วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2550

บั น ทึ ก คว า ม ท ร ง จำ . . . "พระพุทธจิตตโสภา" พระพุทธรูปส่วนตัวองค์แรกองค์เดียวของฉัน

 


คำขอขมาพระรัตนตรัย


นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ


สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ


          หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
          ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ

 

 


 

 


พระพุทธจิตตโสภา

พระพุทธรูปส่วนตัว
องค์แรกองค์เดียวของฉัน

 

 

 

 

๑...

เป็นที่รู้กัน
ในหมู่เพื่อนฝูงที่สนิทว่า ปกติฉันเป็นคนไม่ชอบสะสมพระพุทธรูป แม้แต่พระคล้องคอฉันก็ไม่ยอมคล้องมาแต่เด็ก พ่อ-แม่จะบังคับให้คล้องไว้ ฉันก็จะแอบแกะออก ไม่ก็สร้อยขาดบ้าง พระหายบ้าง ก็คันคอบ้าง คอไหม้บ้าง (เมื่อก่อนเข้าวัดบางทีก็คอไหม้ อันนี้เรื่องจริง ถามเพื่อนที่เคยเห็นมาแล้วได้)

            โตขึ้นมาใครให้พระคล้องคอให้เหรียญพระฉันมา ฉันก็มักนำไปให้คนอื่นต่อ จะเก็บไว้บ้างก็เฉพาะที่มีคุณค่าทางใจต่อฉัน เช่น คนที่รักให้มาเพราะ รัก เพราะ ห่วง จากความเชื่อส่วนบุคคลของเขา ยามที่ฉันประสบกับสถานการณ์ในชีวิตที่ย่ำแย่ปางตาย หรือบางองค์ที่ความรู้สึกบางอย่างในใจบอกฉันว่า ต้องรับนั่นแหละฉันถึงจะยอมรับไว้อย่างแกน ๆ

            ฉันไม่เคยอยากรับเพราะความงาม ความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ หรือคุณวิเศษ ทางโลก ตามที่มีผู้ร่ำลือฮือฮากัน

            แล้วเหตุอันใดฉันจึงมีพระพุทธรูปส่วนตัว ซึ่งเช่าหามาเองเสียด้วย (ขนาดให้ฟรียังไม่รับ แต่นี่ลงทุนเช่ามาเลย แปลกไหม)



๒...

พระพุทธจิตตโสภา
คือพระพุทธรูปนาคปรกส่วนตัวองค์แรกองค์เดียวของฉัน ที่ฉันถึงกับยอมควักเงินเช่ามา และยังบังอาจมาตั้งพระนามพระพุทธรูปเองเสียด้วยในภายหลัง

            ฉันไปพบพระพุทธรูปองค์นี้เข้าโดยบังเอิญที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี ฉันดูไม่เป็นหรอกว่า เป็นพุทธศิลป์ศิลปะช่างแบบไหน งามหรือไม่อย่างไร เป็นของเก่าหรือของใหม่ ซึ่งฉันก็ไม่สนใจเงื่อนไขเหล่านี้อยู่แล้วด้วย

            ฉันสะดุดใจและอิ่มเอิบใจในฉับพลัน กับนาคปรกเศียรเดียวที่แกะอย่างเรียบง่าย พระพักตร์ของพระพุทธรูปที่ยิ้มสงบเย็นเปี่ยมเมตตากับฉัน  และที่สำคัญเป็น พระไม้ ที่ฉันเคยคิดเสมอว่า หากฉันจะมีพระพุทธรูปส่วนตัวกับเขาสักองค์ ฉันจะรอ พระไม้

            ฉันชอบ พระไม้ ของคนอีสานคนลาว ที่สร้างอย่างดิบ ๆ ซื่อ ๆ เรียบง่าย แต่เปี่ยมด้วยพลังศรัทธา ฉันรอ แต่ฉันก็ไม่เคยดิ้นรนหา



๓...

จะเล่าให้ฟัง
ถึงที่มาของพระพุทธรูป
พระพุทธจิตตโสภา องค์นี้

            เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ฉันเดินทางไปทำงานที่จังหวัดลพบุรี น้องเจ้าถิ่นกลุ่มหนึ่งพาฉันไปวัดเก่าแห่งหนึ่ง ขณะกำลังดูโบสถ์มหาอุดกันอยู่ หลวงพ่อรูปหนึ่งเดินเข้ามาแล้วชวนพวกฉันเข้าไปนั่งพักในกุฏิท่าน เมื่อเข้าไปถึงกุฏิท่าน น้องคนหนึ่งที่ไปด้วยก็สะกิดฉันให้ดูพระพุทธรูปองค์นี้

            ฉันเห็นปุ๊บอยากได้ขึ้นมาจับใจ เลยรวบรวมความกล้าบอกกับหลวงพ่อว่า

            หนูไม่เคยมีพระพุทธรูปส่วนตัวของหนูเองเลยค่ะ และไม่เคยอยากมีด้วย แต่พระพุทธรูปองค์นี้ ทำไมหนูอยากบูชากลับไปบ้านก็ไม่รู้ค่ะ หลวงพ่อให้หนูบูชาไปนะคะ (ชัดเจน ตรงประเด็น)

            หลวงพ่อท่านอมยิ้มแล้วตอบว่า ท่านไม่ได้ให้เช่าพระ ฉันก็ตอบท่านไปว่า ก็ไม่ได้เช่านี่คะ หลวงพ่อก็ให้หนูบูชาไป แล้วหนูก็ถวายเงินหลวงพ่อทำบุญร่วมสร้างโบสถ์ใหม่ ตอนนั้นทางวัดกำลังสร้างโบสถ์ใหม่

            หนูไม่เคยอยากได้อยากมีนะคะหลวงพ่อ นี่เป็นองค์แรกเลย ฉันตื๊อแล้วถามต่อว่า หลวงพ่อเช่ามาจากไหน แพงมั้ยคะ

            หลวงพ่อตอบว่า องค์นี้ท่านเช่ามาไว้บูชาของท่าน มาจากชายแดนเขมร เช่ามา ๓,๐๐๐ บาท



๔...

เอาหละสิ
๓,๐๐๐ บาท ยามนี้ตังค์หมด เหลือไม่ถึงสองพัน เอาไงดีหว่า ฉันคิดในใจ แต่หลวงพ่ออมยิ้ม แล้วชี้ไปที่พระพุทธรูปทางขวามือท่าน พร้อมกับบอกว่า
ลองไปยกพระ แล้วอธิษฐานอะไรก็ได้ ว่าจะยกขึ้นมั้ย

            ฉันไปยกพระพุทธรูปอธิษฐานตามที่หลวงพ่อบอก แล้วกลับไปหาท่าน พระพุทธรูปหนักอึ้งอยู่เหมือนกัน แต่ฉันยกขึ้น

            หลวงพ่ออมยิ้มแล้วถามว่า อธิษฐานอะไร

            ขอให้หลวงพ่อยอมให้บูชาพระไม้องค์นี้กลับบ้านในราคาพันสอง ฉันตอบเสียงดังฟังชัดหนักแน่น (ขอขมากรรมพระรัตนตรัยที่บังอาจตีราคาพระพุทธรูป แต่อยากได้มาบูชาที่บ้านจริง ๆ)

            คราวนี้หลวงพ่อหัวเราะ ไม่อมยิ้มแล้ว และบอกฉันว่า ไปยกมา แล้วท่านก็รับพระพุทธรูปไปเจิมและสวดมนต์อะไรสักพัก ก็ส่งกลับมาให้ฉัน ฉันเลยถวายเงินไปร่วมสร้างโบสถ์ไป ๑,๔๐๐ บาท (เกินกว่าที่อธิษฐานไป ๒๐๐ บาท และคิดในใจว่า วันหลังรอมีตังค์ก่อนจะกลับไปถวายคืนอีก ๑,๖๐๐ บาท)

            หลวงพ่อท่านบอกว่า จริง ๆ ท่านไม่ได้มีพระพุทธรูปไว้สำหรับให้เช่า แต่ท่านก็ต้องการปัจจัยสร้างโบสถ์ ฉันก็บอกหลวงพ่อว่า ฉันก็ไม่ใช่คนอยากสะสมพระพุทธรูปเหมือนกัน แต่พระพุทธรูปองค์นี้ เป็นองค์แรกที่ฉันอยากได้ไปบูชา



๕...

กาลผ่านไป
ฉันบังอาจตั้งพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า
พระพุทธจิตตโสภา (แอบเอาชื่อตัวเองมาร้อยไว้ด้วย) ฉันไม่รู้ว่าถูกต้องตามหลักไวยากรณ์บาลีหรือเปล่า แต่ฉันอยากจะสื่อความหมายไปในเชิงที่ว่า พระพุทธรูปที่ (ทำให้ฉันมี) จิตใจงดงาม (ฉันหมายถึง จะทำ ให้ฉันมีจิตใจงดงาม หมายถึงวันหนึ่งข้างหน้า ฉันคงจะ มีจิตใจงดงามได้)

            อันที่จริงฉันจะไปหาครูสอนภาษาล้านนาฉันที่ท่านสอนอยู่มหาจุฬาฯ ให้ท่านช่วยตั้งพระนามพระพุทธรูปให้ เพราะท่านเก่งทางบาลี แต่ก็ไม่ได้ไปเสียที เลยขอใช้พระนามนี้ไปก่อนละ



๖...

เหตุที่ฉันตั้งพระนามนี้
ก็เพราะว่า ตั้งแต่ได้
พระพุทธจิตตโสภา องค์นี้มาบูชา เหลือเชื่อว่า ฉันไม่อยากออกจากบ้านไปเที่ยวไหน แม้แต่ไปเที่ยวกับเพื่อนในกรุงเทพฯ นี่เอง ฉันก็อยากจะกลับบ้านมานั่งสมาธิหน้า พระพุทธจิตตโสภา ของฉัน

            หากต้องไปไหน ถ้ากลับมาในวันนั้นไม่ได้ ต้องค้างคืน เช่น ไปทำงานที่ต่างจังหวัด ไปบ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัด ตกกลางคืน ฉันเป็นต้องสร้างมโนภาพว่าฉันกลับมานั่งสมาธิอยู่หน้า พระพุทธจิตตโสภา แล้วทำสมาธิไปอย่างอิ่มสุข

 

            นอกจากพระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) วัดอัมพวัน สิงห์บุรี ที่ถ่ายทอดวิชาทางธรรมให้แก่ฉัน จนฉันค่อย ๆ เป็นผู้เป็นคนกับเขาขึ้นมาได้บ้าง และครูบาอาจารย์อีกหลายท่านแล้ว พระพุทธจิตตโสภา ก็มาช่วยเสริมให้ฉันได้ปฏิบัติธรรมและเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น

            ฉันเริ่มค่อย ๆ ปฏิบัติธรรมมากขึ้น ค่อย ๆ กะเทาะกิเลสที่พอกหนาออกไปได้บ้าง ซึ่งแม้จะเพียงแค่กระผีก แต่สำหรับฉันและพ่อ-แม่ ครูบาอาจารย์ เพื่อนฝูง ที่เฝ้ามองฉัน ได้แค่นี้ก็นับว่าเป็นบุญมากโขแล้ว



๗...

ทั้งหมดที่เล่ามานี่
ฉันไม่ได้หมายความว่าฉันเป็น
คนดี

            ฉันก็แค่ เริ่ม ที่จะ ฝึก เป็น คนดี

            ฉันแค่ อยากดี กับเขาบ้าง

            ฉันอยากลองฝึกเป็นชาวพุทธจากการ ปฏิบัติ แทนการเป็นชาวพุทธจากการรับ มรดก มาจากพ่อ-แม่ตั้งแต่เกิด ดังคำครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งสอนไว้

            โดยที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่า จะมีวันที่กิเลสหนา ๆ กร่อนไปจากกายฉันหมดหรือไม่

            หรือบางทีมันอาจจะพอกพูนขึ้น....ฉันไม่รู้

 

            ฉันรู้แค่เพียง พระพุทธจิตตโสภา ถูกประทานมาให้ฉัน “ฝึกจิต ให้ งดงามให้ได้ในวันหนึ่งข้างหน้า

 

            เพื่ออะไร

            ฉันขอไม่บอก

 

           

 

11 ความคิดเห็น:

  1. ผมนะเดินบนสพานลอย สายกลาง

    ตอบลบ
  2. อนุโมทนาสาธุด้วยคนนะคะพี่หวานเจี๊ยบ พยายามขัดเกลาใจตัวเองอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ รัก โกรธ หลง กิเลสกองใหญ่ยังเต็มหัวใจอยู่เลยค่ะ เฮ้ออออออ

    ตอบลบ
  3. เพิ่งได้แวะเข้ามาดู
    ขอบคุณมากค่ะ "คุณครูใหญ่"
    คิดถึง "คุณครูใหญ่" นะคะ
    อีก ๗ เดือน เจอกันค่ะ

    ตอบลบ
  4. สาธุ...อนุโมทนาด้วยค่ะ

    ใครว่าแบบนี้เป็น "บัวน้ำลึก" คะ

    ตอบลบ
  5. เดี๊ยว...งง...กลับมาตอบก่อน
    สะพานลอยนี่มันสายกลางยังไงจ๊ะพ่อคุ้ณณณณณณณณณณณณณณณณณณ

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณค่า "น้องจิ๊บ"
    ของพี่ก็กองใหญ่เหมือนกันค่ะ

    ตอบลบ
  7. เย ธัมมา เหตุ ปภภวา เตส เหตฺุ ตถาคโต อาห
    เต สัญจโย นิโรโธ เอวฺ วาที มหาสมโณ
    ขออภัยถ้าพิมบาลีผิด ท่านผู้เจริญทั้งหลายกรุณาอย่าถืสา
    เห็นคุณs.j ได้มงคลนิมิตจิตโสภา พลันเกิดโยนิโสมนสิการremindถึงวันงดงามที่หนุ่มน้อยอุปปติส ได้ฟังโศลกตอบอัศจรรย์อกาลิโกจากพระอัสสชิ จึงอนุโมทนาการมาด้วยปีติแห่งดวงใจ

    ตอบลบ
  8. เย ธัมมา เหตุ ปภภวา เตส เหตฺุ ตถาคโต อาห
    เต สัญจโย นิโรโธ เอวฺ วาที มหาสมโณ
    ขออภัยถ้าพิมบาลีผิด ท่านผู้เจริญทั้งหลายกรุณาอย่าถืสา
    เห็นคุณs.j ได้มงคลนิมิตจิตโสภา พลันเกิดโยนิโสมนสิการremindถึงวันงดงามที่หนุ่มน้อยอุปปติส ได้ฟังโศลกตอบอัศจรรย์อกาลิโกจากพระอัสสชิ จึงอนุโมทนาการมาด้วยปีติแห่งดวงใจ

    ตอบลบ
  9. สพานลอยจะทอดจาก ถนนฝั่งหนึ่งไปยังอิกฝั่งหนึ่ง แล้วคุณคิดว่าสพานลอยนะอยู่ริมถนน หรืออยู่กลางถนน หากผมเดินบนสพานลอยเผื่อว่าจะข้ามไปอิกฝั่งหนึ่งแน่นอนผมต่องเดิน บนสะพานลอยที่อยู่กลางถนนแน่นอน

    ตอบลบ
  10. สพานลอยอยู่ลอยบนถนนแน่นอนครับ แต่ทางสายกลางสิ น่ากลัว
    ผมอยู่บนเลนซา้ยถูกต้องตามกฎ แต่พี่เขาสวนมา กินเลนเข้ามา ความถูกต้องของผมต้องหลบวูบไปเลย๕รับ เอาตัวรอดน่ะ บนถนนอย่าขับกลางเส้นแบ่งเลนนะครับ ทางสายกลางเป็นเส้นที่แคบและอันตรายมากเลยะะะะะ

    ตอบลบ