วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2550

หนี้บุญกับหนี้บาป (ตอนที่ ๑) . . . " วิธี ใช้ หนี้ บุญ คุณ " . . . โดย "ดังตฤณ"

Rating:★★★★★
Category:Other




          หนี้แบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ ๆ คือ

           ๑) หนี้บุญคุณ หมายถึงการที่ใครบางคนช่วยให้คุณดำรงชีวิตอยู่ได้ หรือนำคุณออกมาจากสถานการณ์ลำบาก หรือทำให้คุณสุขกายสบายใจเป็นพิเศษ การติดหนี้บุญคุณแตกต่างจากคะแนนติดลบ เพราะส่วนใหญ่การไม่มีโอกาสชดใช้หนี้ยังไม่ทำให้คุณต้องประสบทุกข์ หนี้ประเภทนี้จะให้ผลหนักเมื่อคุณจงใจลืมบุญคุณ หรือกระทั่งทำร้ายผู้มีพระคุณ ผลของการทำร้ายผู้มีพระคุณอาจคูณสิบ คูณร้อย หรือคูณพันของการทำร้ายคนทั่วไป พระคุณยิ่งสูงมากตัวคูณยิ่งสูงตาม

          ๒) หนี้บาปเวร หมายถึงการที่คุณทำให้ใครบางคนต้องบาดเจ็บล้มตาย หรือทำให้เขาตกที่นั่งลำบาก หรือทำให้เขาทุกข์กายไม่สบายใจผิดปกติ การติดหนี้บาปเวรเป็นอันเดียวกับคะแนนติดลบ จะต่างกันก็ตรงที่คะแนนติดลบธรรมดาอาจไม่เกี่ยวข้องกับใคร เช่นคุณดื่มเหล้าเมาจนสุขภาพเสื่อมโทรมโดยไม่รบกวนใครจัดเป็นคะแนนติดลบธรรมดา ทว่าถ้าเมาสุราอาละวาด ทำร้ายคนอื่นด้วย อย่างนี้ถือเป็นหนี้บาปเวรที่ต้องชดใช้




วิธีใช้หนี้บุญคุณ


๑) สำนึกบุญคุณ

          หมายถึงการจดจำไว้ไม่ลืม และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องไม่แกล้งลืม ว่าใครเคยให้ความช่วยเหลืออะไรคุณไว้บ้าง วิธีที่ดีที่สุดที่จะไม่ลืมบุญคุณคนก็คือหมั่นระลึกถึงเสมอ ๆ อาจจะด้วยการนำรูปบุคคลที่มีพระคุณสูงสุดมาแขวนไว้ในจุดเห็นง่าย และกราบไหว้อยู่เนือง ๆ

          การกราบไหว้เปล่า ๆ กับการกราบไหว้ด้วยความระลึกถึงบุญคุณนั้นแตกต่างกันมาก ด้วยการระลึกถึงพระคุณท่าน คุณจะรู้สึกถึงความอ่อนน้อม ความเป็นมงคลอันอบอุ่น อาการทางใจเช่นนี้คือการลดทิฐิมานะและความทะนงลงเสียได้

          การสำนึกบุญคุณนั้น ไม่ว่าจะด้วยการระลึกขึ้นมาเฉย ๆ หรือการหมั่นกราบไหว้รูปเคารพ จะทำให้ตัวตนของคุณเล็กลง เพราะตระหนักว่าที่โตขึ้นมาได้ หรือดีขึ้นมาได้ ย่อมไม่ใช่จากตัวเองโดด ๆ อย่างน้อยต้องมีการให้ความช่วยเหลือค้ำจุนจากผู้อื่นเสมอ คนสำนึกบุญคุณเก่ง ๆ จะไม่ลืมตัวง่าย ๆ และนั่นก็หมายความว่าจะตกต่ำลงยากด้วย

          การระลึกถึงบุญคุณคนทำให้คุณพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้มีพระคุณเต็มกำลัง หรือเท่าที่มีโอกาสเป็นไปได้ คุณจะไม่มานั่งคำนวณว่าใครให้คุณมาเท่าใด คุณใช้ไปเท่านั้นหรือยัง คุณจะรู้สึกอยากตอบแทนตามโอกาสเท่าที่ใครคนนั้นยังมีชีวิตอยู่

          การหมั่นระลึกถึงและตอบแทนบุญคุณ จะเป็นภูมิคุ้มกันโรคเนรคุณ ผู้ลืมระลึกถึงบุญคุณคนนั้น ในที่สุดจิตมักลืมอย่างสนิทว่าติดหนี้ใครอยู่บ้าง นั่นเป็นธรรมชาติของจิต ที่เมื่อไม่เข้าข้างสว่างก็ย่อมยืนอยู่ข้างมืด ความมืดคือโมหะที่เข้าครอบงำ เมื่อถูกครอบงำหนักเข้าก็มีสิทธิ์ยกชั้นขึ้นเป็นการเนรคุณ

           แค่กรรมที่ลืมบุญคุณคนก็จะทำให้เป็นผู้ไม่ได้รับความเห็นใจช่วยเหลือในยามลำบาก แต่หากถึงขั้นเนรคุณได้นี่จะต้องโดนโทษหนัก ทำอะไรต่อให้เจริญแค่ไหนก็จะกลับตกต่ำอย่างไม่คาดฝัน



๒) หาทางตอบแทน
อย่างสมน้ำสมเนื้อ


          คำว่าตอบแทนอย่างสมน้ำสมเนื้อนั้น อาจเข้าใจง่ายถ้าเป็นกรณีทั่วไป เช่นเมื่อคุณเป็นหนี้ใครหนึ่งพันบาท การตอบแทนอย่างสมน้ำสมเนื้อคือให้คืนเขาพันบาท หรือควรติดเศษนิดหน่อยเป็นดอกเบี้ยตามอัตรามาตรฐาน

          แต่หลายครั้งบุญคุณวัดกันเป็นตัวเงินไม่ได้ อย่างเช่นพ่อแม่นั้น ช่วยให้คุณเอาชนะเงื่อนไขข้อจำกัดทางธรรมชาติ ที่มนุษย์จะอุบัติและมีความเต็มรูปด้วยตนเองไม่ได้ ต้องอาศัยท้องคนอื่นเกิด ต้องอาศัยคนอื่นเลี้ยงดูจนเติบโต ต้องอาศัยคนอื่นส่งเสียให้เล่าเรียน ซึ่งตามเกณฑ์ปกติจะมีใครเต็มใจ ถ้าไม่ใช่พ่อแม่ของคุณ

          ดังกล่าวแล้วในบทที่ ๒ ว่ากายใจมนุษย์เป็นอุปกรณ์เล่นเกมราคาแพง คุณได้มาจากใคร คนนั้นจึงมีบุญคุณเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ฉะนั้นการตอบแทนอย่างสมน้ำสมเนื้อจึงมิอาจตีค่าด้วยการให้เงินทองเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้ ถ้าพวกท่านไม่มีคุณท่านยังมีชีวิตอยู่ได้ แต่ถ้าไม่มีพวกท่านคุณจะไม่มีเลือดเนื้อและชีวิตขึ้นมาได้เอง ฉะนั้นต่อให้เอาสมบัติทั้งหมดที่คุณใช้เลือดเนื้อนี้หามายกให้ท่านน้ำหนักก็ยังไม่เรียกว่าใช้หนี้ครบ เพราะเลือดเนื้อทั้งหมดของคุณยังเป็นหนี้อยู่ทั้งก้อน คุณจะหาสมบัตินอกกายชิ้นใดมาเทียบได้

           การคิดเลี้ยงดูให้พ่อแม่สุขทั้งกายสบายทั้งใจนับเป็นการตอบแทนครึ่งเดียว หากจะตอบแทนอย่างสมน้ำสมเนื้อนั้น คุณต้องมีโอกาสด้วย โอกาสที่ว่านั้นคือพ่อ และ/หรือ แม่ของคุณยังไม่มีที่พึ่งให้ตนเอง ได้แก่ความรู้ความศรัทธาในเรื่องกรรมและการให้ผลกรรม ยังไม่มีความตั้งมั่นในทาน ยังไม่มีความตั้งมั่นในศีล แล้วคุณสามารถโน้มน้าว ชักชวนให้พวกท่านมาศรัทธากรรม ฝึกให้ทานจนไม่ให้แล้วเหมือนขาดอะไรไป ฝึกถือศีลจนประพฤติผิดแล้วรู้สึกผิดรุนแรง นั่นแหละจึงได้ชื่อว่าตอบแทนคุณท่านอย่างสมน้ำสมเนื้อ

          ที่กล่าวได้เช่นนั้นก็เพราะในเกมกรรมนี้ กรรมดีนั่นเองคือที่พึ่งที่แท้จริง เมื่อคุณทำให้ท่านศรัทธากฎแห่งกรรมวิบาก ตั้งมั่นในทาน ตั้งมั่นในศีล ก็เท่ากับคุณตอบแทนเลือดเนื้อก้อนนี้เป็นอัตภาพดี ๆ ในเกมกรรมครั้งต่อ ๆ ไปของท่านนั่นเอง

          ธรรมชาติพิเศษของการใช้หนี้บุญคุณมีอยู่ประการหนึ่ง คือยิ่งหนี้สูงแล้วคุณใช้คืนอย่างสมน้ำสมเนื้อ คุณจะได้คะแนนบวกมหาศาล น้ำหนักของกรรมดีที่คุณทำกับพ่อแม่จะให้ผลชัดเป็นความไม่ตกต่ำ แม้ชาติปัจจุบันถูกกรรมเก่าร้าย ๆ เล่นงานก็จะได้รับความช่วยเหลือ ผ่อนหนักให้เป็นเบาตามสมควร

          เรื่องน่าเศร้าคือเกมกรรมจะปิดบังไม่ให้คุณเห็นช่วงเวลาที่แม่ลำบากตั้งท้องคุณ ไม่เปิดเผยให้เห็นช่วงนาทีวิกฤตที่ต้องทุกข์สาหัสกับการเบ่งคุณออกมา กับทั้งไม่ให้คุณรับรู้ว่าพ่อแม่ทำงานหนักเพื่อเลี้ยงคุณอย่างไร คุณจึงเห็นแค่บุญคุณของครู บุญคุณของเพื่อน บุญคุณของใครต่อใครอื่น ๆ ในโลกที่ทุ่มเทเวลาช่วยเหลือคุณ และอาจตัดสินว่าน้ำหนักคงพอ ๆ กันกับที่พ่อแม่ช่วยเหลือคุณมา

          หากคุณไม่ตอบแทนพ่อแม่เลย ลูกของคุณจะทำหน้าที่ทวงแทน คือกรรมของคุณจะไปดึงดูดเอาพวกที่จะมาเป็นลูกล้างลูกผลาญ และไม่สำนึกบุญคุณ หากคุณไม่มีลูกก็ทบหนี้ไปถึงชีวิตหน้าในเกมต่อไป

          ในทางกลับกัน หากคุณมีลูกแล้วไม่รับผิดชอบดูแลลูกเมียให้ดี มันอาจหมายถึงการเลื่อนเวลาชดใช้หนี้เก่าก็ได้ ต้องแยกให้ออกว่าลูกอาจติดหนี้น้ำกามของคุณ แต่คุณเองก็อาจเคยติดหนี้เขาไว้ก่อน (และโดยมากจะเป็นเช่นนั้น) หากเขามาทวงหนี้คืนแล้วไม่ใช้ ชาติต่อไปคุณก็มีสิทธิ์สูงที่จะไปเกิดกับพ่อแม่ที่ขาดความรับผิดชอบ เลี้ยงดูแบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ หรือฝากคนอื่นเลี้ยงจนคุณว้าเหว่และมีปัญหาตั้งแต่เล็ก

          ในกรณีทั่วไป สำหรับใครก็ตามที่มีพระคุณ โดยเฉพาะในระดับที่คุณรู้สึกซาบซึ้งและเป็นหนี้บุญคุณ การใช้หนี้ที่ดีที่สุดคือการให้ความสุขกับเขา อะไรก็ตามที่ทำแล้วรู้ว่าเขาจะเป็นสุข จงทำให้มาก และทำเท่าที่โอกาสจะอำนวย อย่ากะเกณฑ์ว่าแค่นี้ใช้หนี้ให้แล้ว ถือว่าหายกันแล้ว เพราะโดยทั่วไปถ้าจิตคุณถึงขั้นรู้สึกซาบซึ้งบุญคุณใคร ส่วนใหญ่บุญคุณนั้นจะหนักยิ่ง อย่าประมาณเลยว่าชดใช้แค่นั้นแค่นี้แล้วจะพอ

          หมายเหตุไว้ด้วยว่าการใช้หนี้บุญคุณควรเป็นไปตามกำลัง และไม่ใช่ต้องทุ่มเงินทุ่มทองเท่านั้น ยังมีวิธีในโลกมากมายที่คุณรินสุขสู่ใจใคร ๆ โดยไม่ต้องเกี่ยวข้องกับเงินทอง เช่นความคิดปรารถนาดี ก็เป็นคลื่นความสุขที่ส่งและสื่อจากใจถึงใจได้แล้ว คำพูดและกิริยาอ่อนน้อมให้เกียรติก็นับว่าเป็นการลงมือตอบแทนได้อย่างหนึ่งด้วย ดังกล่าวแล้วในหัวข้อก่อน

          กำหนดระยะการใช้หนี้ในเกมกรรมนั้น โดยทั่วไปจะ ‘ควรใช้ทันทีเมื่อสบโอกาส’ หรือให้ดีกว่านั้นคือไม่ประมาท คิดว่า ‘รีบใช้เสียก่อนเจ้าหนี้ตาย’ ขอเพียงเริ่มจากความตั้งใจจริง แม้ยังไม่ลงมือก็ถือว่าใช้ไปบางส่วนแล้ว ชีวิตนี้คุณอาจไม่มีโอกาสใช้หนี้ครบถ้วน แต่ขอเพียงมีใจคิดอยู่บ้าง คุณก็จะรู้สึกเบาตัวลง เหมือนคนสบายใจได้ใช้หนี้ ไม่ใช่ทำไม่รู้ไม่ชี้ดองหนี้ไว้จนกลายเป็นคนขาดความนับถือตัวเองไป




ที่มา : http://dungtrin.com/meecheewit/mobile/04.htm
จากหนังสือ ”มีชีวิตที่คิดไม่ถึง” โดย ”ดังตฤณ”




2 ความคิดเห็น:

  1. อืม แล้วถ้าติดเงิน เลี้ยงเหล้าล่ะ ตอนนี้คำณวนออกมาประมาณ สีหมื่นกว่าบาท น่ะแล้วค่อยหาทางใช้คืน แบบนี้ไม่เรียกว่า เนรคุณนะ ?

    ตอบลบ
  2. เย้ย ย ย ย ย ย ย
    "เหล้า" ผิดศีลหงะ

    ตอบลบ