
น่ารักมาก ๆ
หากเป็นเช่นนี้ได้จริง...คนไทยคงมีความสุข
Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
"อย่าให้พวกเผาเมืองยึดประเทศไทย"
บันทึกจากแฟนเพจในเฟซบุ๊กของคุณกนก รัตน์วงศ์สกุล
ที่ถูกลบออกไปแล้ว
นำมาบันทึกเก็บไว้ให้อ่านกันค่ะ
บันทึกชิ้นดังกล่าวของนายกนก ได้ถูกเว็บไซต์ต่างๆ หยิบยกไปนำเสนอต่อเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเว็บไซต์ในเครือข่ายของคนเสื้อแดง
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (13 มิ.ย.) เมื่อผู้สื่อข่าวกลับไปตรวจสอบบันทึกในหน้าแฟนเพจของเฟซบุ๊กนายกนก กลับพบว่าถูกลบออกไปแล้ว
Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
ข้อเสนอผ่าทางตัน
พันธมิตร-การเมืองใหม่
ด้วย ๑ ธง ๒ ทาง....
โดย ธงไท เทอดอิศรา
เมื่อ 23 เมษายน 2011 เวลา 9:59 น.
มุมหนึ่ง ใจกลางมหานคร....
ในวันคืนที่อากาศร้อนน้อยกว่าภายในใจของผู้คน...๒๒ เมษายน ๒๕๕๔
ถึง สุริยะใส และเพื่อนมิตร แห่งพรรคการเมืองใหม่
ต้องเริ่มต้นจากความเชื่อ
อย่างบริสุทธ์ใจในเพื่อนมิตร
“ หากคุณตัวสั่น เมื่อเผชิญหน้ากับ ความอยุติธรรม...เรา คือเพื่อนกัน” ( เช กูวารา ; นักปฏิวัติ และเพื่อนของนักปฏิวัติ) คุณลองเงยหน้าขึ้นช้าๆและมองไปรอบตัว เพ่งพินิจ คิดช้าๆ ถามตัวเองว่า คนเหล่านี้ มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ? เขามาทำอะไร ? มองลึกลงไปในก้นบึ้งหัวใจ..ลึกลงไปว่างานประจำที่เขาทำอยู่เป็นนิจ ...ลึกลงไปจนถึงความคิด และจิตใจ...ไม่ว่าเขาจะเป็นพนักงานสำนักงาน เธอจะเป็นเลขาฯ แม่ค้าขายกล้วยปิ้งข้างถนนที่ประชาชนมาชุมนุม เป็นนักดนตรี แม่ยกหน้าเวที การ์ด หรือแม้แต่แกนนำ ไม่ว่ารุ่นไหนก็ตาม...
มองให้เห็นเพื่อน ให้รู้สึกว่าเค้าเป็นมิตร ให้เชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจในสิ่งที่เขาคิด เขาเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นความเห็นที่ต่างจากคุณแค่ไหนก็ตาม...
ต้องชื่นชมความขัดแย้งแตกต่าง
อย่างสร้างสรรค์
ไม่ว่าศาสตร์แห่งโลกตะวันตกนับแต่ปรัชญาวัตถุนิยมวิภาษวิธี ที่รุ่งโรจน์มากว่า ศตวรรษ กึ่ง จนถึงทฤษฏีสัมพัทธภาพที่มีพลานุภาพเปลี่ยนโลกได้ ล้วนยอมรับว่า สรรพสิ่งล้วนดำรงอยู่ได้ทั้งยังมีพลวัฒน์จากความขัดแย้ง และ เอกภาพของด้านตรงข้ามความขัดแย้งนั้นๆ ....สายลมพัดใบไม้ไหว ปลาเป็นว่ายทวนน้ำเสมอ....ไม่มีระบอบการเมืองใดจะสร้างความสุขแก่ผู้คนได้ในแบบเบ้าหลอมเดียว...
พรรคการเมืองใดที่อยู่ได้ เติบโตได้ ในท่ามกลางความแตกต่างทางความคิด มีทักษะในการจัดการกับความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ มีขีดความสามารถในการบริหารความแตกต่างหลากหลายอันงดงามเพราะสะท้อนจิตวิญญาณอันเป็นประชาธิปไตยภายในพรรค พรรคการเมืองนั้นคือความหวังในการเป็นตัวแทนผู้เสนอตนในการนำพาแก้ปัญหาของบ้านเมืองที่ล้วนมีปมสลับซับซ้อน
พรรคการเมืองใดไม่สามารถแสดงวุฒิภาวะทางอารมณ์ ข่มจิตด้านมืด ขจัดโมหะ โทสะ และโลภะ เห็นเพื่อนมิตรเป็นศัตรู มิอาจเรียนรู้จากความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ไม่อาจสลายความขัดแย้งอันเกิดแต่ความแตกต่างทางความคิดในหมู่มิตรสหาย ไม่รู้จักท่าทีถนอมรัก ยอ่มมิอาจปักใจให้เป็นกองหน้าทางการเมืองภาคประชาชนได้แม้เพียงนาทีเดียว
ข้อเสนอในวันที่ ๒๔ เมษายนนี้...
“ ๑ ธง ๒ ทาง ” ....
พรรคการเมืองใหม่ ถือได้ว่า เป็นผลิตผลจากการต่อสู้ของขบวนการภาคประชาชน นั่นหมายถึงไม่มีเหตุผลใด ที่ลูกจะทำร้ายแม่ หรือ แม่จะเข่นฆ่าลูก ให้ตายตกไปตามกัน เพียงแค่มีความเห็นในประเด็นสาธารณะที่แตกต่างกัน
เมื่อ ขบวนพันธมิตรฯ คิดเรื่องบ้านเมืองเป็นเรื่องใหญ่ ปักใจชู “ ธงปฏิรูป” กวาดล้าง สภา ๕๐๐ และ มุ่งเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่ แก้ปัญหาบ้านเมืองด้วยการคลี่ปมแรกที่มัดแน่นนี้ให้ได้ด้วยหัวใจพิสุทธิ์
แล้วใย พรรคการเมืองใหม่ ที่คิดเรื่องบ้านเมืองเป็นใหญ่ เช่นกัน เห็นปัญหา ประเด็นเดียวกัน จะหันมาชูธงผืนเดียวกัน ชูคำขวัญ “ปฏิรูปการเมืองทั้งระบบ” อย่างถึงรากถึงโคน โค่นการเมืองเก่า...เช่นนี้ เป็นนโยบายลูกโดด สละทิ้งข้อเสนอนโยบายอื่นใดทั้งสิ้น ชูธงผืนเดียวกับแม่ให้สูงเด่น เป็นเอกภาพ เป็นหนึ่งเดียว หายใจจังหวะเดียวกันในสนามรบทางการเมืองเบื้องหน้า....
เป็นหนึ่งเดียว เป็นเอกภาพ มีพลัง สร้างสรรค์ งดงาม ...ตามที่ทุกคนมุ่งหวัง....
เมื่อเห็นธงผืนเดียวกัน ปักใว้ที่ปลายทาง...จะไปถึงได้อย่างไร ? คนม้งถนัดเดินตามสันภู กะเหรี่ยงชอบเดินตามร่องห้วยหุบภู...ใครถูกผิด ? ถึงที่หมายได้เช่นกัน ถนัดคนละอย่าง เชี่ยวชาญคนละแบบ บทบาทคนละด้าน...ใยต้องมาข่มขืนใจกันให้ไปในทางเดียวกัน ทั้งที่ไม่มีความจำเป็น..
มีสองทางเลือก ดีเสียอีก กับพวกผม เพื่อนมิตรไง..ภาคี ความร่วมมือ แนวร่วม พันธมิตร ของ พันธมิตร ไง...คนสิบล้านคนที่เป็นกองเชียร์ไง...ไม่ใช่ พันธมิตรฯ ไม่ใช่พรรคการเมืองใหม่...เขาอยากไปด้วยได้ไหม ? เขาจะได้เลือกเดิน ตามจริตของเขา เขาอยากโหวตโน ก็ทำได้...เขาเสียดายสิทธิของเขา เราก็มีทางเลือกให้เขา มีพรรคดี นักการเมืองดี ให้เป็นตัวเลือก...ได้ทั้งสองทาง ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง....
แต่ถ้าทั้ง พธม. และ กมม. เอาแต่จะทะเลาะกัน เอาชนะคะคานกัน กูเก่ง กูแน่ กูถูกหมด มึงต้องเอาตามกู เพียงแค่นั้น....จะต่างกับพรรคการเมือง ที่มีอยู่นี้อย่างไร ?
ท้ายที่สุด ทั้ง พธม. และ กมม. ก็จะถูกสังคมทอดทิ้ง ไม่เหลียวแล ต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว ?
Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
Mon, 2011-04-04 00:53