้ยิงระเบิดเข้าใส่สำนักงานเอเสทีวีที่บ้านเจ้าพระยาถนนพระอาทิตย์ จำนวน 2 ลูก พร้อมกับยิงอาวุธสงครามเข้าใส่จากทางแม่น้ำเจ้าหลายนัด หลังจากนั้นมีเสียงยืนปืนตอบโต้กันไปมาเป็นเวลาประมาณ 10 นาที ก่อนที่จะเงียบเสียงไป
      
       จากการสอบถามนายสมเจตน์ ศาลาวงศ์ อปพร.ประจำจุดท่าพระอาทิตย์ ซึ่งทำหน้าที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ กล่าวว่าคนร้ายที่ลอบก่อเหตุนั่งเรือมากัน 2 ลำ โดยอาศัยอำพรางกับความมืด ล่องเรือทางริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณด้านหลังสำนักงานเอเอสทีวี ก่อนที่จะยิงระเบิดใส่สำนักงานเอเสทีวี2 ลูก และรัวยิงปืนใส่ เสียงดังสนั่น ก่อนที่จะนั่งเรือหนีไป
      
       หลังจากที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสำนักงานเอเสทีวี ได้เพิ่มมาตราการรักษาความปลอดภัย โดยการนำแผงเหล็กมากั้นปิดถนนพระอาทิตย์ บริเวณด้านหน้าสำนักงานเอเสทีวี และหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
      
       ต่อมาเวลา 00.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ชนะสงคราม นำโดย พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ กล่าวเพียงสั้นว่า มีแต่เสียงดัง ไม่มีผู้บาดเจ็บ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงบันทึกประจำวันเอาไว้ โดยเช้าวันนี้จะมาดูจุดเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาร่องรอยเหตุระเบิดครั้งนี้



ที่มา
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000141379
  



ประมวลภาพ
"สัตว์นรก" ลอบยิงเอ็ม 79
ใส่เวทีพันธมิตรฯ 



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
30 พฤศจิกายน 2551 01:28 น. 


ประมวลภาพเหตุการณ์หลังคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่หน้าเวทีปราศรัยของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลาก่อนเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 34 ราย โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์ระว่า เห็นลำแสงยิงมาจากทางชุมชนวัดเบญจมบพิตร




ตามไปดูภาพที่นี่
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000141383 



 

วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

๒๒ พ.ย. ๕๑ - ยิงระเบิด M-79 ใส่พันธมิตรฯ เจ็บระนาว ๘ สาหัส ๒

Rating:★★★★★
Category:Other

 


นรกมาเกิด !
ยิงระเบิดใส่พันธมิตรฯ
เจ็บระนาว ๘ สาหัส ๒  
 


โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 
๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ๐๔:๕๔ น. 


 
นรกมาเกิด ! หมาลอบกัดจองเวรไม่เลิก ยิงระเบิด M-79 ใส่พันธมิตรฯเจ็บระนาว ๘ สาหัส ๒ ราย เผยคนร้ายซ้อน จยย. ๒คัน ซุ่มยิงด้านหลัง บช.น. ผิดสังเกต ตำรวจงดตั้งด่านบริเวณดังกล่าว
      
       วันนี้ (๒๒ พ.ย.) เมื่อเวลา ๐๒.๐๐ พ.ต.ท. สำเริง ส่งเสียง รอง ผกก.ปป.สน.ดุสิต รับแจ้ง
คนร้ายยิงระเบิด M-79 ใส่การ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณแยกสวนมิสกวัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบพื้นถนนถูกแรงระเบิดจนเป็นหลุมกว้าง ๑๐ ซม. นอกจากนี้พบกองเลือดและสะเก็ดระเบิดจำนวนหนึ่ง รถปิคอัพนิสสันฟรอนเทียร์ ทะเบียน ปธ ๔๒๑๖ กทม. ที่จอดอยู่บริเวณที่เกิดเหตุถูกสะเก็ดระเบิดด้านข้างเป็นรอยจำนวนมาก รถกระบะโตโยต้า ทะเบียน คน ๕๒๐๗ กทม. สะเก็ดระเบิดโดนกระจกด้านที่นั่งคนขับเป็นรอยร้าว
เจ้าหน้าที่จึงเก็บสะเก็ดระเบิดไปให้เจ้าหน้าเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ตปพ.ตรวจสอบอีกครั้ง


        ส่วนคนเจ็บมี ๘ ราย ประกอบด้วยนายเอกพล สหวัฒน์ อายุ ๓๓ ปี ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหลังและที่แขนขา นายอนุพงศ์ เสมอภาค อายุ ๒๒ ปี ถูกสะเก็ดระเบิดทั่วทั้งตัว ทั้งสองรายอาการสาหัส เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลรามาแล้ว
      
       นอกจากนี้มี นายพงษ์ชนก กาญจนอมฤทธ์ อายุ ๓๑ ปี ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหลังและข้อศอก นายสำเริง บัวจันทร์ อายุ ๒๖ ปี บาดเจ็บหัวไหล่ซ้ายและบริเวณหู นายประคอง หาไชย อายุ ๓๘ ปี บาดเจ็บที่หูและหลัง นายสมชาย วงศ์สนธิ อายุ ๔๔ ปี บาดเจ็บที่หลัง นายณรงค์ นาคเอี่ยม อายุ ๖๔ ปี บาดเจ็บที่บริเวณคอและข้อศอก และนายวิรัตน์ เพียรสัจจะ อายุ ๕๔ ปี บาดเจ็บที่หลังและไหล่ ขา มือ ทั้งหมดบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่เต็นท์พยาบาลแพทย์อาสา



       
       สอบสวนนายพงษ์ชัย แซ่ตั้ง อายุ ๔๒ ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะจอดรถแท็กซี่รอผู้โดยสารใกล้ ๆ กองทัพภาคที่ ๑ เห็นวัยรุ่น ๔ คน มีคนหนึ่งสวมเสื้อสีขาว ขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน ๒ คัน โดยจำได้เพียงคันเดียวว่าเป็นรถยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นโนวาสีแดง มาจอดบริเวณด้านหลังกองบัญชาการตำรวจนครบาล ฝั่งกระทรวงศึกษาธิการ ตนก็ไม่ได้สนใจ จากนั้นได้ยินเสียงดังบึ้ง จึงหันไปดู เห็นลูกไฟสีแดงลอยมาก่อนตกลงพื้นตรงบริเวณที่การ์ดอาสานั่งเฝ้ายามอยู่ เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เห็นคนเจ็บจำนวนมาก
จากนั้นคนร้ายได้เร่งเครื่องหลบหนีไปทางแยกวังแดง


       
       ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้บริเวณแยกวังแดงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านตรวจค้นอาวุธบุคคลเข้าออก แต่ในระหว่างเกิดเหตุกลับไม่มีการตั้งด่านแต่อย่างใด
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ได้มีคำสั่งก่อนหน้านี้ให้เจ้าหน้าที่ทั้ง ๘๘ สน. ตั้งด่านตรวจค้นอาวุธในพื้นที่ แต่ยังมาเกิดเรื่องอีก 

       อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดเหตุมีคนเห็นรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยูสีขาวขับวนเวียน ๒-๓ รอบ ก่อนที่รถ จยย. ขับมาก่อเหตุยิงระเบิดใส่ดังกล่าว



 


ที่มา
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000138325

 


 

นปก. บุกปาเลือด-ขี้วัวใส่ญาติธรรมในอุทยานขายอาหารเจ

Rating:★★★★★
Category:Other

 


นปก. เถื่อน
บุกปาเลือด-ขี้วัวใส่ญาติธรรม
บุกปลดรูปสมณโพธิรักษ์เผาทำลาย



โดย...ASTVผู้จัดการออนไลน์ 
๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ๑๕:๒๘ น.






อุบลราชธานี - กลุ่มคนเถื่อนเสื้อแดงเมืองอุบลราชธานีฉุนถูกหลอกให้ระดมพลมารอเก้อ หวังป่วน "สมศักดิ์ โกศัยสุข" ๑ ใน ๕ แกนนำ พธม. แต่สุดท้ายไม่มา เลยแสดงความถ่อยยกพลบุกใช้เลือด-ขี้อ่อนวัวปาใส่ญาติธรรมในอุทยานขายอาหารเจ และบุกเข้าปลดรูปสมณโพธิรักษ์ลงมาเผาทำลาย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนดูด้วยความสงบเสงี่ยม และจุดเกิดเหตุตั้งอยู่ห่างจากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเพียง ๑๕๐ เมตรเท่านั้น
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. วันนี้ (๒๑ พ.ย.) นายธีรภัทร วัชรพล หรือดีเจต้อย ผู้ดำเนินรายการทางสถานีวิทยุชุมชนนครอุบลราชธานี และนายประยุทธ มูลสาร หรือดีเจหนุ่มนิรนาม ผู้ดำเนินรายการสถานีวิทยุชุมชน อ.ตาลสุม นำสมาชิก นปก. ทั้งชายหญิงประมาณ ๓๐๐ คน มารวมตัวที่หน้าศาลากลางจังหวัด ก่อนมุ่งหน้าไปที่สถานีรถไฟ อ.วารินชำราบ
      
       ทั้งนี้ เพราะได้ข่าวว่านายสมศักดิ์ โกศัยสุข หนึ่งในห้าแกนนำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จะเดินทางมาร่วมประชุมกับสมาชิกสหภาพการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ จ.อุบลราชธานี
      
       เมื่อไปถึงที่ทำการสหภาพฯ ตั้งอยู่ในสถานีรถไฟ อ.วารินชำราบ ปรากฏว่า การเดินทางมาของนายสมศักดิ์เป็นเพียงข่าวลือ ทำให้แกนนำกลุ่ม นปก. ปรับขบวนมุ่งหน้าไปที่อุทยานบุญนิยม ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายอาหารเจและจำหน่ายสินค้าของกองทัพธรรม ตั้งอยู่ถนนศรีณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี และตั้งอยู่ห่างจากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดประมาณ ๑๕๐ เมตร


      
       เมื่อกลุ่ม นปก. เดินทางไปถึงได้กล่าวปราศรัยโจมตีการชุมนุมของกลุ่ม พธม. ที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมกล่าวคำหยาบคายด่าทอกลุ่มญาติธรรมของกองทัพธรรม ที่อยู่ในอุทยานบุญนิยม แต่ไม่ได้รับการตอบโต้จากญาติธรรม
       
       ต่อมา พ.ต.ท. สถานพร เอมโอษฐ์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ ๑๐ นาย เข้ามาสังเกตการณ์รักษาความสงบ เมื่อกลุ่ม นปก. ที่พยายามยั่วยุให้ญาติธรรมออกมาตอบโต้ไม่ได้ผล จึงเริ่มใช้เลือดวัวและขี้ในลำไส้อ่อนใส่ถุงพลาสติกขว้างปาเข้าใส่ตัวอาคารและกลุ่มญาติธรรม ทำให้ถุงเลือดกับถุงขี้อ่อนแตกเปรอะเปื้อนโต๊ะและพื้นภายในร้านขายอาหาร บางส่วนกระเด็นไปถูกกระถางต้นไม้แตกเสียหาย



 


       นอกจากนี้ นปก. ที่เป็นชายฉกรรจ์ได้พากันวิ่งขึ้นไปดึงเอารูปของสมณโพธิรักษ์ ที่ติดไว้ในอาคารออกมาทำการเผาทำลายทิ้ง โดยระหว่างเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่กองทัพธรรมได้ทำการบันทึกภาพผู้ก่อเหตุไว้ทั้งหมด


       
       ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ส่งมาดูเหตุการณ์ ก็ไม่ได้ทำการห้ามปรามกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ก่อเหตุ เพียงแต่ยืนดูอยู่เฉย ๆ กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ ๓๐ นาที นายธีรภัทรและนายประยุทธได้นำกลุ่ม นปก. ทั้งหมดเดินทางมุ่งหน้าไปที่ กก.ตชด. ที่ ๒๒ อุบลราชธานี เพื่อไปต้อนรับและแสดงความยินดีกับ พ.ต.อ. ภัทรพล ผ่องแผ้ว ที่เดินทางมารับตำแหน่ง ผกก.ตชด. คนใหม่ก่อนพากันสลายตัวไปในบ่ายวันเดียวกัน



       สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นในอุทยานบุญนิยม เจ้าหน้าที่กองทัพธรรมได้ทำการสำรวจความเสียหาย และทำการปัดกวาดทำความสะอาดพื้น พร้อมจะได้หารือกับ พล.ต. จำลอง ศรีเมือง แกนนำกองทัพธรรม จะให้ดำเนินการกับผู้ก่อเหตุอย่างไรต่อไป




 


ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000138054



 

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ไฟล์เสียง...เหตุการณ์ระเบิดจากเวทีพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๑

Rating:★★★★★
Category:Other


 


นำไฟล์เสียง
เหตุการณ์ระเบิด
เมื่อคืนวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
เวลา ๐๓.๒๕ นาฬิกา
ขณะน้อง ๆ กลุ่ม Young PAD กำลังสรุปข่าวรอบดึก
บนเวทีพันธมิตรฯ ณ ทำเนียบรัฐบาล มาให้ฟังกัน


เสียงระเบิดจะอยู่ประมาณนาทีที่ ๑๖




ลองฟังกันดูว่า
ขณะที่ระเบิดหล่นลงบนหลังคาเต็นท์
กลางกลุ่มผู้ชุมนุม
จนบาดเจ็บ เสียชีวิต
พี่น้องเราควบคุมสติกันได้ดีแค่ไหน



ขอคารวะ
พี่น้องพันธมิตรฯ ผู้กล้าทั้งหลาย


 


ช่องที่ระเบิดทะลุเต็นท์ตกลงกลางกลุ่มผู้ชุมนุม


 


นายเจนกิจ กลัดสาคร อายุ ๔๘ ปี
ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา



 



ไฟล์เสียงจาก...คลื่นยามเฝ้าแผ่นดิน
http://www.managerradio.com/

ภาพจาก...ผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000137348


 


 

สัตว์นรก ! ราวีไม่เลิก ลอบยิงระเบิดเข้าทำเนียบฯ ตาย ๑ บาดเจ็บอื้อ

Rating:★★★★★
Category:Other



 


สัตว์นรก ! ราวีไม่เลิก
ลอบยิงระเบิดเข้าทำเนียบฯ
ตาย ๑ บาดเจ็บอื้อ


 


โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 
๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ๐๖:๔๙ น.



 


นายเจนกิจ กลัดสาคร อายุ ๔๘ ปี
ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา



เจ้าหน้านำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล



ช่องที่ระเบิดทะลุเต็นท์ตกลงกลางกลุ่มผู้ชุมนุม



ผู้บาดเจ็บหลายราย
เจ้าหน้าที่ต้องรีบปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาล



ผู้ชุมนุมชี้รอยเลือดผู้บาดเจ็บ
จุดที่ถูกสะเก็ดระเบิด



สัตว์นรกเลวชาติชั่วลอบยิงระเบิดเข้ากลางกลุ่มผู้ชุมนุม อาศัยช่วงกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่นอนหลับ ระเบิดเฉียดเวทีปราศรัยเพียงไม่กี่เมตร หนุ่มใหญ่เคราะห์ร้ายถูกสะเก็ดระเบิดเข้าจุดสำคัญเสียชีวิต ๑ ราย สาหัสอีก ๑ ราย บาดเจ็บอื้อ ช่างภาพเอเอสทีวีก็โดนลูกหลงด้วย ด้านกลุ่มผู้ชุมนุมไม่หวั่นยังปักหลักต่อสู้เพื่อชาติต่อไป
      
       วันนี้ (๒๐ พ.ย.) เมื่อเวลา ๐๓.๒๕ น. ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดเข้าไปภายในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยระเบิดตกลงบนหลังคาเต็นท์ของผู้ชุมนุมก่อนเกิดการระเบิดขึ้น ทำให้เต็นท์มีรู้กว้างขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒๐ ซม. นอกจากนี้จุดเกิดเหตุยังอยู่ห่างจากเวทีปราศรัยเพียงแค่ ๑๕ เมตร 

       จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าเป็นระเบิดชนิด เอ็ม ๗๙ ซึ่งแรงระเบิดทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว สะเก็ดระเบิดกระจายเป็นวงกว้าง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บทันที จำนวน ๒๑ ราย อาการสาหัส จำนวน ๒ ราย ด้านการ์ดอาสาพันธมิตรฯได้เข้าไปในที่เกิดเหตุทันทีเพื่อนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงเป็นการเร่งด่วน
      
       นางต้นขวัญ แสงอาทิตย์ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังนั่งฟังปราศรัยบนเวที ส่วนผู้ชุมนุมบางส่วนก็นอนหลับ ช่วงที่ระเบิดตกลงมาตนไม่ทันตั้งตัวได้ยินเพียงเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว จากนั้นระเบิดตกลงมาและ สะเก็ดกระจายเป็นวงกว้างไปถูกกลุ่มผู้ชุมนุมที่กำลังนอนอยู่ทำให้ได้รับบาดเจ็บหลายคน แต่ก็ไม่รู้สึกหวั่นกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อประเทศชาติต่อไป
      
       ภายหลังจากเกิดเหตุระเบิด ทำให้บรรยากาศที่ชุมนุมของพันธมิตรฯ เต็มไปด้วยความแตกตื่น แต่หลังจากเหตุการณ์สงบลง ผู้ชุมนุมได้กลับเข้าร่วมฟังการปราศรัยของพิธีกรบนเวทีตามปกติ โดยมิได้มีอาการตื่นกลัวต่อเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นแต่อย่างใด
      
       ต่อมาเวลาประมาณ ๐๓.๓๐ น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ รพ. รามาธิบดี ด้าน พญ. รพีพร โรจน์แสงเรือง แพทย์ผู้ทำการรักษา เปิดเผยว่า เบื้องต้นมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดภายในทำเนียบรัฐบาลเข้ามารับการักษาทั้งหมด จำนวน ๘ ราย ประกอบด้วย 
       ๑. นายเจนกิจ กลัดสาคร ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณลำคออาการสาหัสหัวใจหยุดเต้นแพทย์จึงช่วยชีวิตโดยการปั๊มหัวใจ แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา 
       ๒. นายยุทธชัย ลือพักตร์ อายุ ๓๙ ปี สะเก็ดระเบิดฝังในบริเวณไซนัส อยู่ในระหว่างทำการผ่าตัดเอาสะเก็ดระเบิดออก 

       ส่วนอีก ๖ รายถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ประกอบด้วย
       ๑. นางวรรณี รัตนพันธ์ อายุ ๕๑ ปี
       ๒. นางบุศย์รินทร์ กวีพราหมณ์ อายุ ๕๒ ปี
       ๓. นางสุนิสา พงษ์แก้ว อายุ ๖๑ ปื
       ๔. นางเอื้อมพร จิรวนิช อายุ ๕๔ ปี
       ๕. นายเล็ก ชื่นใจ อายุ ๕๒ ปี
       ๖. นางอรพิน อรรจนถีรวัต อายุ ๔๙ ปี
      
       สำหรับรายชื่อผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาที่ รพ. พระมงกุฎ ประกอบด้วย
       ๑. นายมรกต เฟื่องฟูวงศ์รัตน์ อายุ ๔๒ ปี ได้รับบาดเจ็บที่โคนขาขวา
       ๒. นายประดิษฐ์ ชูมีศรี อายุ ๒๐ ปี ได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ขวาและกกหู
       ๓. นายไพฑูรย์ ดูเหมาะ อายุ ๖๖ ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขนซ้าย
       ๔. นางอรวรรณ วนัสบดีกุล อายุ ๕๖ ปี ได้รับบาดเจ็บที่โคนขาซ้าย
       ๕. นายวิรัตน์ วิเชียรพงษ์ อายุ ๔๙ ปี ได้รับบาดเจ็บที่กกหูซ้าย
       ๖. นางเบ็ญจภร บัวพูน อายุ ๔๒ ปี ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าขวา
       ๗. นางลำดวน สุขเสงี่ยม อายุ ๔๘ ปี ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าซ้าย
       ๘. นายสุเทพ สุขคำแหง อายุ ๔๙ ปี ได้รับบาดเจ็บที่ข้อศอกซ้ายสะเก็ดระเบิดฝังใน
       ๙. นางภาวนา คำสันยี อายุ ๕๑ ปี ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย
       ๑๐. นางทิพวรรณ อู่ประสิทธิ์วงศ์ ได้รับบาดเจ็บที่สะโพกด้านซ้าย
      
       นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดอีกจำนวน ๕ ราย ถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ. จุฬา จำนวน ๑ ราย รพ. วชิระ จำนวน ๑ ราย และ รพ. กลางอีก จำนวน ๓ ราย โดยที่ รพ. กลางมีช่างภาพของ ASTV คือนายนพพร สุขราม อายุ ๒๕ ปี ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บที่บริเวณไหล่เข้ารับการรักษาอยู่ด้วย
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ผู้บาดเจ็บที่เข้าทำการรักษาที่ รพ. พระมงกุฎได้รับการรักษาจนอาการปลอดภัยแล้ว ซึ่งแพทย์ได้ทำแผลและให้ผู้ที่บาดเจ็บเล็กน้อยทยอยเดินทางกลับได้แล้ว
      
       รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า แกนนำพันธมิตรฯ ได้เรียกประชุมด่วน เพื่อหาทางป้องกันเหตุร้าย และเร่งหาตัวคนร้ายที่ลอบยิงระเบิดใส่พันธมิตรฯ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด


 


ที่มา...ผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000137348

 
 
 
 

วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ตำรวจรู้ดี อ้างบึ้ม พธม. เกิดจากในทำเนียบ คาดไม่ใช่เอ็ม ๒๙

Rating:★★★★★
Category:Other


 


ตำรวจรู้ดี
อ้างบึ้ม พธม. เกิดจากในทำเนียบ
คาดไม่ใช่เอ็ม ๒๙




โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 
๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ๑๔:๒๔ น.
 




รูโหว่จากลูกระเบิด
ที่ตำรวจอ้างว่าเกิดจากภายในทำเนียบฯ



บช.น. บอกเหตุบึ้มข้างเวทีพันธมิตรฯ ไม่ใช่การยิงจากรอบนอกเข้ามา แต่เป็นระเบิดขึ้นภายใน คาดไม่ใช่ระเบิดเอ็ม ๒๙ ตามที่หลายฝ่ายระบุ ขณะเดียวกัน ขอความร่วมมือ ปชช. ช่วยแจ้งเบาะแสวัตถุต้องสงสัยในช่วงวัน “ลอยกระทง”
       
       วันนี้ (๑๑ พ.ย.)
พล.ต.ต. สุพร พันธุ์เสือ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงเหตุระเบิดข้างเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า เบื้องต้นคาดว่าไม่ใช่ระเบิดเอ็ม ๒๙ ตามที่หลายฝ่ายให้สัมภาษณ์ และไม่ใช่การยิงจากรอบนอกเข้ามา แต่เป็นการระเบิดขึ้นจากภายใน ส่วนจะเป็นระเบิดเอ็ม ๗๙ หรือไม่นั้นคงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากอานุภาพทำลายล้างต้องมากกว่านี้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เนื่องจากพันธมิตรฯ ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปภายใน 

       ส่วนกรณีที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ ๑ คนนั้น จากการสอบสวนพบว่าไม่น่ามีส่วนเกี่ยวข้องจึงปล่อยตัวไป และไม่สามารถตอบได้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯ หรือไม่
      
       พล.ต.ต. สุพร กล่าวถึงกรณีมีรายงานข่าวจะมีการขนอาวุธเพื่อเตรียมมาก่อเหตุใหญ่ว่า ตำรวจได้หาข่าวในเชิงลึกและตั้งด่านจุดสกัดในพื้นที่ กทม. มาตั้งแต่วันที่ ๕ พ.ย. ที่ผ่านมาแล้ว
      
       นอกจากนี้ ในมาตรการรักษาความปลอดภัยช่วงเทศกาลลอยกระทงนั้น เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในคืนวันลอยกระทง หากพบเห็นวัตถุต้องสงสัยขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่จะจัดชุดหน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด กองบัญชาการตำรวจนครบาลเข้าตรวจสอบ ซึ่งตำรวจจะเข้าตรวจสอบทุกที่ที่มีการแจ้งเหตุเข้ามา แม้จะพบเป็นวัตถุระเบิดหรือไม่ก็ตาม อย่างไรก็ตาม ได้จัดชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกกองบังคับการไปตรวจสอบร้านพลุและดอกไม้ไฟ เพื่อห้ามจำหน่ายให้ประชาชนอย่างเด็ดขาด หากพบผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดี
      


ส่วนหนึ่งของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
บึ้มข้างเวทีพันธมิตรฯ



       วันเดียวกัน ร.ต.อ. ป้อมเพ็ชร โรชกลาง พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ควบคุมตัว นายเกียรติศักดิ์ รักภู่ อายุ ๓๕ ปี ชาวจังหวัดชุมพร ซึ่งอ้างว่าเป็นคนขับแท็กซี่ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ต้องหา “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และพกพาเข้าไปในเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ที่ถูกจับกุมได้พร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ และอาวุธอื่น ๆ ซึ่งซ่อนอยู่ในรถแท็กซี่ ทะเบียน ๗๖๑๔ กทม. บริเวณจุดตรวจค้นหน้าบ้านพิษณุโลก เมื่อเวลา ๐๒.๐๐ น.วันที่ ๑๐ พ.ย.ที่ผ่านมา มาขออำนาจศาลอาญาฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา ๑๒ วัน ไปจนถึงวันที่ ๒๒ พ.ย.นี้ เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังต้องสอบพยานเพิ่มอีก ๔ ปาก และรอผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติอาชญากรผู้ต้องหา ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้อง
      


       อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ขณะนี้ได้เกิดเหตุการลอบทำร้ายพันธมิตรฯ แบบรายวัน โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ อีกทั้งยังปล่อยให้มีการก่อเหตุอย่างสะดวก ก่อนที่จะออกมาให้สัมภาษณ์ในภายหลังในลักษณะกล่าวหาว่าพันธมิตรฯ เป็นผู้สร้างสถานการณ์ โดยที่ไม่ได้มีการสอบสวนหรือดำเนินการติดตามตัวผู้กระทำความผิด
      
       นอกจากนั้น หลังเกิดเหตุแทบทุกครั้ง พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่ออกมารับใช้ทักษิณได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะท้าทายว่าจะก่อเหตุรายวันจนกว่าพันธมิตรฯ จะออกจากทำเนียบ แต่ตำรวจกลับไม่ได้มีการนำตัวมาสอบสวน หรือส่งสายสืบไปติดตามพฤติกรรมของ เสธ.แดง แต่อย่างใด

 


ที่มา
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000133674


 


 

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

“สัตว์นรก” เลวสุดขั้ว !! ลอบปาบึ้มใส่เต็นท์ “พันธมิตรฯ” บาดเจ็บ ๒ ราย

Rating:★★★★★
Category:Other



 


“สัตว์นรก”เลวสุดขั้ว !!
ลอบปาบึ้มใส่เต็นท์ “พันธมิตรฯ”
บาดเจ็บ ๒ ราย


 


โดย ผู้จัดการออนไลน์
๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ๐๓:๔๒ น.



“สัตว์นรก” เลวสุดขั้ว รับเศษเงิน "เดนนรก" ลอบขว้างระเบิดใส่เต็นท์ “พันธมิตรฯ” ห่างจากเวทีปราศรัยเพียง ๕๐ เมตร ส่งผลให้ “แนวร่วมพันธมิตรฯ” บาดเจ็บทันที ๒ ราย
      
       วันนี้ (๑๑ พ.ย.) เมื่อเวลา ๐๓.๒๕ น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณเต็นท์ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งห่างจากเวทีปราศรัย โดยเยื้องไปทางขวามือเพียง ๕๐ เมตร เท่านั้น 
       
       จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่า คนร้ายน่าขว้างระเบิดเข้ามา แล้วไปตกบนหลังคาเต็นท์ของผู้ชุมนุมก่อนเกิดการระเบิด โดยภายหลังจากการระเบิด ส่งผลให้เต็นท์มีรู้กว้างขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑ เมตร นอกจากนี้ มีผู้บาดเจ็บทันที ๒ ราย
      
       ด้านการ์ดอาสาพันธมิตรฯ ได้เข้าไปในที่เกิดเหตุทันที พร้อมกันแนวร่วมพันธมิตรฯ ที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกจากพื้นที่ที่เกิดเหตุ เนื่องจากต้องการรักษาสภาพของที่เกิดเหตุเพื่อไม่ให้หลักฐานที่สำคัญทางวัตถุระเบิดหายไปจากพื้นที่ดังกล่าว และเป็นที่น่าสังเกตว่า จุดระเบิดที่เกิดขึ้นนั้น อยู่ในแนวเดียวกันกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่เต็นท์นักรบอิสระ ซึ่งขยับเข้าใกล้เวทีพันธมิตรฯ เพียง ๕๐ เมตร เท่านั้น
      
       รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากเกิดเหตุระเบิด ทำให้บรรยากาศที่ชุมนุมของพันธมิตรฯ เต็มไปด้วยความแตกตื่น แต่หลังจากเหตุการณ์สงบลง ผู้ชุมนุมได้กลับเข้าร่วมฟังการปราศรัยของพิธีกรบนเวทีตามปกติ โดยมิได้มีอาการตื่นกลัวต่อเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นแต่อย่างใด
       
       นส. รุ่งทิวา รุ่งเรือง อายุ ๔๘ ปี พันธมิตรฯ จากโชคชัย ๔ ซึ่งนอนอยู่เต็นท์ใกล้เคียงจากจุดเกิดเหตุเพียง ๕ เมตร เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังเคลิ้มหลับ ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ซึ่งไม่รู้ว่าเกิดขึ้นจุดใด แต่ตนรู้สึกแสบแก้วหูมาก โดยความรู้สึกแรกเหม็นไหม้มาก ๆ และเมื่อได้สติจึงพยายามมองดูรอบ ๆ ตัว จึงพบว่า จุดที่เกิดระเบิดนั้น ห่างจากที่ตนนอนไปไม่ไกล โดยระเบิดลูกดังกล่าวไปตกอยู่ที่ผ้าเต็นท์ซึ่งตนเพิ่งซื้อมาใหม่แล้วพาดเอาไว้เพื่อใช้เป็นหลังคาเต็นท์ ส่งผลให้ผ้าเต็นท์ของตนถูกระเบิดเป็นรูโหว่ ส่วนคนที่ถูกสะเก็ดระเบิดนั้น เป็นชายสูงอายุ ซึ่งถือว่าโชคดีที่เป็นเพียงแค่ชิ้นส่วนของระเบิดซึ่งตกลงไปอยู่ในระหว่างขาของชายคนดังกล่าว
      
       “โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกไม่หวั่นไหว ไม่กลัว และรู้สึกเฉย ๆ ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนระเบิดที่เกิดขึ้นมานั้น ตนมั่นใจว่ามาจากด้านนอกของทำเนียบฯ ฉะนั้นจึงถือว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และยิ่งเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นมากเพียงใด ตนก็จะยิ่งมาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง” นส. รุ่งทิวา กล่าว
      
       ด้าน พล.อ. ปฐมพงษ์ เกษรสุข อดีตประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า ลักษณะของระเบิด น่าจะเป็นเครื่องยิงระเบิดวิถีโค้ง โดยมีระยะยิง ๑๕๐ เมตร ซึ่งถูกยิงมาตกลงกลางหลังคาเต็นท์ โดยระเบิดลูกดังกล่าว ตกลงมาตรงที่มีคนนอนอยู่พอดี แต่โชคดีที่ตกมาบนหลังคาเต็นท์เสียก่อน ทำให้มีผู้บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และจากการสอบถามคนที่เห็นเหตุการณ์ จึงพอสรุปได้ว่า ระเบิดลูกดังกล่าว สามารถทำอันตรายจนถึงชีวิตได้ 
       
       ส่วนการ์ดพันธมิตรฯ จะต้องนำหลักฐานที่เก็บรวบรวมได้ไปส่งมอบให้กับ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เพราะมีการใช้อาวุธสงคราม
      
       “และนี่เป็นการพิสูจน์ว่า แม้ว่าจะเกิดเหตุระเบิดกับพันธมิตรฯ ถึงเพียงนี้ แต่เราก็พร้อมที่จะเปิดถนนเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบัน ดังนั้น รัฐบาลควรที่จะต้องรับผิดชอบต่อ ส่วน เสธ.แดง เสียดายที่ไปอยู่ในโรงเรียนที่ดีที่สุดของประเทศไทย และถ้ามีการสืบทราบว่ามีการเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด ก็สมควรที่จะถูกถอดยศประจาน” พล.อ. ปฐมพงษ์ ระบุ
      
       ด้านนางเพียงใจ ศักดิ์เอี่ยม อายุ ๕๗ ปี พันธมิตรฯ จากลาดพร้าว เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนอยู่ที่บริเวณหน้าเวที โดยขณะนั้นตนได้หันหน้ามาทางเต็นท์ที่เกิดเหตุระเบิด เห็นลำแสงสีฟ้าพุ่งตกลงมาที่หลังคาเต็นท์ โดยที่มาจากลำแสงนั้น มาจากด้านฝั่ง ป.ป.ช. และเมื่อดูจากสายตา ตนพบเพียงรอยระเบิดซึ่งสร้างความเสียหายให้กับตัวเต็นท์เป็นรูเล็กๆ เท่านั้น
       
       ส่วนอาการของผู้บาดเจ็บทั้ง ๒ ราย ทางผู้จัดการออนไลน์ จะรายงานให้ทราบเป็นระยะ


 


ที่มา
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000133441



 


*** รายงานข่าวเพิ่มเติม ***
     จากผู้จัดการออนไลน์



       สำหรับรายชื่อผู้บาดเจ็บเล็กน้อย เนื่องจากโดนสะเก็ดระเบิด ซึ่งถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลวชิระพยาบาล ประกอบด้วย
       
       ๑. นายสุรินทร์ ชัยชนะ
       ๒. นายประจิต คงฤทธิ์
       ๓. นายจรัส ลิ้มสัสนานนท์
      

       ล่าสุด เมื่อเวลา ๐๔.๓๐ น. รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยพร้อมอาวุธสงครามได้ที่ซอยลิขิต บริเวณสี่แยกวัดเบญจมบพิตร โดย พล.อ. ปฐมพงษ์ ได้ประสานไปยังสารวัตรทหาร ซึ่งประจำอยู่ตรงจุดที่สามรถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ พร้อมกับเปิดเผยว่า ตนได้รับการแจ้งจาก ร.ท. ทองเปลว หาญไพบูลย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต ว่า ได้อยู่เวรร่วมกับสารวัตรทหาร ตรงบริเวณจุดสลกัดจับผู้ต้องสงสัย โดยภายหลังจากเกิดเหตุระเบิด สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้พร้อมอาวุธปืน บีบีกัน ซึ่งใช้ในเกมเพ้นท์บอล
      
       พล.อ. ปฐมพงษ์ กล่าวอีกว่า ตนจะไปตรวจสอบที่ สน.ดุสิต อีกครั้งเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวอยู่ ที่สำคัญเวลานี้ ทหารจะต้องมีการดูแลพื้นที่การชุมนุมของพันธมิตรฯ ให้มากกว่านี้ เพราะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้กับกองบัญชาการกองทัพบก กองทัพภาคที่ ๑ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล อีกทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการกำหนดว่าจะมีการเปิดถนน ๑๐ สาย เพื่อให้เกิดความพร้อมที่จะจัดงานราชพิธี ถึงแม้ว่าจะเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจจะเกิดกับผู้ชุมนุมก็ตาม
      
       ส่วนเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นนั้น พล.อ. ปฐมพงษ์ กล่าวว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้น เกิดขึ้นเหมือนกันทุกวัน โดยตนจะเสนอแกนนำพันธมิตรฯ ให้เขียนรายงานสรุปสถานการณ์เพื่อมอบให้กับ ผบ.ทบ. เพื่อยืนยันว่า
การกระทำดังกล่าว เชื่อมโยงกับทหารบางคนหรือไม่ และที่ยังเกิดเหตุร้ายขึ้นมาได้อีกนั้น ย่อมสะท้อนถึงความอ่อนแอของหน่วยงานของตำรวจ และทหาร ดังนั้นการรักษาความปลอดภัยของพันธมิตรฯ ต่อจากนี้ไป จะต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ ผบ.ทบ. ซึ่งมีอำนาจทาง กอร.มน. ซึ่งสามารถใช้มาตรการเข้าไปดูแลสถานการณ์ได้ดีมากกว่านี้



ที่มา
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000133441


 

พันธมิตรฯ ประกาศ "เปิด" ถนนราชดำเนิน ถึง ๕ ธ.ค.

Rating:★★★★★
Category:Other


 


พันธมิตรฯ ประกาศ
เปิดถนนราชดำเนิน
ถึง ๕ ธ.ค. 




โดย ผู้จัดการออนไลน์
๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ๑๙:๕๒ น.



 



 


ประกาศพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ฉบับที่ ๑๔/๒๕๕๑

เปิดเส้นทางถนนราชดำเนินนอก
ถึง ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑



       ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกประกาศฉบับที่ ๑๓/๒๕๕๑ ลงวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑ เพื่อแจ้งให้ทราบว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีความพร้อมที่จะเปิดเส้นทางถนนราชดำเนินนอก ทั้ง ๖ ช่องทางในระหว่างวันที่ ๑๔-๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑ แม้ว่าจะได้ถูกคุกคามและทำร้ายผู้ชุมนุมด้วยอาวุธสงครามจนมีประชาชนได้รับบาดเจ็บมาโดยตลอดก็ตาม แต่หากได้รับทราบว่าจะมีขบวนเสด็จพระราชดำเนินผ่านถนนราชดำเนินนอกเมื่อใดก็จะเปิดเส้นทางดังกล่าวโดยทันที ตามที่ได้เคยเปิดเส้นทางดังกล่าวในวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งเป็นวันปิยะมหาราชมาแล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้ทราบว่าได้มีการเปลี่ยนเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินนอกมาเป็นถนนหลานหลวงแทนแล้ว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงได้แจ้งให้พี่น้องประชาชนได้ทราบโดยทั่วกันตามประกาศดังกล่าวข้างต้น
      
       แม้ว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะได้รับแจ้งให้ทราบว่าได้มีการเปลี่ยนเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินแล้ว และแม้ว่าการชุมนุมยังคงถูกคุกคามและถูกทำร้ายด้วยอาวุธสงครามโดยปราศจากการดูแลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตาม แต่เพื่อยืนหยัดเจตนารมณ์ในการถวายความจงรักภักดีในช่วงเวลาดังกล่าว แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงได้ประชุมกันเมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑ และได้มีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ ให้รื้อสิ่งกีดขวางออกจากถนนราชดำเนินนอกออกจาก ๑๐ ช่องการจราจร และทางเดินเท้าทั้งหมด โดยจะไม่มีสิ่งกีดขวางใด ๆ ทั้งสิ้น ในระหว่างวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ถึงวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยให้เริ่มทำการรื้อสิ่งกีดขวางทั้งหมดภายหลังจากที่มีมติที่ประชุมในทันที
      
       จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ได้เข้าร่วมกิจกรรมถวายความจงรักภักดี ในการรื้อสิ่งกีดขวางการจราจรและทำความสะอาดให้กับเส้นทางดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกัน
      
       ประกาศ ณ วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑


พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย


 


ที่มา
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000133367



 

วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เชิญพิจารณา..."พระพยอม" กับ "ความจริงวันนี้สัญจร"

Rating:★★★★★
Category:Other

 


 


พูดไม่ออก บอกไม่ถูกค่ะ
เชิญพิจารณา


"พระพยอม" กับ "ความจริงวันนี้สัญจร"


 



 


 


ขอบคุ "คุณพี่ Sitaly" ที่ช่วยส่งมาให้พิจารณาค่ะ


 


 

"จดหมายสมัคร" ถึงผู้ดำเนินรายการ "ความจริงวันนี้"

Rating:★★★★★
Category:Other

 


 


‘สมัคร’ ไม่สำนึก
เขียน จม. ยันไม่ผิด
ด่าพันธมิตรสหรัฐฯ รับข้อมูลด้านเดียว


 


โดย ผู้จัดการออนไลน์
๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ๐๐:๒๕ น.


 



บางส่วนของจดหมายจากนายสมัคร
ที่เขียนตัดพ้อผ่านรายการความจริงวันนี้ทางเอ็นบีที


 


ผู้จัดการออนไลน์ – “สมัคร” เขียนจดหมายผ่าน “สามเกลอหัวขวด NBT” ให้อ่านออกอากาศ ตัดพ้อโดนประท้วง-ด่าทอ ที่สนามบินฮุสตัน ยังด้านยันไม่เคยทำกรรมกับประเทศชาติและประชาชน ระบุไม่เคยคิดขายชาติ กอบกู้ประเทศชาติ ส่งเสริมกองทัพ กัดพันธมิตร สหรัฐฯ แค่คนกลุ่มเล็ก-รับข้อมูลแค่ด้านเดียว-บ่อนทำลายชาติ
      
       จากกรณีที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๖ พ.ย. ที่ผ่านมา (ตามเวลาในประเทศไทย) นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางไปถึงประเทศสหรัฐอเมริกา โดยขออนุญาตศาลไปรักษาอาการป่วยที่นครฮุสตัน มลรัฐเท็กซัส ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึงก็มีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมายกป้ายต้อนรับด้วยข้อความว่า “เวรกรรม ไม่ต้องรอชาติหน้า”, “พันธมิตร Houston (ไม่) ต้อนรับอ้ายคนขายชาติ” เป็นต้น
      
       วานนี้ (๗ พ.ย.) นายสมัครได้เขียนจดหมายส่งมาให้รายการ “ความจริงวันนี้” อ่านออกอากาศโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยข้อความในจดหมายมีดังนี้



       เรียน ท่านผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ที่นับถือ
      
       นับตั้งแต่ที่ผมพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ที่ผมรับผิดชอบเรื่องบ้านเมืองไปแล้ว ผมก็ไม่พยายามที่จะแสดงความคิดเห็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับทางการบ้านการเมือง โดยเมื่อเดือนเศษ ๆ ที่ผ่านมา ผมต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทางเมืองไทย และเมื่ออาการค่อยทุเลาลงแล้ว หมอทางเมืองไทยก็ตกลงกับหมอทางสหรัฐอเมริกาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญให้ผมเดินทางมารักษาตัวเพื่อให้อาการของโรคที่เป็นอยู่หายเสร็จเด็ดขาด
      
       เมื่อตอนที่ผมอยู่เมืองไทย คนอย่างผมก็ไปไหนมาไหนโดยไม่เคยเจอใครที่จะมาแสดงอาการด่าทอว่ากล่าวผมตลอดระยะเวลา ๗ เดือนที่ผมทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองอยู่
      
       ผมมาถึงเมืองฮุสตัน เมื่อเย็นวันที่ ๕ พฤศจิกายน มีคนไทย ๓-๔ คน มายกป้ายด่าทอผม ด้วยถ้อยคำหยาบคาย กล่าวหาว่าผมเป็นไอ้คนขายชาติ และบอกว่ากรรมเวรไม่ต้องรอชาติหน้า ถือป้ายตั้งแต่ผมออกจากเครื่องที่ผมเดินทางกันไป ๓ คนพ่อแม่ลูก กับญาติสนิทอีก ๒ คนรวมเป็น ๕ คน เข้าลิฟต์มันก็วิ่งถือป้ายเข้ามายืนอยู่ในลิฟต์ด้วย ออกไปรอเอากระเป๋าก็วิ่งเที่ยวชูป้าย เที่ยวถ่ายรูป ถ่ายดักหน้าดักหลัง ปากก็ตะโกนร้องคำเหมือนกับผมเป็นอาชญากรตัวสำคัญที่ทำลายบ้านเมือง ออกมายืนรอรถข้างนอกประตู ก็ออกมาวิ่งเที่ยวชูป้ายวิ่งข้ามฟากถนนไปมา แล้วไอ้เจ้าผู้ชายก็มายืนตะโกนด่าอยู่ข้างรถที่ผมขึ้นไปนั่ง ว่าผมเป็นไอ้ขายชาติ ๆ ๆ ๆ ๆ ตะโกนอยู่ข้างรถเหมือนเจ็บแค้นใจแทนพี่น้องคนไทยทั้งชาติทำนองนั้น
      
       ตลอดระยะเวลาที่ ๓-๔ คน เที่ยววิ่งแสดงกิริยาอย่างที่ว่า ผมไม่ได้แสดงกิริยาตอบโต้อะไร เพราะแม้แต่หน้าของเขา ๓-๔ คน ที่มาแสดงกันนั้น ผมก็ว่าไม่อยากมองหรือจดจำ
      
       ผมคิดอยู่ในใจเพียงว่า เมื่อผมมีโอกาสนั่งเขียนหนังสือผมก็คิดจะเขียนมาถึงผู้จัดรายการความจริงวันนี้ เพื่อบอกความจริงให้พวกที่เขามาแสดงกันอย่างที่ว่า โดยที่คนพวกนี้เขาไม่เคยรู้หรือแกล้งไม่รู้เลยว่าใครเป็นใคร เช่น
คนอย่างผมได้ทำอะไรให้กับบ้านเมือง ตลอดระยะเวลา ๗ เดือนที่ผมอยู่ในหน้าที่ ผมจะบอกให้ว่าคนอย่างผม นายสมัคร สุนทรเวช นั้นเป็นนักการเมืองที่ไม่เคยแม้แต่จะคิดเรื่องเอาชาติบ้านเมืองไปขายให้กับใครที่ไหน
      
       ตรงกันข้าม
ผมนี่แหละเป็นคนที่มีโอกาสทำหน้าที่เป็นคนกอบกู้สถานการณ์ของบ้านเมืองที่เกิดความเสียหายขึ้นภายหลังจากที่มีการยึดอำนาจการปกครองเป็นเวลาปีครึ่ง
      
       ผมเป็นหัวหน้าของคณะผู้คนที่เข้ามารับตำแหน่งที่เป็นผู้บริหารบ้านเมือง อย่างถูกต้องตามตัวบทกฎหมาย
       
       ตลอดเวลาที่ผมทำหน้าที่ทุกอย่าง อย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยเพื่อกอบกู้สถานะของความเป็นชาติที่อยู่ในสังคมโลกที่ประเทศทั่วโลกเขาหันกลับมาร่วมมือในกิจการต่าง ๆ จนเกือบเป็นปกตินั้น
ผมต้องทำงานหนักเพียงไร
      
       ผมเป็นคนที่ทำหน้าที่รักษาพระศาสนา ตั้งแต่ก่อนแต่ไร จนเมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรี ผมก็ยิ่งทำหน้าที่ปกป้องดูแลและส่งเสริมพระศาสนาที่คนไทยร้อยละ ๙๕ ของบ้านเมืองเรานับถือ
      
       ในความเป็นคนไทย ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีความจงรักภักดี และมีความเคารพเทิดทูน สถาบันสูงสุดของบ้านเมืองมาตลอด โดยไม่ต้องไปประกาศให้ใครในบ้านเมืองรู้ เพราะทั้งชีวิตผมและวงศ์ตระกูลผมที่สืบย้อนขึ้นไป ๒ ชั่วคนได้สนองงานถวายพระราชวงศ์จักรี ทั้งคุณตา คุณลุง คุณพ่อและคุณตาของผม โดยเมื่อถึงยุคของผม ผมก็ได้สนองงานถวายทุกวาระที่ผมได้รับหน้าที่เป็นฝ่ายบริหารบ้านเมือง
      
       อยากให้รู้ว่า แม้ผมจะทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แม้จะเป็นเวลาเพียง ๗ เดือน ผมก็ได้ทำหน้าที่ของผม ให้สถาบันที่มีหน้าที่ดูแลความมั่นคงของบ้านเมืองให้เข้าใจและไม่มีปัญหาที่จะไปทำให้เกิดความแตกแยกในกองทัพ รวมทั้งการให้ความสนับสนุนและส่งเสริมกิจการงานของกองทัพเป็นที่เข้าใจและพอใจของทุกฝ่าย
      
       ในฐานะที่ประเทศไทยได้ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มประเทศอาเซียน ผมได้ทำหน้าที่ของผมในกลุ่มประเทศอาเซียน ๑๐ ประเทศ กับประเทศคู่เจรจา ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ หรือจีน ที่ผมมีโอกาสได้พบเจรจาความกับรับผิดชอบอยู่ คือ ผมประกาศและยืนยันที่จะรักษาระบอบประชาธิปไตยให้ยังคงอยู่กับบ้านเมือง โดยไม่ยอมให้ใครมาใช้อำนาจแบบอนารยะมาล้มระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่เรามีและเป็นกันอยู่
      
       เมื่อผมพ้นจากหน้าที่เพราะคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ และผมไม่บอกรับเข้ารับตำแหน่งอีกเมื่อมีการแสดงจากการขัดข้องทางการเมือง ผมก็ถอยออกมาห่างอย่างที่ได้เรียนไว้ในตอนต้น
      
       ที่ผมต้องทำ และต้องเขียนมาถึงรายการความจริงวันนี้ก็เพราะผมต้องการให้พี่น้องประชาชนคนไทยที่รู้จักผมมาตลอด ชี้นำในการดำเนินงานทางการเมืองของผม ว่าผมไม่เคยคิดว่าคนอย่างผมที่ได้เข้ามาทำหน้าที่ทางการเมืองในช่วงที่ต้องมากอบกู้สถานะของประเทศจนเป็นปกติ จะมาถูกคนไทยที่มาอยู่ต่างแดนที่แม้ว่าตั้งแต่เข้ามายังไม่เคยเห็นหน้ากัน มาแสดงอะไรกับคนอย่างผมที่เดินทางมารักษาตัวกันเพียง ๕ คน อย่างที่เล่ามาให้ทราบแล้วในตอนต้น
      
       คนพวกนี้ แม้จะออกมาอยู่ไกลคนละซีกโลกของบ้านเมืองเรา อาจจะได้เสพหรือรับรู้แต่ข่าวที่เป็นการให้ร้ายป้ายสีกัน ในการจะล้างผลาญเป็นทางการเมืองโดยไม่ลืมหูลืมตา และไม่ยอมรับรู้รับฟัง ความจริงอีกด้านโดยแยกไม่ออกว่าใครทำอะไรให้บ้านเมืองมาอย่างไร จนมาคอยจ้องแสดงอาการอย่างที่ผมเล่ามาให้ฟังกันได้ เหมือนกับผมเป็นคนเลวทรามต่ำช้าที่เป็นผู้ทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหาย จนต้องมาเขียนป้ายประณามและมายืนตะโกนด่าซ้ำ ๆ ซาก ๆ ว่าผมเป็นไอ้ขายชาติ ๆ ๆ อยู่ข้างรถผม
      
       ขอเล่าความทุกข์ใจของผมมาถึงพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ยังมีใจเป็นชนชาติเดียวกันให้ทราบความจริงผ่านรายการความจริงวันนี้ ทั้งนี้ เพราะกิจกรรมที่ทำกันอย่างไม่ลืมหูลืมตาของคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่กระจายกันทั่วไปในแหล่งที่มีคนไทยอยู่ทั่วโลกอย่างที่ทำกันนี้ เป็นกิจกรรมที่คนเป็นหัวโจกดำเนินการจะมีความภาคภูมิใจอย่างไรก็ตามเถิด แต่นี่เป็นกิจกรรมที่ทำลายความเป็นชาติไทยที่มีความรักความผูกพันกันมายาวนานตลอดชีวิตของคนไทยเรา อย่างน่าเศร้าน่าสลดใจเป็นที่สุด
      
       เหมือนอย่างชื่อหนังสือเล่มใหม่ของผมที่กำลังเขียนอยู่ที่ผมให้ชื่อว่า
"บางทีจะสายไป...หากคนไทยยังไม่ฉุกคิด"
      
                                                   ด้วยรักและคิดถึง
                                                   สมัคร สุนทรเวช




       ทั้งนี้พันธมิตรฯ ฮุสตัน ให้เหตุผลถึงการเดินทางไปประท้วงนายสมัครถึงสนามบิน ทั้ง ๆ ที่ทั้งสงสารและสมเพชนายสมัคร โดยระบุว่า “ถึงแม้ว่านายสมัครจะป่วยหนัก แต่เราก็จำต้องเดินทางไปประท้วงเขาที่สนามบิน จากพฤติกรรมและการกระทำของเขาต่อนักศึกษา ประชาชน และประเทศชาติ ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะกรณีสังหารนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ในเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ จนถึงกรณีทำร้ายประชาชนในปี ๒๕๕๑ รวมถึงกรณีปราสาทพระวิหาร”



 


ที่มา
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000132402


 


 

พันธมิตรฯ ประกาศจุดยืนกรณีเปิดเส้นทางถนนราชดำเนิน

Rating:★★★★★
Category:Other

 


 


พันธมิตรฯ ประกาศจุดยืน
กรณีเปิดเส้นทางถนนราชดำเนิน


 


โดย ผู้จัดการออนไลน์ 
๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ๑๙:๔๒ น. 


 


พันธมิตรฯ เปิดถนนราชดำเนินนอก
เมื่อวันที่ ๒๓ ต.ค. ๒๕๕๑ 


 


       พันธมิตรฯ ประกาศจุดยืนพร้อมเปิดเส้นทางถนนราชดำเนินทั้ง ๖ ช่องทางจราจร ช่วงงานพระราชพิธีพระศพสมเด็จพระพี่นางฯ เพื่อแสดงความจงรักภักดีถึงที่สุด  เผยหลังรื้อเวทีที่สะพานมัฆวานฯ เปิดเส้นทางเสด็จวันปิยะมหาราช อันธพาลของรัฐบาลฉวยโอกาสลอบทำร้าย ปาระเบิด-ยิงปืนใส่พันธมิตรฯ แล้วถึง ๙ ครั้ง ขณะตำรวจตามจับคนร้ายไม่ได้ แต่ก็พร้อมเปิดเส้นทางเพื่องานพระราชพิธี ๑๔-๑๙ พ.ย. แม้ล่าสุดได้รับแจ้งขบวนเสด็จเปลี่ยนไปใช้เส้นทางถนนหลานหลวงแล้ว
      
       
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ประกาศพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ ๑๓/๒๕๕๑ 
       
       หลังจากที่ฝ่ายรัฐบาลและตำรวจได้บิดเบือนข้อมูลกล่าวหาว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ยอมเปิดเส้นทางให้ขบวนเสด็จ วันนี้ (๘ พ.ย.) พันธมิตรฯ ได้ออกประกาศฉบับที่ ๑๓/๒๕๕๑ เพื่อแสดงจุดยืนต่อการเปิดเส้นทางถนนราชดำเนิน ดังนี้


 


ประกาศพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ฉบับที่ ๑๓/๒๕๕๑


จุดยืนต่อกรณีการเปิดเส้นทางถนนราชดำเนิน


       ตามที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้มีมติตั้งแต่วันที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ที่จะรื้อเวทีบริเวณเวทีมัฆวานรังสรรค์ทันที และรื้อเต้นท์บน ถนนราชดำเนินออกทั้งหมด เพื่อเปิดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินทั้ง ๖ ช่องทาง เพื่อแสดงความจงรักภักดี ตามหมายกำหนดการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในระหว่างวันที่ ๑๔-๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑
       
       ต่อมา แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เห็นว่าวันปิยะมหาราชเป็นวันสำคัญ จึงได้ประกาศในวันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เพื่อที่จะทำการเริ่มรื้อเวทีถาวรที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ออกทั้งหมด รื้อเต้นท์ออก และเปิดเส้นทางถนนราชดำเนินนอก ๖ ช่องทางจราจร ตั้งแต่วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เพื่อเปิดเป็นเส้นทางเด็จพระราชดำเนินในวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เนื่องในวันปิยะมหาราช และเพื่อให้นักเรียน ทหาร ข้าราชการ และประชาชนทั่วไป ได้ใช้เส้นทางดังกล่าวในการถวายบังคมแด่อนุสาวรีย์พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ หรือพระบรมรูปทรงม้าในวันดังกล่าว และเป็นมโนสำนึกของฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเองในการเปิดเส้นทางถนนราชดำเนินนอก
      
       นอกจากนั้นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังเตรียมตั้งโต๊ะหมู่บูชา พร้อมทั้งจัดเตรียมแถวของประชาชนให้เป็นพสกนิกรที่เข้าเฝ้าด้วยความจงรักภักดีสูงสุดในวันที่มีขบวนเสด็จพระราชดำเนินผ่านถนนเส้นดังกล่าว เพื่อแสดงความจงรักภักดีสูงสุดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นจุดยืนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาโดยตลอด
      
       อย่างไรก็ตาม การแสดงเจตนารมณ์ในการแสดงความจงรักภักดีของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยดังกล่าวนั้น อันธพาลของรัฐบาลกลับใช้เจตนารมณ์ในความจงรักภักดีของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาเป็นโอกาสในการทำร้ายร่างกาย และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนที่เข้ามาร่วมชุมนุมด้วยอาวุธสงครามรายวัน โดยที่เจ้าหน้าที่รัฐและตำรวจไม่สามารถคุ้มครองความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดก่อวินาศกรรมทำร้ายพี่น้องประชาชนผู้ใช้สิทธิในการชุมนุมเพื่อพิทักษ์รักษา ชาติ ราชบัลลังก์ และประชาชนได้ โดยปรากฏเหตุการณ์หลังการรื้อเวทีถาวรที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ดังต่อไปนี้
       
       ๑. วันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ในขณะที่อยู่ระหว่างการรื้อสิ่งกีดขวางการจราจร ปรากฏว่า มีรถตู้สีขาวมาขว้างระเบิดที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้
       
       ๒. วันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เวลา ๐๓.๒๐ น.
คนร้ายขว้างระเบิดเอ็ม ๗๙ เข้าใส่การ์ดพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ทำให้การ์ดของพันธมิตรฯ ได้รับบาดเจ็บ ๙ คน บาดเจ็บรุน
แรงต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระ ๖ คน บาดเจ็บสาหัส ๒ คน และจนถึงขณะนี้ยังคงอยู่ในห้องไอซียู ๑ คน
       
       ๓. วันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เวลา ๐๔.๒๕ น. คนร้ายได้ปีนแนวกั้นของตำรวจด้านหลังกองบัญชาการตำรวจนครบาล แล้วยิงปืนเข้าใส่การ์ดของพันธมิตรฯ บริเวณใกล้สี่แยกมิสกวัน และในตอนเช้าพบชายชุดดำนอนเสียชีวิตอยู่ข้างกำแพงกองบัญชาการตำรวจนครบาล
ซึ่งตำรวจนอกจากจะไม่สามารถคุ้มครองประชาชนได้แล้ว ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้แต่ประการใด
       
       ๔. วันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เวลาประมาณ ๐๒.๐๐ น. มีการปาระเบิดควันเข้าใส่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์อีกครั้ง โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้
       
       ๕. วันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑ เวลาประมาณ ๐๒.๓๐ น. มีชายฉกรรจ์ ๕ คน ขับรถมาและตะโกนด่าทอบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ และยิงปืนใส่การ์ดของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลังจากนั้นพยายามขับรถหนี แต่ถูกสกัดจับไว้ได้
       
       ๖. วันที่ ๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑ เวลาประมาณ ๐๒.๐๐ น. มีการยิงระเบิดเข้าใส่ด่านตรวจบริเวณสะพานอรทัยห่างจากการ์ดของพันธมิตรเพียง ๓ เมตร โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้แต่ประการใด
       
       ๗. วันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑ เวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. เกิดเหตุระเบิดขึ้น ๒ ครั้ง บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ด้านฝั่งหน้าตึกอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และบริเวณถนนเรียบคลองผดุงกรุงเกษม ด้านข้างรั้วกระทรวงศึกษาธิการในเวลาไล่เลี่ยกัน ขณะเกิดเหตุระเบิดมีกลุ่มควันสีขาวขนาดใหญ่และมีเสียงดังทั่วบริเวณเสียงคล้ายประทัดยักษ์ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้อีกเช่นกัน
       
       ๘. วันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑ เวลาประมาณ ๐๔.๐๐ น. มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด บริเวณถนนข้างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ติดกับ โรงเรียนเบญจมบพิตร และต่อมามีเสียงปืนดังขึ้นอีก ๒-๓ นัด บริเวณถนนอีกด้านของคลองตรงข้ามกับ สำนักงาน ป.ป.ช. โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้แต่ประการใด
       
       ๙. วันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑ มีการปาระเบิดเข้าไปในเต็นท์นอนของการ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ภายในทำเนียบรัฐบาล มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ๑ ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้อีกเช่นกัน
      
       พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอประณามอันธพาลของรัฐบาลที่ได้ทำร้าย เข่นฆ่าพี่น้องประชาชนที่ต้องการแสดงความจงรักภักดีด้วยอาวุธสงคราม
      
       และถือว่าการที่เกิดเหตุการณ์ก่อวินาศกรรม ก่อกวน และทำร้ายพี่น้องประชาชนด้วยอาวุธสงครามทั้ง ๙ ครั้ง ภายหลังจากที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีความประสงค์ที่จะแสดงความจงรักภักดีนั้น เป็นความบกพร่องต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่สามารถ ระงับ ปราบปราม หรือจับกุม ผู้กระทำความผิดได้
      
       อย่างไรก็ตาม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ยังยืนยันอีกครั้งว่า พร้อมที่จะเปิดเส้นทางถนนราชดำเนินนอกทั้ง ๖ ช่องทางจราจร เมื่อได้รับแจ้งว่าจะมีขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ในระหว่างวันที่ ๑๔-๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑ เพื่อยืนหยัดแสดงความจงรักภักดีจนถึงที่สุด
      
      
ต่อมาเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ขบวนเสด็จพระราชดำเนินได้เปลี่ยนไปใช้เส้นทางผ่านถนนหลานหลวงแทนเส้นทางถนนราชดำเนินแล้ว
      
       จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน
      
       ประกาศ ณ วันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑
       
                              พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย



 


ที่มา
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000132570



 


 

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เห็นกันจะจะ..."เวรกรรมไม่ต้องรอชาติหน้า"

Rating:★★★★★
Category:Other

 


 


"เวรกรรมไม่ต้องรอชาติหน้า"



 








 


 


ที่มา
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000131857


ตามไปอ่านความคิดเห็นมัน ๆ ได้จ้า
ฮาแตกจริง ๆ