วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551

พรปีใหม่ ๒๕๕๒ จาก "อุปปาตะสันติ"


 


          ข้อความที่ยกมา คัดลอกจากคัมภีร์ อุปปาตะสันติหรือ มหาสันติงหลวง วรรณคดีบาลีล้านนาไทย
          คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่า เป็นคาถาสงบเคราะห์กรรม ระงับเหตุร้ายหรือภยันตราย หรือเพื่อกลับความร้ายให้กลายเป็นความดี

          คัมภีร์
อุปปาตะสันติรจนาโดยพระสีลวังสะมหาเถระ ที่เชียงใหม่ ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา (ระหว่าง พ.ศ. ๑๘๙๓ ถึง พ.ศ. ๒๓๑๐) และต้นฉบับได้หายไปจากเมืองไทยไปอยู่ที่พม่า ชาวพม่าเลื่อมใสในคัมภีร์นี้ นิยมสวดและฟังกันมาก

          ต่อมาเจ้าคุณธรรมคุณาภรณ์ (เช้า ฐิตะปัญโญ) ป.ธ.๙ วัดมหาโพธาราม ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ได้ชำระคัมภีร์นี้เป็นภาษาบาลีอักษรไทย โดยได้ต้นฉบับภาษาบาลีอักษรพม่าจากท่านพระอาจารย์ภัททันตะ ธัมมานันทมหาเถระ แห่งวัดท่ามะโอ จังหวัดลำปาง นับว่าเป็นการนำคัมภีร์ของล้านนาไทยโบราณกลับคืนมาสู่เมืองไทย และเผยแพร่ให้ชาวไทยในยุคปัจจุบันได้รู้จัก

         
ปีใหม่นี้ อยากให้ทุกคนที่ยังไม่เคยฟังไม่เคยสวดมนต์บทนี้ ได้ลองฟังหรือลองสวดกันดูบ้าง เพื่อความเป็นสิริมงคล และความสงบสุข และระงับจากภยันตรายทั้งปวง

         
ขอพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์โปรดประทานความสงบอันประเสริฐ ความสวัสดี ความไม่มีโรค แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด

         
สาธุ สาธุ สาธุ


 


 



 

 


 


นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้า
จงมีแด่พระผู้มีพระภาค
อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


 


 


       


ขอพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์
โปรดประทาน
ความสงบอันประเสริฐ
ความสวัสดี
ความไม่มีโรค
อายุ ความสุข กำลัง
และชัยชนะ
แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด


 


โปรดคลิก....ที่ภาพแต่ละภาพข้างล่าง
เพื่อรับพรศักดิ์สิทธิ์
เป็นของขวัญปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๕๒
จาก
คุณหวานเจี๊ยบ


 

วัตถุตตะยัสสะ โย ยัตถะ สังวัณเณติ คุณุตตะเม
ตัสสะ ตัตถะ สุขาโรคะยะ โสตถิโย โหนติ สัพพะทา.

ณ ที่ใด
มีผู้กล่าววาจาสรรเสริญพระคุณอันประเสริฐ
ของพระรัตนตรัย ด้วยจิตที่เลื่อมใส
ณ ที่นั้น
ความสุข ความสบาย และความสวัสดี
ย่อมมีแก่ผู้นั้นตลอดกาลทุกเมื่อ


 


(คัดลอกจากคัมภีร์ อุปปาตะสันติหรือ มหาสันติงหลวง
คาถาสวดเพื่อกลับความร้ายให้กลายเป็นความดี
สงบเคราะห์กรรม ระงับเหตุร้ายหรือภยันตราย
รจนาโดยพระสีลวังสะมหาเถระ ที่เชียงใหม่
สมัยกรุงศรีอยุธยา ระหว่าง พ.ศ. ๑๘๙๓ ถึง พ.ศ. ๒๓๑๐)


 


วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551

“กฤดาภินิหารสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”

Rating:★★★★★
Category:Other



กฤดาภินิหาร

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช



 


เรียบเรียงโดย...วีรวรรณ วิรุฬหผล
คัดลอกโดย....ง้วนดิน


 






 กฤดาภินิหารในวัยเยาว์



         
เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงพระราชสมภพนั้น ทรงเป็นทารกชายที่มีรูปพรรณงดงามยิ่งนัก ดังปรากฏในสมุดไทย
(สมุดไทยว่าด้วยเรื่อง อภินิหารบรรพบุรุษ เป็นสมุดไทยกระดาษข่อยขาว เขียนด้วยตัวหมึก รวม ๒ เล่ม) ว่า


          โดยลักษณะกุมารนั้นเป็นจัตุรัสกาย คืออธิบายว่า วัดตั้งแต่เท้าถึงศูนย์สะดือเป็นมัชฌิมะกายได้ส่วนหนึ่ง แลวัดตั้งแต่ศูนย์สะดือถึงผมตกแห่งหน้าผากเป็นส่วนหนึ่ง แลวัดตั้งแต่ศูนย์อุระราวถันไปถึงปลายนิ้วมือข้างซ้ายเป็นส่วนหนึ่ง ข้างขวาเป็นส่วนหนึ่ง ทั้ง ๔ ส่วนนั้นยาวเสมอเท่ากันไม่ก้ำเกิน ที่สะดือนั้นเป็นหลุมลึกลงไปพอจุผลหมากสงทั้งเปลือกผิดกับสามัญชนทั้งหลาย จึงว่าเป็นลักษณะจัตุรัสกาย คือรูปสิริกายเป็นส่วนสี่เหลี่ยมดุจดังพระพุทธลักษณะแห่งองค์สมเด็จพระสมณโคดม

          วันนั้น ขณะที่ทารกน้อยกำเนิด ท้องฟ้าสดใสปราศจากเมฆหมอกและฝน แต่กลับเกิดอสุนีบาตฟาดลงมาที่เสาดั้งของเรือนที่คลอด และหามีผู้ใดเป็นอันตรายไม่ เหตุอัศจรรย์ดังนี้ กล่าวกันว่า เกิดด้วยบารมีแห่งพระองค์ที่จะได้ดำรงพระมหาเศวตฉัตรเป็นพระเจ้าแผ่นดิน

          ครั้นเมื่อเกิดได้ ๓ วัน มีงูเหลือมใหญ่เข้าไปขดเป็นทักษิณาวรรตอยู่ในกระด้งโดยรอบกาย เมื่อบิดามารดามาพบก็มีความวิตกกังวลยิ่งนัก เพราะตามความเชื่อของจีน แสดงถึงเหตุร้ายควรต้องเอาเด็กไปฝังทั้งเป็น เมื่อเจ้าพระยาจักรี ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กันทราบความ ก็มีจิตกรุณาขอเด็กน้อยไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม  นับตั้งแต่นั้นท่านก็มั่งคั่งด้วยลาภและทรัพย์สิน จึงเรียกเด็กน้อยว่า สิน

          เรื่องราวอันมหัศจรรย์เป็นที่ประจักษ์อีกครั้ง เมื่อเด็กชายสินมีอายุได้ ๑๓ ปี ได้ตั้งบ่อนถั่วขึ้นในวัดโกษาวาส โดยตั้งตนเป็นเจ้ามือ และมีบรรดาสานุศิษย์ในวัดพากันมาแทงถั่ว เมื่อพระอาจารย์ล่วงรู้ก็ลงโทษศิษย์ทั้งหลายที่เล่นแทงถั่วนั้น

          เด็กชายสินผู้เป็นเจ้ามือถูกลงโทษเพื่อประจานสั่งสอนให้เข็ดหลาบ ด้วยการมัดมือคร่อมกับบันไดท่าน้ำ ปล่อยให้ร่างแช่อยู่ในน้ำตั้งแต่เวลาพลบค่ำนั้น แล้วพระอาจารย์ก็ไปสวดมนต์

          ครั้นสวดมนต์เสร็จ เวลาล่วงเข้ายามเศษ พระอาจารย์จึงระลึกได้ว่าได้มัดเด็กชายสินแช่น้ำไว้ ทั้งยังเป็นเวลาน้ำขึ้นด้วย พระอาจารย์จึงรีบไปที่ท่าน้ำพร้อมพระสงฆ์ เห็นน้ำท่วมจนกลบตลิ่ง จึงช่วยกันจุดไต้ตามไฟเที่ยวส่องหา ก็พบว่า เด็กชายสินติดอยู่ริมตลิ่ง มือยังมัดติดอยู่กับบันไดซึ่งหลุดถอนออกมาจากท่าน้ำ เมื่อบรรดาพระสงฆ์ได้ช่วยแก้มัดเด็กชายสินขึ้นมา ก็พบว่ามิได้รับอันตรายแต่อย่างใด หากเป็นเรื่องอัศจรรย์ยิ่งนักที่รอดชีวิตมาได้


 


 


 





 กฤดาภินิหารเมื่อเป็นกษัตริย์



เผชิญพายุกลางทะเล

          พ.ศ. ๒๓๑๒ สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงยกกองทัพเรือไปตีเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อกองทัพเรือไปถึงบางทะลุ เกิดพายุคลื่นลมหนัก เรือรบกองหลวงกองหน้าแตกกลุ่ม ต่างต้องเข้าหาที่กำบังอยู่ในอ่าว พระองค์จึงทรงให้ปลูกศาลเพียงตาขึ้น พร้อมพระราชทานเครื่องกระยาสังเวยบวงสรวงเทพารักษ์ ทรงตั้งพระราชสัตยาธิษฐาน เอาพระบารมีแต่บุพชาติและปัจจุบันเป็นที่ตั้ง ด้วยพระกฤดาธิการ คลื่นลมก็สงบลงเป็นอัศจรรย์





ทรงขอฝน

          พ.ศ. ๒๓๑๓ สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงยกทัพหลวงขึ้นไปเมืองเชียงใหม่ ประทับรอนแรมไปทางสถลมารคจนถึงบ้านกุ่มเหลือง ทรงหยุดตั้งค่ายประทับ เวลานั้นเป็นช่วงคิมหันตฤดูกันดารด้วยน้ำ ผู้นำทางจึงกราบทูลว่า แต่เชิงเขาข้างนี้ไปลงเขาข้างหน้าเป็นระยะไกลถึง ๓ เส้น จะกันดารน้ำยิ่งนัก พระองค์จึงมีพระราชดำรัสว่า

          อย่าปรารมภ์เลย เป็นภารธุระแห่งเรา ค่ำวันนี้อย่าตีฆ้องยาม จงกำหนดนาฬิกาไว้  เพลา ๓ ทุ่ม จะให้ฝนลงจงได้

          แล้วตรัสสั่งให้ปลูกศาลเทพารักษ์เพียงตา กระทำพลีกรรมบวงสรวง ทรงตั้งพระสัตยาธิษฐาน เอาพระบารมีโพธิสมภารเป็นที่พึ่งแห่งไพร่พลทั้งปวง 

         
วันนั้นอากาศปราศจากเมฆฝนและฟ้าลมก็เป็นปกติ ด้วยเดชะพระสัตยาธิษฐาน และเทวานุภาพ พอถึงเวลา ๔ ทุ่ม ๘ บาท ก็บันดาลฝนตกลงจนน้ำนอง ขอนไม้ในป่าไหลลอยไปเป็นอัศจรรย์




ปาฏิหาริย์ที่เมืองตาก

          ต้นปี พ.ศ. ๒๓๑๗ เมื่อเสร็จศึกปราบปรามพม่าที่เชียงใหม่ ระหว่างทางเสด็จกลับพระนคร ได้เสด็จฯ ไปยังพระตำหนักเมืองตาก ขณะที่หยุดพักทัพอยู่ ณ หาดทรายบ้านตาก พระองค์เสด็จฯ ประทับเรือพระที่นั่งล่องไปตามลำน้ำ เรือพระที่นั่งกระทบตอไม้ล่มลง จึงเสด็จฯ ขึ้น ณ หาดทราย เมื่อหลวงรักษ์โกษาซึ่งตามเสด็จฯ มาด้วยเชิญห่อพระภูษาซึ่งชุ่มน้ำมาคลี่ออกดู ก็พบพระภูษาชิ้นหนึ่งแห้งเป็นปกติอยู่น่าอัศจรรย์นัก

          การเสด็จฯ ไปเมืองตากของพระองค์ยังมีเรื่องราวตำนานเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติลานสาง ว่า

          เมื่อทรงพักทัพอยู่ที่บ้านระแหง เมืองตาก มีชาวมอญมาสวามิภักดิ์เป็นจำนวนมาก ทหารพม่าจึงติดตามมารุกราน พระองค์เสด็จฯ นำทัพไปรุกไล่จนพลัดหลงกับกองทัพ ด้วยสภาพพื้นที่เป็นป่าเขารกทึบ และเป็นเวลากลางคืน กองทัพมิอาจติดตามพระองค์ได้ จึงพักทัพลง ในขณะที่พักทัพอยู่นั้น ปรากฏแสงสว่างเจิดจ้าพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า และพลันได้ยินเสียงม้าศึกร้อง เหล่าทหารจึงรีบรุดไปยังจุดนั้น พบพระองค์ทรงประทับม้าอยู่กลางลานหิน มีแสงสว่างออกจากพระวรกาย ส่วนทหารพม่าหมอบอยู่โดยรอบ

          ขณะนั้นเป็นเวลาฟ้าสางพอดี จึงพากันเรียกบริเวณนั้นว่า ลานสาง และตรงที่พระองค์ประทับม้า บริเวณน้ำตกชั้นที่ ๒ ก็ยังปรากฏร่องรอยเป็นรูปเกือกม้าของพระองค์ประทับติดอยู่




เสี่ยงบารมีตีระฆังแก้ว

         
ระหว่างที่เสด็จพระราชดำเนินไปประทับอยู่ที่เมืองตาก ภายหลังจากเสร็จศึกกับพม่าที่เมืองเชียงใหม่นั้น สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้เสด็จฯ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลและนมัสการพระปฏิมากรที่วัดดอยเขาแก้ว ครั้งนั้นได้ตรัสถามพระสงฆ์ว่าจำพระองค์ได้หรือไม่


          พระสงฆ์รูปนั้นยังจดจำพระองค์ได้ดี มีเรื่องเล่าว่า เมื่อครั้งพระองค์ยังอยู่ที่บ้านระแหง ได้กระทำสัตยาธิษฐานเสี่ยงบารมีว่า

          ถ้าข้าพเจ้าจะได้ตรัสแก่พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณในอนาคตกาล ข้าพเจ้าตีระฆังแก้วเข้าบัดนี้ ให้ระฆังแก้วแตกจำเพาะที่จุก จะได้ทำเป็นพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

          ครั้นอธิษฐานแล้วตีระฆัง ระฆังก็แตกแต่เฉพาะจุก เห็นประจักษ์เป็นที่อัศจรรย์

          เรื่องการเสี่ยงบารมีนี้ บางตำนานเล่าว่า ได้ใช้ไม้เคาะระฆังขว้างไปโดยไกลยังลูกแก้วหรือถ้วยแก้ว อธิษฐานว่า ขอให้ไม้ถูกจำเพาะส่วนที่คอดกิ่วอยู่ ลูกแก้วนั้นอย่าได้เสียหาย ปรากฏว่า ไม้เคาะระฆังขว้างไปถูกดังคำอธิษฐาน จึงได้นำลูกแก้วนั้นไปติดไว้ที่ยอดพระเจดีย์

          ปัจจุบันลูกแก้วยอดพระเจดีย์วัดดอยเขาแก้วได้หายไปแล้ว และเล่ากันว่า ยังมีเจดีย์อีกองค์หนึ่งซึ่งประดิษฐานลูกแก้วเสี่ยงทาย อยู่ที่วัดกลางสวนดอกไม้ใกล้กับวัดดอยเขาแก้ว แต่ลูกแก้วนั้นก็หายไปด้วยเช่นกัน

 





ที่มา จากหนังสือ
กฤดาภินิหารสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

(พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๑)


 









หนังสือ กฤดาภินิหาร
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช



         
หนังสือ กฤดาภินิหารสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นหนังสือที่องค์การค้าของคุรุสภาได้จัดทำขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ ๔๘ ปีองค์การค้าของคุรุสภา เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๑ เพื่อเทิดพระเกียรติแด่กษัตริย์นักรบผู้กล้า และเพื่อปลุกจิตสำนึกให้อนุชนรุ่นหลังได้ภาคภูมิใจในเอกราชและความเป็นไทย


          กฤดาภินิหารสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจัดพิมพ์เป็นเล่มขนาดใหญ่ (A5) และเล่มจิ๋วขนาดประมาณเท่าปลายนิ้วมือ จำนวนรวม ๓๐,๐๐๐ ชุด ได้นำไปร่วมประกอบการบวงสรวงในพิธีพราหมณ์ และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก ได้ทรงพระกรุณาทำพิธีแผ่เมตตาจิตให้ด้วย

         
ในหน้าถ้อยแถลงของผู้อำนวยการองค์การค้าของคุรุสภา กล่าวถึงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชไว้ว่า

         
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงคุณแก่บ้านเมืองในอดีต ด้วยทรงกอบกู้เอกราชกลับคืนมาสู่มาตุภูมิในยามที่คนไทยไร้อิสรภาพ นับเป็นมหาวีรกรรมที่จารึกอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทย



น้อมรฦกถึงพระมหากรุณาธิคุณ

คุณหวานเจี๊ยบ
ธันวาคม ๒๕๕๑










วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551

๒ ธันวาคม - ยิงบึ้มใส่ “ดอนเมือง” พันธมิตรฯ ดับ ๑ - เจ็บระนาว !!

Rating:★★★★★
Category:Other


 


“สัตว์นรก”ลอบกัดซ้ำ !
ยิงบึ้มใส่ “ดอนเมือง”
พันธมิตรฯ ดับ ๑ - เจ็บระนาว !!


 


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 
๒ ธันวาคม ๒๕๕๑ ๐๑:๔๕ น.


 


“สัตว์นรก” เลวสุดขั้ว ลอบยิงระเบิดซ้ำใส่ “พันธมิตรฯ” ที่ชุมนุมอยู่ที่ “สนามบินดอนเมือง” ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ๑ ราย - บาดเจ็บระนาว คาด “ผู้บงการ” สั่งยิงบึ้มป่วน “พันธมิตรฯ” ก่อนศาลตัดสิน “คดียุบพรรค” ๒ ธ.ค. นี้

      
       วันนี้ เมื่อเวลา ๐๐.๑๕ น. รายงานข่าวแจ้งจากสนามบินดอนเมืองว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ยิงระเบิดใส่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งชุมนุมอย่างเนืองแน่นอยู่ที่สนามบินดอนเมือง โดยยิงมาที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า
ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทันทีในที่เกิดเหตุกว่า ๑๐ ราย โดยมีผู้บาดเจ็บ ๕ ราย อาการสาหัส เบื้องต้นการ์ดพันธมิตรฯ นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงเพื่อรักษาอย่างอาการบาดเจ็บอย่างเร่งด่วนแล้ว
      
       จากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าอาคารผู้โดยสารขาเข้า ห่างจากเวทีปราศรัยประมาณ ๒๐๐ เมตร พบกองเลือดจำนวนมาก ส่วนผู้บาดเจ็บจำนวนมากเจ้าหน้าที่ทยอยนำส่งโรงพยาบาล โดย
มีผู้เสียชีวิตขณะนำส่ง รพ. มงกุฏวัฒนะ จำนวน ๑ ราย ซึ่งเป็นประชาชนที่มาร่วมชุมนุมทราบชื่อต่อมา คือ นายรณชัย ไชยศรี อายุ ๒๙ ปี ชาว อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดอย่างจังบริเวณท้ายทอย ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.มงกุฏวัฒนะ ๑๕ ราย อาการสาหัส ๑ ราย รพ.ภูมิพล ๗ ราย สาหัส ๑ ราย รพ.เซ็นทรัลเจเนอรัล ๒ ราย
      
       ผู้ชุมนุมรายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุขณะเกิดเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนมาร่วมชุมนุมตามปกติ ปรากฏว่าระหว่างนั้น เห็นลำแสงพุ่งมาจากถนนวิภาวดีรังสิต ก่อนกระทบกระจกอาคารขนาดใหญ่จนแตกละเอียด ๑ บาน โดยแรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บดังกล่าว
      
       ด้านนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ได้เข้ามาตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ และเยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บ พร้อมทั้งให้ผู้ชุมนุมทั้งหมดมาชุมนุมที่บริเวณเวทีปราศรัย เพราะเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุด
      
       ส่วน
การยิงระเบิดเข้าป่วนผู้ชุมนุมในครั้งนี้ คาดว่า ผู้บงการ สั่งให้คนร้ายให้ยิงระเบิดเอ็ม ๗๙ มาจากทางด่วนโทล์เวย์เพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับผู้ชุมนุม ก่อนศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมา ในวันที่ ๒ ธ.ค. นี้
      
       (ส่วนความคืบหน้า เอเอสทีวี-ผู้จัดการออนไลน์จะรายงานให้ทราบต่อไป)

 


ที่มา
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000142177
 







 


 


 

วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

๓๐ พ.ย. - ยิงระเบิดถล่มหน้าเวทีทำเนียบ สาหัสนับ ๑๐ - ปาบึ้ม ASTV ซ้ำ

Rating:★★★★★
Category:Other

 



สัตว์นรก!
ยิงระเบิดถล่มหน้าเวทีทำเนียบ
สาหัสนับ 10 - ปาบึ้ม ASTV ซ้ำ



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 
30 พฤศจิกายน 2551 00:05 น.


เกิดเหตุคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่หน้าเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสนับสิบคน

          หลังจากนั้นเมื่อเวลา 00.15 น.ที่ผ่านมา คนร้ายได้ยิงระเบิดเข้าใส่สำนักงานเอเสทีวีที่บ้านเจ้าพระยาถนนพระอาทิตย์ จำนวน 2 ลูก พร้อมกับยิงอาวุธสงครามเข้าใส่จากทางแม่น้ำเจ้าหลายนัด หลังจากนั้นมีเสียงยืนปืนตอบโต้กันไปมาเป็นเวลาประมาณ 10 นาที



 


ที่มา
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000141378


 



สัตว์นรกกัดไม่ปล่อย
ปาระเบิดใส่เวทีทำเนียบฯ
พธม.เจ็บ!


โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
30 พฤศจิกายน 2551 00:42 น.


 


สัตว์นรกกัดไม่เลิก! ปาระเบิดใส่พันธมิตรฯ ใกล้เวทีภายในทำเนียบรัฐบาล บาดเจ็บรายหลาย เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต การ์ดพันธมิตรฯรีบนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

          วันนี้(29 พ.ย.)เมื่อเวลา 23.50 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงระเบิดใส่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยใกล้เวทีทำเนียบฯ จนทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนหลายราย โดยขณะนี้การ์ดพันธมิตรฯกำลังนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และในจำนวนผู้บาดเจ็บม่ช่างกล้องของเอเอสทีวีด้วย

          จากรายงานเบื้องต้น ลูกระเบิดตกลงในกลุ่มผู้ชุมนุมห่างจากเวทีประมาณ 200 เมตร มีผู้บาดเจ็บสาหัสด้วย โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า เห้นลำแสงยิงมาจากทางด้านชุมขนใกล้วัดเบญจมบพิตร

          หลังจากนั้นเมื่อเวลา 00.15 น.ที่ผ่านมา คนร้ายได้ยิงระเบิดเข้าใส่สำนักงานเอเสทีวีที่บ้านเจ้าพระยาถนนพระอาทิตย์ จำนวน 2 ลูก พร้อมกับยิงอาวุธสงครามเข้าใส่จากทางแม่น้ำเจ้าหลายนัด หลังจากนั้นมีเสียงยืนปืนตอบโต้กันไปมาเป็นเวลาประมาณ 10 นาที ก่อนที่จะเงียบเสียงไป

          (โปรดติดตามรายละเอียด)


ที่มา
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000141379


 




สัตว์นรกกัดไม่ปล่อย
ปาระเบิดใส่เวทีทำเนียบ
-ป่วน ASTV อีก!



โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 
30 พฤศจิกายน 2551 01:07 น.


การ์ด พธม. รีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล



หมาลอบกัดทำพี่น้องพันธมิตรฯ เจ็บหลายราย



แม้แต่ผู้สูงวัยก็ต้องมาบาดเจ็บกับเหตุการณ์เช่นนี้


สัตว์นรกกัดไม่เลิก! ปาระเบิดใส่พันธมิตรฯ ใกล้เวทีภายในทำเนียบรัฐบาล บาดเจ็บรายหลาย เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต การ์ดพันธมิตรฯรีบนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ไม่หนำใจลอบยิงระเบิดใส่ "เอเอสทีวี" อีก
      
       วันนี้(29 พ.ย.)เมื่อเวลา 23.50 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงระเบิดใส่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยใกล้เวทีทำเนียบฯ จนทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนหลายราย โดยขณะนี้การ์ดพันธมิตรฯกำลังนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และในจำนวนผู้บาดเจ็บมีช่างกล้องของเอเอสทีวีด้วย
      
       จากรายงานเบื้องต้น ลูกระเบิดตกลงในกลุ่มผู้ชุมนุมห่างจากเวทีประมาณ 200 เมตร มีผู้บาดเจ็บสาหัสด้วย โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า เห็นลำแสงยิงมาจากทางด้านชุมขนใกล้วัดเบญจมบพิตร
      
       หลังจากนั้นเมื่อเวลา 00.15 น.ที่ผ่านมา คนร้ายได้ยิงระเบิดเข้าใส่สำนักงานเอเสทีวีที่บ้านเจ้าพระยาถนนพระอาทิตย์ จำนวน 2 ลูก พร้อมกับยิงอาวุธสงครามเข้าใส่จากทางแม่น้ำเจ้าหลายนัด หลังจากนั้นมีเสียงยืนปืนตอบโต้กันไปมาเป็นเวลาประมาณ 10 นาที ก่อนที่จะเงียบเสียงไป
      
       จากการสอบถามนายสมเจตน์ ศาลาวงศ์ อปพร.ประจำจุดท่าพระอาทิตย์ ซึ่งทำหน้าที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ กล่าวว่าคนร้ายที่ลอบก่อเหตุนั่งเรือมากัน 2 ลำ โดยอาศัยอำพรางกับความมืด ล่องเรือทางริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณด้านหลังสำนักงานเอเอสทีวี ก่อนที่จะยิงระเบิดใส่สำนักงานเอเสทีวี2 ลูก และรัวยิงปืนใส่ เสียงดังสนั่น ก่อนที่จะนั่งเรือหนีไป
      
       หลังจากที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสำนักงานเอเสทีวี ได้เพิ่มมาตราการรักษาความปลอดภัย โดยการนำแผงเหล็กมากั้นปิดถนนพระอาทิตย์ บริเวณด้านหน้าสำนักงานเอเสทีวี และหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
      
       ต่อมาเวลา 00.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ชนะสงคราม นำโดย พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ กล่าวเพียงสั้นว่า มีแต่เสียงดัง ไม่มีผู้บาดเจ็บ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงบันทึกประจำวันเอาไว้ โดยเช้าวันนี้จะมาดูจุดเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาร่องรอยเหตุระเบิดครั้งนี้



ที่มา
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000141379
  



ประมวลภาพ
"สัตว์นรก" ลอบยิงเอ็ม 79
ใส่เวทีพันธมิตรฯ 



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
30 พฤศจิกายน 2551 01:28 น. 


ประมวลภาพเหตุการณ์หลังคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่หน้าเวทีปราศรัยของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลาก่อนเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 34 ราย โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์ระว่า เห็นลำแสงยิงมาจากทางชุมชนวัดเบญจมบพิตร




ตามไปดูภาพที่นี่
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000141383 



 

วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

๒๒ พ.ย. ๕๑ - ยิงระเบิด M-79 ใส่พันธมิตรฯ เจ็บระนาว ๘ สาหัส ๒

Rating:★★★★★
Category:Other

 


นรกมาเกิด !
ยิงระเบิดใส่พันธมิตรฯ
เจ็บระนาว ๘ สาหัส ๒  
 


โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 
๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ๐๔:๕๔ น. 


 
นรกมาเกิด ! หมาลอบกัดจองเวรไม่เลิก ยิงระเบิด M-79 ใส่พันธมิตรฯเจ็บระนาว ๘ สาหัส ๒ ราย เผยคนร้ายซ้อน จยย. ๒คัน ซุ่มยิงด้านหลัง บช.น. ผิดสังเกต ตำรวจงดตั้งด่านบริเวณดังกล่าว
      
       วันนี้ (๒๒ พ.ย.) เมื่อเวลา ๐๒.๐๐ พ.ต.ท. สำเริง ส่งเสียง รอง ผกก.ปป.สน.ดุสิต รับแจ้ง
คนร้ายยิงระเบิด M-79 ใส่การ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณแยกสวนมิสกวัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบพื้นถนนถูกแรงระเบิดจนเป็นหลุมกว้าง ๑๐ ซม. นอกจากนี้พบกองเลือดและสะเก็ดระเบิดจำนวนหนึ่ง รถปิคอัพนิสสันฟรอนเทียร์ ทะเบียน ปธ ๔๒๑๖ กทม. ที่จอดอยู่บริเวณที่เกิดเหตุถูกสะเก็ดระเบิดด้านข้างเป็นรอยจำนวนมาก รถกระบะโตโยต้า ทะเบียน คน ๕๒๐๗ กทม. สะเก็ดระเบิดโดนกระจกด้านที่นั่งคนขับเป็นรอยร้าว
เจ้าหน้าที่จึงเก็บสะเก็ดระเบิดไปให้เจ้าหน้าเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ตปพ.ตรวจสอบอีกครั้ง


        ส่วนคนเจ็บมี ๘ ราย ประกอบด้วยนายเอกพล สหวัฒน์ อายุ ๓๓ ปี ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหลังและที่แขนขา นายอนุพงศ์ เสมอภาค อายุ ๒๒ ปี ถูกสะเก็ดระเบิดทั่วทั้งตัว ทั้งสองรายอาการสาหัส เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลรามาแล้ว
      
       นอกจากนี้มี นายพงษ์ชนก กาญจนอมฤทธ์ อายุ ๓๑ ปี ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหลังและข้อศอก นายสำเริง บัวจันทร์ อายุ ๒๖ ปี บาดเจ็บหัวไหล่ซ้ายและบริเวณหู นายประคอง หาไชย อายุ ๓๘ ปี บาดเจ็บที่หูและหลัง นายสมชาย วงศ์สนธิ อายุ ๔๔ ปี บาดเจ็บที่หลัง นายณรงค์ นาคเอี่ยม อายุ ๖๔ ปี บาดเจ็บที่บริเวณคอและข้อศอก และนายวิรัตน์ เพียรสัจจะ อายุ ๕๔ ปี บาดเจ็บที่หลังและไหล่ ขา มือ ทั้งหมดบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่เต็นท์พยาบาลแพทย์อาสา



       
       สอบสวนนายพงษ์ชัย แซ่ตั้ง อายุ ๔๒ ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะจอดรถแท็กซี่รอผู้โดยสารใกล้ ๆ กองทัพภาคที่ ๑ เห็นวัยรุ่น ๔ คน มีคนหนึ่งสวมเสื้อสีขาว ขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน ๒ คัน โดยจำได้เพียงคันเดียวว่าเป็นรถยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นโนวาสีแดง มาจอดบริเวณด้านหลังกองบัญชาการตำรวจนครบาล ฝั่งกระทรวงศึกษาธิการ ตนก็ไม่ได้สนใจ จากนั้นได้ยินเสียงดังบึ้ง จึงหันไปดู เห็นลูกไฟสีแดงลอยมาก่อนตกลงพื้นตรงบริเวณที่การ์ดอาสานั่งเฝ้ายามอยู่ เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เห็นคนเจ็บจำนวนมาก
จากนั้นคนร้ายได้เร่งเครื่องหลบหนีไปทางแยกวังแดง


       
       ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้บริเวณแยกวังแดงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านตรวจค้นอาวุธบุคคลเข้าออก แต่ในระหว่างเกิดเหตุกลับไม่มีการตั้งด่านแต่อย่างใด
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ได้มีคำสั่งก่อนหน้านี้ให้เจ้าหน้าที่ทั้ง ๘๘ สน. ตั้งด่านตรวจค้นอาวุธในพื้นที่ แต่ยังมาเกิดเรื่องอีก 

       อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดเหตุมีคนเห็นรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยูสีขาวขับวนเวียน ๒-๓ รอบ ก่อนที่รถ จยย. ขับมาก่อเหตุยิงระเบิดใส่ดังกล่าว



 


ที่มา
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000138325

 


 

นปก. บุกปาเลือด-ขี้วัวใส่ญาติธรรมในอุทยานขายอาหารเจ

Rating:★★★★★
Category:Other

 


นปก. เถื่อน
บุกปาเลือด-ขี้วัวใส่ญาติธรรม
บุกปลดรูปสมณโพธิรักษ์เผาทำลาย



โดย...ASTVผู้จัดการออนไลน์ 
๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ๑๕:๒๘ น.






อุบลราชธานี - กลุ่มคนเถื่อนเสื้อแดงเมืองอุบลราชธานีฉุนถูกหลอกให้ระดมพลมารอเก้อ หวังป่วน "สมศักดิ์ โกศัยสุข" ๑ ใน ๕ แกนนำ พธม. แต่สุดท้ายไม่มา เลยแสดงความถ่อยยกพลบุกใช้เลือด-ขี้อ่อนวัวปาใส่ญาติธรรมในอุทยานขายอาหารเจ และบุกเข้าปลดรูปสมณโพธิรักษ์ลงมาเผาทำลาย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนดูด้วยความสงบเสงี่ยม และจุดเกิดเหตุตั้งอยู่ห่างจากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเพียง ๑๕๐ เมตรเท่านั้น
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. วันนี้ (๒๑ พ.ย.) นายธีรภัทร วัชรพล หรือดีเจต้อย ผู้ดำเนินรายการทางสถานีวิทยุชุมชนนครอุบลราชธานี และนายประยุทธ มูลสาร หรือดีเจหนุ่มนิรนาม ผู้ดำเนินรายการสถานีวิทยุชุมชน อ.ตาลสุม นำสมาชิก นปก. ทั้งชายหญิงประมาณ ๓๐๐ คน มารวมตัวที่หน้าศาลากลางจังหวัด ก่อนมุ่งหน้าไปที่สถานีรถไฟ อ.วารินชำราบ
      
       ทั้งนี้ เพราะได้ข่าวว่านายสมศักดิ์ โกศัยสุข หนึ่งในห้าแกนนำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จะเดินทางมาร่วมประชุมกับสมาชิกสหภาพการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ จ.อุบลราชธานี
      
       เมื่อไปถึงที่ทำการสหภาพฯ ตั้งอยู่ในสถานีรถไฟ อ.วารินชำราบ ปรากฏว่า การเดินทางมาของนายสมศักดิ์เป็นเพียงข่าวลือ ทำให้แกนนำกลุ่ม นปก. ปรับขบวนมุ่งหน้าไปที่อุทยานบุญนิยม ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายอาหารเจและจำหน่ายสินค้าของกองทัพธรรม ตั้งอยู่ถนนศรีณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี และตั้งอยู่ห่างจากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดประมาณ ๑๕๐ เมตร


      
       เมื่อกลุ่ม นปก. เดินทางไปถึงได้กล่าวปราศรัยโจมตีการชุมนุมของกลุ่ม พธม. ที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมกล่าวคำหยาบคายด่าทอกลุ่มญาติธรรมของกองทัพธรรม ที่อยู่ในอุทยานบุญนิยม แต่ไม่ได้รับการตอบโต้จากญาติธรรม
       
       ต่อมา พ.ต.ท. สถานพร เอมโอษฐ์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ ๑๐ นาย เข้ามาสังเกตการณ์รักษาความสงบ เมื่อกลุ่ม นปก. ที่พยายามยั่วยุให้ญาติธรรมออกมาตอบโต้ไม่ได้ผล จึงเริ่มใช้เลือดวัวและขี้ในลำไส้อ่อนใส่ถุงพลาสติกขว้างปาเข้าใส่ตัวอาคารและกลุ่มญาติธรรม ทำให้ถุงเลือดกับถุงขี้อ่อนแตกเปรอะเปื้อนโต๊ะและพื้นภายในร้านขายอาหาร บางส่วนกระเด็นไปถูกกระถางต้นไม้แตกเสียหาย



 


       นอกจากนี้ นปก. ที่เป็นชายฉกรรจ์ได้พากันวิ่งขึ้นไปดึงเอารูปของสมณโพธิรักษ์ ที่ติดไว้ในอาคารออกมาทำการเผาทำลายทิ้ง โดยระหว่างเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่กองทัพธรรมได้ทำการบันทึกภาพผู้ก่อเหตุไว้ทั้งหมด


       
       ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ส่งมาดูเหตุการณ์ ก็ไม่ได้ทำการห้ามปรามกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ก่อเหตุ เพียงแต่ยืนดูอยู่เฉย ๆ กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ ๓๐ นาที นายธีรภัทรและนายประยุทธได้นำกลุ่ม นปก. ทั้งหมดเดินทางมุ่งหน้าไปที่ กก.ตชด. ที่ ๒๒ อุบลราชธานี เพื่อไปต้อนรับและแสดงความยินดีกับ พ.ต.อ. ภัทรพล ผ่องแผ้ว ที่เดินทางมารับตำแหน่ง ผกก.ตชด. คนใหม่ก่อนพากันสลายตัวไปในบ่ายวันเดียวกัน



       สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นในอุทยานบุญนิยม เจ้าหน้าที่กองทัพธรรมได้ทำการสำรวจความเสียหาย และทำการปัดกวาดทำความสะอาดพื้น พร้อมจะได้หารือกับ พล.ต. จำลอง ศรีเมือง แกนนำกองทัพธรรม จะให้ดำเนินการกับผู้ก่อเหตุอย่างไรต่อไป




 


ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000138054



 

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ไฟล์เสียง...เหตุการณ์ระเบิดจากเวทีพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๑

Rating:★★★★★
Category:Other


 


นำไฟล์เสียง
เหตุการณ์ระเบิด
เมื่อคืนวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๑
เวลา ๐๓.๒๕ นาฬิกา
ขณะน้อง ๆ กลุ่ม Young PAD กำลังสรุปข่าวรอบดึก
บนเวทีพันธมิตรฯ ณ ทำเนียบรัฐบาล มาให้ฟังกัน


เสียงระเบิดจะอยู่ประมาณนาทีที่ ๑๖




ลองฟังกันดูว่า
ขณะที่ระเบิดหล่นลงบนหลังคาเต็นท์
กลางกลุ่มผู้ชุมนุม
จนบาดเจ็บ เสียชีวิต
พี่น้องเราควบคุมสติกันได้ดีแค่ไหน



ขอคารวะ
พี่น้องพันธมิตรฯ ผู้กล้าทั้งหลาย


 


ช่องที่ระเบิดทะลุเต็นท์ตกลงกลางกลุ่มผู้ชุมนุม


 


นายเจนกิจ กลัดสาคร อายุ ๔๘ ปี
ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา



 



ไฟล์เสียงจาก...คลื่นยามเฝ้าแผ่นดิน
http://www.managerradio.com/

ภาพจาก...ผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000137348


 


 

สัตว์นรก ! ราวีไม่เลิก ลอบยิงระเบิดเข้าทำเนียบฯ ตาย ๑ บาดเจ็บอื้อ

Rating:★★★★★
Category:Other



 


สัตว์นรก ! ราวีไม่เลิก
ลอบยิงระเบิดเข้าทำเนียบฯ
ตาย ๑ บาดเจ็บอื้อ


 


โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 
๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ๐๖:๔๙ น.



 


นายเจนกิจ กลัดสาคร อายุ ๔๘ ปี
ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา



เจ้าหน้านำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล



ช่องที่ระเบิดทะลุเต็นท์ตกลงกลางกลุ่มผู้ชุมนุม



ผู้บาดเจ็บหลายราย
เจ้าหน้าที่ต้องรีบปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาล



ผู้ชุมนุมชี้รอยเลือดผู้บาดเจ็บ
จุดที่ถูกสะเก็ดระเบิด



สัตว์นรกเลวชาติชั่วลอบยิงระเบิดเข้ากลางกลุ่มผู้ชุมนุม อาศัยช่วงกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่นอนหลับ ระเบิดเฉียดเวทีปราศรัยเพียงไม่กี่เมตร หนุ่มใหญ่เคราะห์ร้ายถูกสะเก็ดระเบิดเข้าจุดสำคัญเสียชีวิต ๑ ราย สาหัสอีก ๑ ราย บาดเจ็บอื้อ ช่างภาพเอเอสทีวีก็โดนลูกหลงด้วย ด้านกลุ่มผู้ชุมนุมไม่หวั่นยังปักหลักต่อสู้เพื่อชาติต่อไป
      
       วันนี้ (๒๐ พ.ย.) เมื่อเวลา ๐๓.๒๕ น. ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดเข้าไปภายในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยระเบิดตกลงบนหลังคาเต็นท์ของผู้ชุมนุมก่อนเกิดการระเบิดขึ้น ทำให้เต็นท์มีรู้กว้างขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒๐ ซม. นอกจากนี้จุดเกิดเหตุยังอยู่ห่างจากเวทีปราศรัยเพียงแค่ ๑๕ เมตร 

       จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าเป็นระเบิดชนิด เอ็ม ๗๙ ซึ่งแรงระเบิดทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว สะเก็ดระเบิดกระจายเป็นวงกว้าง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บทันที จำนวน ๒๑ ราย อาการสาหัส จำนวน ๒ ราย ด้านการ์ดอาสาพันธมิตรฯได้เข้าไปในที่เกิดเหตุทันทีเพื่อนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงเป็นการเร่งด่วน
      
       นางต้นขวัญ แสงอาทิตย์ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังนั่งฟังปราศรัยบนเวที ส่วนผู้ชุมนุมบางส่วนก็นอนหลับ ช่วงที่ระเบิดตกลงมาตนไม่ทันตั้งตัวได้ยินเพียงเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว จากนั้นระเบิดตกลงมาและ สะเก็ดกระจายเป็นวงกว้างไปถูกกลุ่มผู้ชุมนุมที่กำลังนอนอยู่ทำให้ได้รับบาดเจ็บหลายคน แต่ก็ไม่รู้สึกหวั่นกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อประเทศชาติต่อไป
      
       ภายหลังจากเกิดเหตุระเบิด ทำให้บรรยากาศที่ชุมนุมของพันธมิตรฯ เต็มไปด้วยความแตกตื่น แต่หลังจากเหตุการณ์สงบลง ผู้ชุมนุมได้กลับเข้าร่วมฟังการปราศรัยของพิธีกรบนเวทีตามปกติ โดยมิได้มีอาการตื่นกลัวต่อเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นแต่อย่างใด
      
       ต่อมาเวลาประมาณ ๐๓.๓๐ น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ รพ. รามาธิบดี ด้าน พญ. รพีพร โรจน์แสงเรือง แพทย์ผู้ทำการรักษา เปิดเผยว่า เบื้องต้นมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดภายในทำเนียบรัฐบาลเข้ามารับการักษาทั้งหมด จำนวน ๘ ราย ประกอบด้วย 
       ๑. นายเจนกิจ กลัดสาคร ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณลำคออาการสาหัสหัวใจหยุดเต้นแพทย์จึงช่วยชีวิตโดยการปั๊มหัวใจ แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา 
       ๒. นายยุทธชัย ลือพักตร์ อายุ ๓๙ ปี สะเก็ดระเบิดฝังในบริเวณไซนัส อยู่ในระหว่างทำการผ่าตัดเอาสะเก็ดระเบิดออก 

       ส่วนอีก ๖ รายถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ประกอบด้วย
       ๑. นางวรรณี รัตนพันธ์ อายุ ๕๑ ปี
       ๒. นางบุศย์รินทร์ กวีพราหมณ์ อายุ ๕๒ ปี
       ๓. นางสุนิสา พงษ์แก้ว อายุ ๖๑ ปื
       ๔. นางเอื้อมพร จิรวนิช อายุ ๕๔ ปี
       ๕. นายเล็ก ชื่นใจ อายุ ๕๒ ปี
       ๖. นางอรพิน อรรจนถีรวัต อายุ ๔๙ ปี
      
       สำหรับรายชื่อผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาที่ รพ. พระมงกุฎ ประกอบด้วย
       ๑. นายมรกต เฟื่องฟูวงศ์รัตน์ อายุ ๔๒ ปี ได้รับบาดเจ็บที่โคนขาขวา
       ๒. นายประดิษฐ์ ชูมีศรี อายุ ๒๐ ปี ได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ขวาและกกหู
       ๓. นายไพฑูรย์ ดูเหมาะ อายุ ๖๖ ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขนซ้าย
       ๔. นางอรวรรณ วนัสบดีกุล อายุ ๕๖ ปี ได้รับบาดเจ็บที่โคนขาซ้าย
       ๕. นายวิรัตน์ วิเชียรพงษ์ อายุ ๔๙ ปี ได้รับบาดเจ็บที่กกหูซ้าย
       ๖. นางเบ็ญจภร บัวพูน อายุ ๔๒ ปี ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าขวา
       ๗. นางลำดวน สุขเสงี่ยม อายุ ๔๘ ปี ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าซ้าย
       ๘. นายสุเทพ สุขคำแหง อายุ ๔๙ ปี ได้รับบาดเจ็บที่ข้อศอกซ้ายสะเก็ดระเบิดฝังใน
       ๙. นางภาวนา คำสันยี อายุ ๕๑ ปี ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย
       ๑๐. นางทิพวรรณ อู่ประสิทธิ์วงศ์ ได้รับบาดเจ็บที่สะโพกด้านซ้าย
      
       นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดอีกจำนวน ๕ ราย ถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ. จุฬา จำนวน ๑ ราย รพ. วชิระ จำนวน ๑ ราย และ รพ. กลางอีก จำนวน ๓ ราย โดยที่ รพ. กลางมีช่างภาพของ ASTV คือนายนพพร สุขราม อายุ ๒๕ ปี ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บที่บริเวณไหล่เข้ารับการรักษาอยู่ด้วย
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ผู้บาดเจ็บที่เข้าทำการรักษาที่ รพ. พระมงกุฎได้รับการรักษาจนอาการปลอดภัยแล้ว ซึ่งแพทย์ได้ทำแผลและให้ผู้ที่บาดเจ็บเล็กน้อยทยอยเดินทางกลับได้แล้ว
      
       รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า แกนนำพันธมิตรฯ ได้เรียกประชุมด่วน เพื่อหาทางป้องกันเหตุร้าย และเร่งหาตัวคนร้ายที่ลอบยิงระเบิดใส่พันธมิตรฯ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด


 


ที่มา...ผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000137348