วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2550

รฦกถึง "เจ้าตาก" และ "กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร"





 



 


๒๘ ธันวาคม


วันแห่งการรฦกถึง เจ้าตาก


และ กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร


 


 


            ย้อนหลังไปเมื่อวันพุธ แรม ๔ ค่ำ เดือนอ้าย ปีชวด สัมฤทธิศก ๑๑๓๐ ตรงกับวันพุธที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๓๑๐ เป็นวันที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือในพระนามของ เจ้าตาก ที่ว่ากันว่าทหารผู้จงรักภักดีของพระองค์ มักออกพระนามพระองค์เช่นนั้น ทรงสถาปนาเมืองธนบุรีขึ้นเป็นราชธานีแทนกรุงศรีอยุธยา และพระราชทานนามว่า กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร


            ปัจจุบันทางการได้ถือเอาวันที่ ๒๘ ธันวาคม เป็น วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช


            วันที่ผู้ยังภักดีและจดจำรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อ เจ้าตาก ยังคงรฦกถึงเสมอ


 


            เหตุที่ เจ้าตาก ทรงตัดสินพระทัยย้ายราชธานีจากกรุงศรีอยุธยามายังเมืองธนบุรี ก็เพราะแม้กรุงศรีอยุธยาจะอยู่ในชัยภูมิที่ดี มีน้ำล้อมรอบ แต่ก็ยากแก่การป้องกันข้าศึกศัตรู ด้วยข้าศึกรู้ลู่ทางเป็นอย่างดีเสียแล้ว อีกทั้งไพร่พลทหารของพระองค์ก็มีไม่มากพอ และกรุงศรีอยุธยาถูกทำลายย่อยยับจนยากเกินกว่าจะบูรณะให้คืนดีดังเดิม


            เจ้าตาก จึงทรงเลือกเมืองธนบุรีเป็นราชธานี เพราะนอกจากเมืองธนบุรีจะตั้งอยู่บนเกาะเหมือนกรุงศรีอยุธยา มีคลองมาก น้ำมาก ดินดี เหมาะแก่การเกษตรกรรม สามารถทำไร่ทำสวนได้ตลอดทั้งปีแล้ว ยังมีวัดเก่ามากมาย ไม่ต้องเสียเวลาและแรงงานสร้างวัดขึ้นมาใหม่ ประกอบกับเหตุผลอื่น ๆ อีก ได้แก่


 


            ประการแรก เรื่องการรับมือข้าศึกศัตรู เมืองธนบุรีเป็นเมืองที่มีแม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่าน หากมีข้าศึกศัตรูบุกมา สามารถลงเรือหนีไปตั้งหลักที่เมืองจันทบุรีได้ อีกทั้งเมืองธนบุรีมีป้อมเก่าที่สร้างไว้แต่ครั้งสมเด็จพระนารายณ์มหาราช คือ ป้อมวิชัยประสิทธิ์และป้อมวิไชเยนทร์ ซึ่งยังพอที่จะใช้ป้องกันข้าศึกได้


            ประการต่อมา เรื่องการค้า เมืองธนบุรีตั้งอยู่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นเส้นทางค้าขายของหัวเมืองทางเหนือ จึงเป็นการกันมิให้หัวเมืองเหล่านั้นตั้งตนเป็นใหญ่ ซื้อหาอาวุธจากต่างชาติทางหนึ่ง และเมืองธนบุรียังตั้งอยู่ใกล้ทะเล ทำให้สะดวกแก่การค้าโดยไม่ต้องขนถ่ายสินค้าลงเรือเล็กไปขึ้นเรือใหญ่เหมือนกรุงศรีอยุธยา


 


            พระราชภาระในการฟื้นฟูทำนุบำรุงบ้านเมือง รวมทั้งขวัญและกำลังใจของผู้คนหลังจากบ้านแตกสาแหรกขาดของ เจ้าตาก คงเป็นพระราชภาระที่หนักอึ้งไม่น้อย


            เป็นธรรมดาของ คนถางทาง


            แต่แม้ เจ้าตาก จะต้องทรงเหนื่อยหนักกับการทำนุบำรุงบ้านเมืองในทางโลก หากก็ไม่ทรงละเลยพระราชกิจในทางธรรม


 


            กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร เป็นราชธานีของสยามประเทศได้เพียง ๑๕ ปี ก็ถึงกาลอวสานลงในปี พ.ศ. ๒๓๒๕ พร้อม ๆ กับ เจ้าตาก ผู้ทรงสถาปนาราชธานีแห่งนี้ ก็เสด็จสวรรคตในปีเดียวกันนั้น เมื่อวันเสาร์ เดือน ๔ แรม ๙ ค่ำ ปีขาล ตรงกับวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๓๒๕


 


 


บุญกุศลใด


ที่ข้าพเจ้าเคยทำมา


ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ


และที่กำลังจะทำต่อไปในอนาคต


ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้


ข้าพเจ้าขออุทิศถวายแด่


เจ้าตาก


และเหล่าไพร่พลทหารของ เจ้าตาก


ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ


และความเสียสละอันยิ่งใหญ่


ของบรรพบุรุษไทย


 


 


......................................................................


ด้วยเลือดด้วยเนื้อของคนทำทาง


ถางทางตั้งต้นให้คนต่อไป


(จากเพลง คนทำทาง ของ คีตาญชลี)
......................................................................


 


 


 



            อันตัวพ่อ        ชื่อว่า             พระยาตาก
ทนทุกข์ยาก               กู้ชาติ            พระศาสนา
ถวายแผ่นดิน             ให้เป็น           พุทธบูชา
แด่พระศาสนา            สมณะ           พุทธโคดม


          ให้ยืนยง          คงถ้วน          ห้าพันปี
สมณะพราหมณ์ชี        ปฏิบัติ           ให้พอสม
เจริญสมถะ                วิปัสสนา         พ่อชื่นชม
ถวายบังคม                รอยบาท         พระศาสดา


          คิดถึงพ่อ         พ่ออยู่            คู่กับเจ้า
ชาติของเรา                คงอยู่            คู่พระศาสนา
พุทธศาสนา                อยู่ยง            คู่องค์กษัตรา
พระศาสดา                 ฝากไว้           ให้คู่กัน


 


จารึกในศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร
ไม่ปรากฏนามผู้แต่งผู้ควรค่าแก่การคารวะ


 


 


 


ภาพ เจ้าตาก ภาพที่ ๑-๓ ค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
ภาพ เจ้าตาก ภาพที่ ๔-๖ มูลนิธิอุบลรังสี จังหวัดนครปฐม
ภาพ เจ้าตาก ภาพที่ ๗-๙ วัดหทัยนเรศวร์ จังหวัดนครปฐม
(ปัจจุบันถูกย้ายไปไว้ที่จังหวัดหนึ่งในทางภาคใต้)


 


 


เพลง "คนทำทาง" - "คีตาญชลี"






7 ความคิดเห็น:

  1. ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และความเสียสละอันยิ่งใหญ่ ของพระองค์

    ตอบลบ
  2. =^_^=
    ทราบซึ้งในพระมหรกรุณาธิคูณครับ

    ตอบลบ
  3. ร่วมน้อมรำลึกถึงพระคุณท่าน ที่มีต่อแผ่นดินสยาม ฮับ

    ตอบลบ
  4. แม่ปุยเคยเล่าพระราชประวัติให้ปุยฟัง
    ในช่วงบั้นปลายชีวิตท่านน่าสงสาร(ใช้คำถูกมั้ยเนี่ย)มากเลย

    ตอบลบ
  5. กษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่

    ตอบลบ
  6. เป็นการรวบรวมและสรุบย่อประวัติศาสตร์ของคนถางทางที่อ่านง่ายเหมาะกับยุกต์สมัยครับ....ขอน้อมจิตคารวะครับ

    ตอบลบ
  7. พระองค์ท่านทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่และกล้าหาญค่ะ

    ตอบลบ