
Rating: | ★★★★ |
Category: | Other |
"ไฟดังกล่าวล้วนอยู่ในจิตใจ
ของสัตว์โลกทั้งหลายนั่นเอง
"เป็นไฟที่ลุกโชน
เผาผลาญสัตว์โลกมายาวนาน
นับตั้งแต่อุบัติจนถึงปัจจุบัน
และอนาคตข้างหน้าอย่างมิรู้จบ"
...............................................................
ที่มา : "ภูเตศวร" กับ "ธรรมะ ๕ นาที"
จาก : www.dhamma5minutes.com
๒๙ กันยายน ๒๕๔๙
...............................................................
อันว่า...สรรพสัตว์ทั้งปวงคือมนุษย์ และไม่เว้นแม้แต่เทวดา คือว่ามีไฟ ๑๑ กองแผดเผาอยู่เสมอ ไฟที่เป็นเหตุให้ได้รับความทุกข์ทรมานดังกล่าว มีดังนี้
๑. ราคะ ความกำหนัด ความชอบใจในกามคุณ
๒. ไฟโทสะ คือ ความโกรธ มีความไม่พอใจเป็นลักษณะสำคัญ
๓. ไฟโมหะ ได้แก่ ความลุ่มหลงต่าง ๆ ในรูป รส กลิ่น เสียง ความลังเลฟุ้งซ่านไปตามอารมณ์
๔. ชาติ ไฟแห่งความเกิด หรือกำเนิดที่เป็นทุกข์
๕. ชรา คือ ความแก่ การก้าวสู่ความเสื่อมของร่างกายที่เป็นทุกข์
๖. มรณะ คือ ไฟร้อนที่เกิดจากความตาย ความพลัดพรากอันเป็นทุกข์
๗. โสกะ คือ ไฟแห่งความเศร้าโศก
๘. ปริวะ คือ ไฟบ่นเพ้อร่ำไรรำพัน
๙. ทุกขัง คือ ไฟที่มาจากความทุกข์ยากลำบาก ทั้งกายและจิตใจ
๑๐. โทมนัส คือ ไฟที่มาจากความเสียใจ
๑๑. อุปายโส คือ ไฟที่มาจากความคับแค้นใจ
ครับ ไฟทั้งปวงที่กล่าวมา ท่านถือว่าเป็นไฟที่ลุกโชนเผาผลาญสัตว์โลกมายาวนาน นับตั้งแต่อุบัติจนถึงปัจจุบัน และอนาคตข้างหน้าอย่างมิรู้จบ
ไฟดังกล่าวอยู่ที่ใด ?
ไฟดังกล่าวล้วนอยู่ในจิตใจของสัตว์โลกทั้งหลายนั่นเอง เพราะอุปาทานและอวิชชา คือความไม่รู้ (จริง) ตามสภาวะแห่งธรรมคือธรรมชาติ ทำให้สัตว์โลก ‘ยึด’ และ ‘ติด’ ใน ‘ตัวกู-ของกู’ เช่น ทรัพย์สมบัติของกู สามีของกู ร่างกายของกู ฯลฯ
เมื่อเกิดภาวะขัดแย้ง ปรากฏว่าสิ่งที่ตนยึดมั่นหมายมั่น มิได้เป็นอย่างที่คิด สมบัติสูญหาย สามีถูกเมียน้อยนำไปครอบครอง (ชั่วคราว) ก็เกิดไฟ โทสะ โสกะ ปริเวทะ โทมนัส อุปายโส แผดเผากลายเป็นทุกข์ ทั้ง ๆ ที่ความจริง สิ่งเหล่านั้นแม้ไม่มีใครยื้อแย่งไป ‘มรณะ’ ก็พลัดพรากจากเราไปในวันหนึ่งข้างหน้า
การปฏิบัติธรรม หมายถึง การรู้เท่าทันธรรมชาติแท้จริง ด้วยการสร้างสติ เพื่อปัญญา ‘รู้’ จริง จึงสามารถปลดทุกข์ละวางทุกข์ได้ คือมรรคและผลในพุทธศาสนา
รู้ว่าขณะนี้อะไรที่กำลังเป็น ไฟ แผดเผาหัวใจตนอยู่
รู้แล้วกำจัดเสียด้วย ธรรมะ
คือการเข้าถึงสมาธิและสติ
เพื่อความว่างจากการปรุงแต่ง
จากไฟทั้ง ๑๑ กองดังกล่าว