วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553
ขวัญชัยจะบุก NBT......."อยากไปสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีเหลือเกิน อยากเอาตัว ผอ. สถานีมาดูว่าเป็นคนอย่างไร ถึงได้ปล่อยให้คนอื่นมาด่าคนเสื้อแดงอย่างนี้ วันที่ ๒๙ เม.ย. จะขอหารือกับแกนนำ นปช. ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าไปแล้วต้องไปให้ถึงข้างใน ให้มันรู้กันไปเลย เป็นไงเป็นกัน ตายเป็นตาย ถ้านายอภิสิทธิ์จะแลกกับประชาชนก็ไม่มีปัญหา" นายขวัญชัย ไพรพนา กล่าว....... ที่มา : http://www.thaipost.net/news/290410/21483
พลีชีพสังเวยแดง


เจ้าหน้าที่ทหารช่วยกันลำเลียงศพพลทหาร
ที่ถูกอาวุธยิงเข้าที่ศรีษะเสียชีวิต
ขณะเข้าสลายการปิดถนนของกลุ่มเสื้อแดง
ที่บริเวณอนุสรณสถานแห่งชาติ
ถนนวิภาวดีรังสิตขาออก
เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๓
ที่มา : http://www.thaipost.net/

"อากง" เยาวราชรักชาติ


อากง ย่านเยาวราช
ออกมารณรงค์ร่วมกับกลุ่มคนเสื้อหลากสี
ที่วงเวียนโอเดี้ยน
เรียกร้องให้คนเสื้อแดงเลิกชุมนุม
และไม่ให้รัฐบาลยุบสภา
ภาพจาก......http://www.thaipost.net/

ป้ายกำกับ:
ควายแดง,
ทักษิณ,
ไพร่แดง,
ยามเฝ้าแผ่นดิน,
เยาวราช,
เสื้อหลากสี,
อากง
ศอฉ. เตรียมออกหมายเรียก "บิ๊กจิ๋ว" เข้าข่ายล้มสถาบัน
Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
ศอฉ. เตรียมออกหมายเรียกบิ๊กจิ๋ว
เข้าข่ายล้มสถาบัน

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) เปิดเผยว่า ศอฉ.เตรียมจะออกหมายเรียก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานพรรคเพื่อไทย(พท.) ให้มารายงานตัว เพราะถือว่าเป็นบุคคลที่ ศอฉ.พิจารณาแล้วว่ามีความเชื่อมโยงกับขบวนการล้มล้างสถาบัน ซึ่งหากออกหมายเรียก 2 ครั้งแล้วยังไม่มา ก็จะออกหมายจับต่อไป
"พล.อ.ชวลิต ผมเห็นว่าเป็นคนหนึ่งที่เข้าข่าย จากเอกสารที่ได้รวบรวมกันมามีการกระทำที่แสดงถึงเจตนาที่เราสงสัยได้ว่า พล.อ.ชวลิต เชื่อมโยงกัน...ผมจะเชิญท่านมาสอบ 2 ครั้ง ถ้าท่านไม่มาก็จะออกหมายจับ" นายสุเทพ กล่าว
สำหรับแผนผังแสดงความเชื่อมโยงขบวนการล้มสถาบันนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นการวิเคราะห์ของ ศอฉ. และจะมีการจัดตั้งเจ้าหน้าที่เป็นทีมพิเศษเพื่อติดตามบุคคลเหล่านี้ที่อยู่ในแผนผังมาดำเนินคดีเป็นรายบุคคล
สำหรับความเห็นของ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการกับขบวนการล้มล้างสถาบัน โดยระบุว่าหากรัฐบาลไม่ทำหน้าที่ ก็จะขอไปร่วมกับประชาชนเพื่อปกป้องสถาบันนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวเหมือนกับที่หลายคนเคยพูดในการแสดงความรักชาติและต้องการปกป้องสถาบัน แต่ยอมรับว่าการแสดงความคิดเห็นของหลายบุคคล เป็นการเพิ่มความกดดันในการทำหน้าที่ของรัฐบาล ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีความกังวลใจและยังเดินหน้าทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาบ้านเมืองต่อไป
ส่วนการขอคืนพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ขอขีดเส้นว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนที่จะเปิดภาคเรียนตามปกติ แต่ยืนยันว่าขณะนี้ยังมีความพยายามและเดินหน้าในการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเจ้าหน้าที่ก็พร้อมที่จะปฏิบัติการ
"อย่าไปขีดเส้น ผมจะพยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด...กรณีสี่แยกราชประสงค์ต้องใช้เวลา ต้องดำเนินการตามขั้นตอน ตั้งแต่สกัดกั้น และจะดูจังหวะเวลาว่าเวลาไหนที่จะสามารถปฏิบัติการ"
นายสุเทพ ยังชี้แจงถึงกรณีที่ นายเชน เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นน้องชาย ที่ได้พูดในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ว่า ชาวสุราษฎร์ฯ ฝากบอกให้นายกรัฐมนตรีกลับเข้าไปทำงานในทำเนียบรัฐบาล และจัดการกับกลุ่มเสื้อแดงให้เด็ดขาด หากทำไม่ได้ก็ควรจะให้คนอื่นเข้ามาทำหน้าที่แทนนั้น เรื่องนี้อาจจะเป็นความเข้าใจผิดกันมากกว่า ซึ่งตนในฐานะที่เป็น ส.ส.มา 30 ปี มีความเข้าใจคนสุราษฎร์เป็นอย่างดี และยังยืนยันว่าพร้อมให้การสนับสนุนนายกรัฐมนตรีได้ทำหน้าที่ต่อไป

วัน - เวลา 2010-04-28 11:27:20
วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553
ใหญ่คับฟ้า!..."ไพร่แดง" รุมตีชาวบ้านเจ็บ ๒ - ตร.หมดปัญญาตามจับ
Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
ใหญ่คับฟ้า! "ไพร่แดง"รุมตีชาวบ้านเจ็บ2-ตร.หมดปัญญาตามจับ |
![]() |
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม | 25 เมษายน 2553 01:22 น. |
ใหญ่คับฟ้า"ไพร่แดง"!รุมอัดชาวบ้านเจ็บ 2 ราย เหยื่อกุ๊ยเผยโดนหมาหมู่ทั้งพระทั้งการ์ดตียับ โร่ขึ้นโรงพักลุมพินีแจ้งจับแต่ตำรวจทำได้เพียงลงบันทึกว่าชายไทยไม่ทราบชื่อเป็นผู้ก่อเหตุ
นายจักรกฤษณ์ มงคลรัตนสิทธิ์
เข้าแจ้งความ สน.ลุมพินี
หลังถูกการ์ดเสื้อแดงรุมทำร้าย
นายจักรกฤษณ์ โชว์บาดแผลที่ถูกการ์ดเสื้อแดงทำร้าย
วานนี้ ( 24 เม.ย.)เมื่อเวลา 22.00 น.นายจักรกฤษณ์ มงคลรัตนสิทธิ์ อายุ 32 ปี พนักงานขายเครื่องสำอาง ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.มนต์ชัย นำสุข พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ลุมพินี หลังถูกการ์ด เสื้อแดงทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ
นายจักรกฤษณ์ ให้การว่า เมื่อเวลา 18.30 น.ขณะเดินออกจากที่ทำงานไปขึ้นสะพานลอยรถไฟฟ้าบริเวณแยกชิดลม พบชายฉกรรจ์ 5 คน บอกว่าเป็นการ์ดกลุ่มเสื้อแดงขอตรวจค้นกระเป๋า แต่เมื่อค้นแล้วไม่เจออะไร ตนจึงรีบวิ่งขึ้นไปบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีชิดลมเพื่อรีบกลับ เพราะทราบว่าสถานีนี้จะปิดในเวลา 19.00น. เกรงว่าจะไม่ทันขบวนสุดท้าย
"ระหว่างนั้นกลุ่มการ์ด นปช.กลับวิ่งตามขึ้นมาบนสถานี แล้วชายคนหนึ่งก็ล็อคจากด้านหลัง และอีก 4 คนที่เหลือก็รุมชกต่อยทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บมีรอยฟกช้ำที่ลำคอและแผ่นหลัง" นายจักรกฤษณ์ กล่าว
นายจักรกฤษณ์ ให้การอีกว่าจากนั้นก็ยังถูกลากตัวไปสอบสวนที่เต็นท์ด้านหลังเวทีใหญ่แยกราชประสงค์สักพัก เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรกลุ่มคนเหล่านี้จึงยอมปล่อยตัวออกมา ผมจึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายจักรกฤษณ์ ให้การว่า เมื่อเวลา 18.30 น.ขณะเดินออกจากที่ทำงานไปขึ้นสะพานลอยรถไฟฟ้าบริเวณแยกชิดลม พบชายฉกรรจ์ 5 คน บอกว่าเป็นการ์ดกลุ่มเสื้อแดงขอตรวจค้นกระเป๋า แต่เมื่อค้นแล้วไม่เจออะไร ตนจึงรีบวิ่งขึ้นไปบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีชิดลมเพื่อรีบกลับ เพราะทราบว่าสถานีนี้จะปิดในเวลา 19.00น. เกรงว่าจะไม่ทันขบวนสุดท้าย
"ระหว่างนั้นกลุ่มการ์ด นปช.กลับวิ่งตามขึ้นมาบนสถานี แล้วชายคนหนึ่งก็ล็อคจากด้านหลัง และอีก 4 คนที่เหลือก็รุมชกต่อยทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บมีรอยฟกช้ำที่ลำคอและแผ่นหลัง" นายจักรกฤษณ์ กล่าว
นายจักรกฤษณ์ ให้การอีกว่าจากนั้นก็ยังถูกลากตัวไปสอบสวนที่เต็นท์ด้านหลังเวทีใหญ่แยกราชประสงค์สักพัก เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรกลุ่มคนเหล่านี้จึงยอมปล่อยตัวออกมา ผมจึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายเดช ฮาดทักษ์วงศ์
เล่าเหตุการณ์ขณะการ์ดและพระเสื้อแดงใช้อาวุธทำร้าย
นายเดช โชว์บาดแผลที่ถูกทำร้าย
ต่อมา นายเดช ฮาดทักษ์วงศ์ อายุ 36 ปี รปภ.ของ บจก.ไทยเซ็นเตอร์การ์ด ย่านบางกะปิ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.มนต์ชัย เพื่อแจ้งความว่า ถูกกลุ่มการ์ดเสื้อแดงและพระสงฆ์ รุมทำร้ายร่างกายบริเวณใกล้แยกราชประสงค์
โดยนายเดช กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุชวนเพื่อนขับรถ จยย.มาจากที่ทำงานเพื่อจะมาหารายได้พิเศษด้วยการวิ่งรถจักรยานยนต์รับ-ส่งผู้ชุมนุมเสื้อแดง บริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อมาถึงก็มีผู้แนะนำให้พวกตนขับรถเข้าไปลงทะเบียนและรับค่าน้ำมันกับเจ้าหน้าที่เสื้อแดงด้านในพื้นที่ชุมนุม แต่ขณะที่กำลังจะขับรถผ่านด่าน การ์ดเสื้อแดงบริเวณแยกราชประสงค์เข้าไปนั้น ก็ถูกบรรดาการ์ดกันไว้ จากนั้นหัวหน้าการ์ดที่ชื่อ "จ่ายักษ์" ก็ขี่รถ จยย.ซ้อนแฟนสาวออกมาพอดี และแสดงความไม่พอใจที่ รถ จยย.พวกตนจอดขวางทางออก
"จากนั้นจ่ายักษ์ได้เอากระบองออกมาตีผมและเพื่อน ก่อนที่บรรดาการ์ด และพระสงฆ์ ที่อยู่ในบริเวณนั้นกว่า 30 คน ก็เข้ามารุมทำร้ายด้วยกระบองและไม้คมแฝกจนฟกช้ำไปทั้งตัว หลังเกิดเหตุผมได้ไปพบแพทย์ที่ รพ.จุฬาฯ ก่อนเดินทางมาแจ้งความส่วนเพื่อนอีกคนที่ร่วมชะตากรรมขณะนี้ไม่รู้ว่าถูกการ์ดพาตัวไปที่ไหนแล้ว" เหยื่อการ์ดไพร่แดง กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวว่า หลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงมาปักหลักรวมตัวกันชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ ได้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ว่า ถูกการ์ดเสื้อแดงทำร้ายร่างกายรวมทั้งสิ้น 3 ราย ส่วนใหญ่อาการจะแค่บอบช้ำไม่มีใครถึงขั้นสาหัส ซึ่งผู้เสียหายทุกรายไม่สามารถจดจำใบหน้าคนร้ายได้ ตำรวจจึงลงบันทึกรับคดีว่าเป็นชายไทยไม่ทราบชื่อเป็นผู้ก่อเหตุ โดยหลังจากนี้ถ้าหากมีผู้เสียหายรายใดจดจำใบหน้าคนร้ายได้อย่างชัดเจน ก็จะพาตัวไปสเก็ตซ์ภาพเพื่อออกหมายจับและติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2553
สภากาชาดไทยขาดเลือดสำรอง วอนคนบริจาค
Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
สภากาชาดไทยขาดเลือดสำรอง
วอนคนบริจาค
สภากาชาดไทยขาดเลือดสำรอง วอนประชาชนบริจาค เตรียมพร้อมให้ผู้บาดเจ็บเหตุการณ์ชุมนุมและกรณีฉุกเฉิน
พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เปิดเผยว่า สถานการณ์การรับบริจาคโลหิตในช่วงสัปดาห์นี้ มีผู้เดินทางมาบริจาคโลหิตที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถนนอังรีดูนังต์ จำนวนลดลงมาก เนื่องจากอยู่ใกล้กับบริเวณที่มีการชุมนุม ส่งผลให้ยอดรับบริจาคโลหิตโดยรวมไม่ถึงวันละ 1,500 ยูนิต เกรงว่าหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป จะทำให้โลหิตสำรองในคลังเลือดไม่เพียงพอสำหรับผู้ป่วย อีกทั้งจะต้องเตรียมความพร้อมหากเกิดกรณีฉุกเฉินต้องการโลหิตอย่างเร่งด่วนจำนวนมากอีกด้วย
จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันบริจาคโลหิตได้ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถ.อังรีดูนังต์ วันนี้ เปิดเวลา 08.00-16.30 น.
หรือหากไม่สะดวกเดินทางมาบริจาคโลหิตได้ สามารถไปบริจาคได้ที่ หน่วยเคลื่อนที่รับบริจาคโลหิต ได้แก่ เดอะมอลล์ บางแค เปิดเวลา 12.00-18.00 น. บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด ถ.รัชดาภิเษก เปิดเวลา 09.00-15.00 น. บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ บริเวณลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 เปิดเวลา 09.00-15.00 น. บริษัทในกลุ่มสมบูรณ์ ถ.บางนา-ตราด กม.15 เปิดเวลา 09.30-15.00 น. บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด อาคารเมืองทอง-ภัทรคอมเพล็กซ์ ถ.รัชดาภิเษก เปิดเวลา 09.00-15.00 น. และ บริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด ซอยวัชรพล ถ.รามอินทรา เปิดเวลา 09.00-15.00 น.
ผู้บริจาคโลหิตสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ โทร. 0 2256 4300, 0 2263 9600-99 ต่อ 1101, 1760
23 เมษายน 2553 13:43:07
วันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2553
แดงขอนแก่นบุกยึดรถไฟขนทหาร ๒๓๐ นาย อ้างแกนนำสั่ง
Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
แดงขอนแก่น
บุกยึดรถไฟขนทหาร230นาย
อ้างแกนนำสั่ง
21 เมษา. 2553 17:38 น.
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 เม.ย. 2553 เกิดเหตุคนเสื้อแดงขอนแก่นรวมตัวกันที่สถานีรถไฟขอนแก่น โดยอ้างว่าจะมีการนำกำลังทหารจากค่ายสีหราชเดโชชัยกรม ทหารราบที่ 8 เข้ากทม.เพื่อเข้าไปสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง และมีกลุ่มคนเสื้อแดง นำโดยนายไชยา สิมา และนางซาบีน่า ซาร์ นำคนเสื้อแดงกว่า 1,000 คน เข้าปิดล้อมสถานีรถไฟ จ.ขอนแก่น เพื่อขวางไม่ให้ขบวนรถไฟที่บรรทุกรถยีเอ็มซี และรถอื่นๆ รวม 21 คันพร้อมเจ้าหน้าที่ทหารที่นั่งมาเต็มขบวนรถไฟ ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังสถานีกรุงเทพฯ จนทำให้ขบวนรถไฟดังกล่าวต้องหยุด โดยกลุ่มคนเสื้อแดงได้โห่ไล่เจ้าหน้าที่ทหารให้ลงจากขบวนรถไฟ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายทหารเป็นอย่างมาก
เมื่อเหตุการณ์ที่มีคนเสื้อแดงกรูเข้าไปยังขบวนรถไฟ ทำให้ผู้บังคับหน่วยทหาร ต้องจำใจเรียกทหารลงจากขบวนรถ เพื่อมาพูดคุยกันกับกลุ่มคนเสื้อแดง โดยผู้บังคับหน่วยทหาร ได้กล่าวชี้แจงว่า ทหารจะเดินทางไปโดยทางรถไฟครั้งนี้เป็นการสับเปลี่ยนกำลังพลที่จังหวัดปัตตานี เพื่อให้ทหารจากจังหวัดสกลนครกลับ ไม่ใช่เป็นการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับการชุมนุมที่กรุงเทพฯแต่อย่างใด แต่กลุ่มผู้ชุมนุมและแกนนำกลับไม่ยอมให้ขบวนรถไฟเคลื่อนไป และได้ยึดขบวนรถไฟบรรทุกรถยีเอ็มซีทหาร 21 คัน พร้อมกับกักตัวทหาร 80 นายเอาไว้เพื่อไม่ให้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ จึงทำให้ นายพยัต ชาญประเสริฐ รอง ผจว.ขอนแก่น และ พล.ต.ต.พัฒนี ศิริวัฒนี ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งมาดูแลความปลอดภัยพร้อมกับขอเจรจากับกลุ่มคนเสื้อแดงแต่ก็ไม่เป็นผล
นางซาบีน่า ซาห์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่น กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งรายละเอียดให้กับแกนนำคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯทราบแล้ว และทางแกนนำก็ได้สั่งมายังคนเสื้อแดงขอนแก่น ว่าหากมีการปล่อยขบวนรถของทหารไปในช่วงนี้ ทหารอาจจะเข้าไปสมทบการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งอาจจะทำให้คนเสื้อแดงบาดเจ็บล้มตายลงอีกจำนวนมาก ดังนั้นจึงขอหยุดขบวนรถทหารเอาไว้ 5 วันถึงจะปล่อยให้ทหารเคลื่อนพลไปได้ และหลังจากกลุ่มเสื้อแดงขอนแก่นประกาศกักขบวนรถทหารพร้อมกำลังพลเอาไว้ 5 วัน กลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่นก็ได้นำเต็นท์มากางขวางทางขบวนรถไฟทหารเอาไว้ พร้อมกับเปิดเวทีปราศรัยย่อยภายในพื้นที่สถานีรถไฟ เพื่อรอดูท่าทีของทหารว่าจะดำเนินการอย่างไรโดยมีคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมประมาณ 3 พันคน
ที่มา :
จตุพรปูด จนท. จ่อสลายม็อบ ขณะแดงขอนแก่นบุกยึดรถไฟขนทหารไปใต้
Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
จตุพรปูด จนท. จ่อสลายม็อบ
ขณะแดงขอนแก่น
บุกยึดรถไฟขนทหารไปใต้

นายจตุพร พรหมพันธุ์แกนนำ นปช. กล่าวบนเวทีแยกราชประสงค์ ว่า ขณะนี้ทราบว่า ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ให้พนักงาน และเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในโรงแรม และห้างสรรพสินค้า อาทิ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ สยามพารากอน ออกจากพื้นที่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เริ่มส่งสัญญาณ เพื่อสั่งฆ่าประชาชนเหมือนเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา รวมถึง หากมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์ ก็จะเริ่มปฏิการทันที
ทั้งนี้ ขอให้ผู้ชุมนุมรอบนอก อาทิ มอเตอร์ไซค์เคลื่อนที่เร็ว ตรวจดูรอบนอกพื้นที่ชุมนุมด้วย นอกจากนี้ ยังทราบว่า กรมทหารราบที่ราบ 11 รักษาพระองค์ มีการสั่งการให้ทหารชั้นประทวน 2 นาย เหลาไม้ปลายแหลม ไว้เพื่อสร้างสถานการณ์ เพื่อโยนความผิดให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเป็นความคิดของ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. ที่มองว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเอามาเป็นอาวุธ ขณะที่ทหารมี เอ็ม16 แล้วจะมากลัวไม้ไผ่ มีแบล็กฮอว์ก แล้วกลัวบั้งไฟ
"ขอเตือน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ว่า อย่าเชื่อตามที่มีคนสั่งปราบปรามประชาชน โดยที่คนสั่งการท่านผู้หญิง จจ.ซึ่งก็คือ ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ซึ่งเป็นการแอบอ้างว่า เบื้องบนมาสั่งการ โดยเหมือนคราวที่ท่านผู้หญิงท่านดังกล่าวกล่าวทูลเท็จ กรณีน้องโบว์ ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2549 และก็ไม่มีกฏหมายจัดการผู้ที่สั่งฆ่าประชาชน"
นอกจากนี้นายจตุพร ยังกล่าวว่า คนเสื้อแดงขอนแก่นเข้ายึดรถไฟ ซึ่งอ้างว่ามีทหารอยู่บนขบวนที่เตรียมเข้ากรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า เสื้อแดงขอนแก่นกว่า1 พันคนได้เดินทางไปปิดเส้นทางรถไฟโดยใช้รถบรรทุกและรถกระบะไปปิดเส้นทางรถไปเพื่อไม่ให้ทหาร ประมาณ 50 นาย ที่โดยสารมากับขบวนสามารถผ่านไปได้ ล่าสุดรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้เดินทางไปเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงแล้ว โดยระบุว่าทหารทั้ง 50 นายดังกล่าวจะเดินทางลง 3 จังหวัดชายแดเนภาคใต้เพื่อผลัดเปลี่ยนกำลังเท่านั้น

วัน - เวลา 2010-04-21 16:56:13
“แกนนำเสื้อแดง” ข่มขู่ “อี้ แทนคุณ” ให้ระวังมือที่สาม แถมส่งคนคุกคามลูกเมีย
Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
“แกนนำเสื้อแดง” ข่มขู่ “อี้ แทนคุณ” ให้ระวังมือที่สาม แถมส่งคนคุกคามลูกเมีย |
![]() |
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 21 เมษายน 2553 09:04 น. |
“แกนนำเสื้อแดง” ที่อยากให้กรุงเทพเป็นทะเลเพลิง ข่มขู่ “อี้ แทนคุณ” ให้ระวังมือที่สามก่อกวน ล่าสุดส่งคนมาดูลูกและเมียที่โรงเรียน เจ้าตัววอนอย่าเข่นฆ่ากันเลย ยืนยันทำหน้าที่ต่อ เผยเมียสุดใจเด็ดสั่งให้ลุยเต็มที่ไม่ต้องเป็นห่วง พร้อมขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ถือเป็นของขวัญที่วิเศษที่สุดในชีวิต เป็นเรื่องขึ้นมาจนได้สำหรับ “อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ” หลังจากให้สัมภาษณ์กับ ASTV บันเทิงผู้จัดการออนไลน์เปิดใจถึงการทำหน้าที่พิธีกรรายการ “ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า” จนได้รับคำชื่นชมจากคนรักชาติไปท่วมท้น ในขณะเดียวกันก็สร้างความไม่พอใจให้กับม็อบเสื้อแดง เนื่องจากบทสัมภาษณ์ดังกล่าวมีการวิพากษ์วิจารณ์ “นช.ทักษิณ ชินวัตร” ตัวพ่อของม็อบเสื้อแดงอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงเปิดโปงกระบวนการล้มเจ้า ล่าสุดก็มีข่าวว่า “แกนนำม็อบเสื้อแดง” ที่อยากจะทำให้ “กรุงเทพเป็นทะเลเพลิง” ได้ฝากบุคคลใกล้ชิดอี้ แทนคุณให้มาเตือนว่า “ให้ระวังบุคคลที่สามมาก่อกวน” “มีคนที่อยู่ในม็อบเสื้อแดงแล้วสนิทกับผมโทรมาเล่าให้ฟังว่าคุณ......(ขอสงวนชื่อ) เขาฝากเตือนมา แต่ก็อาจมองในแง่มุมว่าเขาหวังดีก็ได้ เขาบอกว่าให้ระวังจะมีมือที่สามมากวน เรื่องนี้ก็เป็นห่วงอยู่ถ้าเป็นตัวผมคนเดียวยังไม่เท่าไหร่ แต่กลัวเดือดร้อนถึงครอบครัว ตอนนี้ก็พยายามโทรหาเขาบ่อยขึ้นและบอกให้ล็อคประตูบ้านให้แน่นหนามีอะไรก็โทรบอกกัน ที่ผ่านมามีทางผู้ใหญ่ถามว่าจะให้มาช่วยดูแลอะไรไหม ผมก็ขอให้เขาช่วยมาดูแลที่บ้านบ่อยๆ เพราะตอนนี้ลูกผมปิดเทอมแล้วเขาก็อยู่กันที่บ้าน” “แต่ว่าต่อจากนี้ต้องดูอีกทีว่าจะทำอย่างไร เพราะทุกอย่างมันเริ่มน่ากลัวขึ้น ที่ผ่านมามีสัญญาณแล้วเริ่มมีคนเสื้อแดงมาเดินดูที่โรงเรียนลูกและที่ทำงานผม เดินมาชี้โน่นชี้นี่ประมาณสองสามวันติดต่อกันแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเขามีจุดประสงค์อะไรหรือเปล่า ทางด้านภรรยาและลูกๆ เขาก็เริ่มกลัว แต่เขาก็ยังสนับสนุนให้ผมทำต่อไม่เคยห้ามแถมยังบอกว่า ลุยให้เต็มที่เลยไม่ต้องห่วง ซึ่งถึงอย่างไรผมก็ต้องทำต่ออยู่แล้ว และพยายามบอกพวกเขาไม่ต้องกลัวนะทุกอย่างต้องจบและคลี่คลายไปได้ด้วยดี” “ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ก็มีกระทู้ในเว็บไซต์แห่งหนึ่งโพสต์ไว้ว่า เดี๋ยวจะไปล้อมบ้านและจับครอบครัวผมเป็นตัวประกัน ซึ่งถามว่าที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเป็นเพราะผมเปิดตัวกับสื่อมากขึ้นหรือเปล่า จริงๆ ผมก็เคลื่อนไหวมานานแล้ว นาทีนี้มันเหมือนว่า ถ้าเราไม่เคลียร์เต็มที่มันก็ไม่จบคนที่ยังไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจ เราไม่ต้องการให้ใครเจ็บแต่ไม่จบก็ให้เจ็บแล้วจบดีกว่าเจ็บไปเรื่อยๆ แบบนี้ไม่มีจบ แต่ถึงอย่างไรผมยังยืนยันว่าไม่ได้เกลียดอาฆาตหรือแค้นคนเสื้อแดง เพียงอยากให้คนที่ก่อปัญหากับความมั่นคงของประเทศชาติหรือผู้ก่อการร้ายถูกดำเนินการมากกว่า” “และผมว่าทุกคนต่างก็รักครอบครัวนะ ฉะนั้นคนที่คิดจะทำแบบนี้เขาก็มีครอบครัวลองคิดในมุมกลับเอาใจเขามาใส่ใจเรา เวลาที่ผมทำงานผมจะนึกถึงว่า ถ้าผมเป็นเสื้อแดงใครมาพูดอะไรที่ให้ร้ายโจมตีเราก็ไม่ชอบต้องระมัดระวังแยกแยะ ทางกลับกันเราไม่เคยขู่อาฆาตใครทั้งต่อหน้าและลับหลังอย่างเช่น ขอให้พวกนี้โดนยิงตายให้หมดไม่เคยคิดเลย รู้สึกไม่พอใจไม่สบายใจบ้าง แต่ไม่คิดที่จะต้องมาฆ่ากัน การที่ข่มขู่คุกคามเอาชีวิตครอบครัวเอาสิ่งที่เป็นที่รักที่สุดของคนอื่น มันเป็นการกระทำที่แย่ที่สุด” ถึงแม้จะถูกข่มขู่หรือทำร้ายครอบครัวจากกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ก็ยังมีประชาชนอีกจำนวนไม่น้อยที่พร้อมจะช่วยเหลือและพากันโพสต์ข้อความเป็นกำลังใจให้กับ “อี้ แทนคุณ” ซึ่งสร้างความดีใจและประทับใจเป็นพลังใจให้กับเจ้าตัวอยู่ไม่น้อย “ได้อ่านข่าวแล้วดีใจมาก ดีใจที่ทำงานแล้วมีคนเข้าใจและให้กำลังใจ ผมขอสัญญากับคนที่เขียนข้อความให้กำลังใจ ว่า ผมจะทำให้เขาไม่ผิดหวัง รู้สึกตื้นตันใจมากดีใจมากๆ ในชีวิตไม่เคยรู้สึกดีได้ขนาดนี้ แต่จริงๆ ผมอยากให้คนมองข้ามพ้นตัวผมไป และมองงานมองสิ่งที่ผมทำดีกว่าไม่ใช่ว่าอยากทำตัวเด่นกว่าใครมันไม่ใช่แบบนั้น ไม่ใช่การปูทางลงเล่นการเมือง มันเป็นเรื่องของบ้านเมืองที่จะต้องเสียสละ ทำเท่าที่ทำได้ขนาดป่วยยังไม่ได้พักเลย (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ดีขึ้นเยอะมากมันเป็นกำลังใจที่ดีมาก อ่านแล้วหายเหนื่อยขอขอบคุณทุกๆ คนที่ให้กำลังใจ” “เวลาไปไหนมาไหนคนก็มองและยิ้มให้กำลังใจ บางคนก็เขียนโน้ตเล็กๆ ว่า ฝากประเทศชาติบ้านเมืองด้วย บางคนก็โทรศัพท์มาร้องไห้ที่บ้าน โทรมาบอกว่าเห็นคนในตลาดที่เป็นเสื้อแดงเขาพูดจาพาดพิงสถาบันกันมาก แม่ผมเป็นคนรับพอผมกลับมาเขาก็เล่าให้ฟัง ซึ่งในครั้งแรกเขารู้สึกว่าสิ่งที่ผมทำมันเสี่ยง แต่ตอนนี้แม่เขาเริ่มสนใจมากขึ้น เราไม่อยากที่จะเอาประเด็นสถาบันมาเป็นเขตแบ่งแยกคนไทย เราต้องมีคำอธิบายว่ามันไม่เกี่ยวกัน ทุกกำลังใจเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผมมาก เหมือนของขวัญชิ้นที่พิเศษที่สุดในชีวิต” “มันทำให้เรารู้สึกว่าไม่โดดเดี่ยว บางวันนั่งจัดรายการนั่งคนเดียวก็รู้สึกว้าเหว่เหมือนกัน แต่วันนี้สิ่งที่เราทำทุกอย่างมีคนเห็นและมีคนเป็นกำลังใจให้มันทำให้รู้สึกดีมากๆ และพยายามที่จะประคับประคองให้มันข้ามพ้นปัญหาทุกอย่างไป แต่ทุกคนต้องช่วยกันไม่ให้สถานการณ์มันเลวร้ายไปมากกว่านี้ และไม่อยากที่จะให้ยึดติดที่ตัวบุคคลเอาเป็นว่ามาช่วยกันสร้างแนวคิดแบบนี้ต่อไปจะดีกว่า” “ตัวผมเองก็มีทั้งด้านดีและไม่ดี ไม่มีอะไรที่จะดีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ สถานการณ์แบบนี้เราไม่ช่วยกันไม่ได้ อย่างที่เขาบอกเอาไว้ว่าสถานการณ์สร้างวีระบุรุษ เราอาจจะไม่ถึงขนาดนั้น ถ้าวีระคือความกล้า ความกล้ามันจึงเกิดเมื่อถึงจุดที่คลี่คลายเราก็คงต้องปล่อยมันไปไม่เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากสถานการณ์นี้” “ผมว่าทุกคนอยากแสดงออกเพียงแต่จะเปิดเผยได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อย่างคนในวงการผู้ใหญ่ในวงการบางท่านก็เตือนว่า อย่าไปอะไรมากอย่าไปยุ่งการเมือง พอทำไปแล้วมันไม่คุ้มหรอกเดี๋ยวรัฐบาลเปลี่ยนเราก็จบ แต่ผมไม่เคยคิดแบบนั้น” “บางคนก็โทรมายกเลิกงานก็มี อย่างมีอยู่วันหนึ่งผมต้องไปบรรยายที่เชียงใหม่อาจารย์ที่เชียงใหม่ก็เป็นห่วงความปลอดภัยไม่การันตีว่าจะคุ้มครองความปลอดภัยได้ไหม ก็อยากที่จะเรียกร้องให้ทุกอย่างสงบเป็นไปตามประชาธิปไตยตามที่กลุ่มคนเสื้อแดงเรียกร้อง อย่าคุกคามจะด่าจะโจมตีก็ว่ากันไปเต็มที่ แต่ขออย่างเดียวอย่าถึงขั้นขู่เอาชีวิตต้องมาเข่นฆ่ากันเองขอให้ทุกคนแสดงความกล้าแม้จะเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี” “สิ่งที่อยากเตือนไม่อยากให้เกลียดกัน ไม่อยากให้เกลียดคนเสื้อแดง เพราะทุกวันนี้ผมก็มีรุ่นน้องมีเพื่อนที่เป็นเสื้อแดงก็พูดคุยกันเถียงกันบ้างก็ถือเป็นเรื่องปกตินั่นคือประชาธิปไตย แต่ไม่อยากให้มีการคุกคามเดี๋ยวจะไม่แตกต่างทุกวันนี้ก็พยายามทำใจให้อภัยแผ่เมตตาให้เขา อย่างเช่นในเว็บไซต์ก็ช่วยเข้าไปอธิบายให้คนที่ไม่เข้าใจอย่าด่ากัน ไม่อยากให้คนมาโจมตีที่ตัวบุคคลแทนที่จะฟังว่า เขาพูดว่าอะไรมันเป็นความจริงหรือเปล่า หรือพอเห็นเสื้อแดงปั๊บก็เกลียดชังทันทีผมว่ามันก็เกินไปเหมือนกัน” ถึงจะโดนข่มขู่แต่ “อี้ แทนคุณ” ก็ยังไม่ถอดใจจากการทำหน้าที่พิธีกรรายการ ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า “ตั้งแต่วินาทีแรกที่ตัดสินใจทำก็รู้ว่า จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างต่อจากนี้ แต่ไม่คิดว่ามันจะหนักขนาดนี้มีผลกระทบกับครอบครัวด้วย รู้สึกสงสารเขาถ้าหากจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาจริงๆ รวมทั้งตัวเราไม่พยายามที่จะเอาประเด็นตรงนี้มาเป็นประเด็นที่จะเกลียดชังกัน เพราะถ้าเป็นแบบนั้นมันยิ่งไปซ้ำเติมให้สถานการณ์แย่ลงอีก การทำงานเพื่อในหลวงผมว่า ทุกคนทำได้เสื้อแดงก็ต้องทำด้วยแสดงออกให้ชัดๆ ว่า เราไม่ได้นำประเด็นการปกป้องสถาบันมาเป็นประเด็นขัดแย้งต่อต้านสู้กัน ตอนนี้มันถึงจุดที่ต้องหยุดและถอยออกมาใช้กระบวนการที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ คลี่คลายสถานการณ์” “สุดท้ายผมต้องบอกว่า กราบขอบคุณจริงๆ ทุกคนเป็นกำลังใจที่ดีที่สุด เป็นเหมือนพลังชีวิตทุกข้อความที่ส่งให้มาผมรู้สึกว่า มันทำให้เรามีความหวังและตั้งสติได้ดีขึ้น หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยเคว้งคว้างมองไม่เห็นทางออก ก็เริ่มรู้สึกว่า ถ้าเรารวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยรู้รักสามัคคีกัน และก็นึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง คุณงามความดีทั้งหลายที่เราช่วยกันทำมันจะสามารถปกป้องตัวเอง อคติ มายาคติ ของคนที่หลงผิดอยู่ให้หันกลับมาและเข้าใจสามารถที่จะแก้ไขคลี่คลายสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้ในเร็วๆ นี้” ที่มา : |
ป้ายกำกับ:
ก้าวไปข้างหน้า,
แทนคุณ,
บูรณผานิต,
ประเทศไทย,
ยามเฝ้าแผ่นดิน,
อี้,
เอกชัย
“อี้ แทนคุณ” ผู้กล้าชนม็อบเสื้อแดง กับก้าวที่กล้าเสี่ยงเพื่อสถาบัน
Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
“อี้ แทนคุณ” ผู้กล้าชนม็อบเสื้อแดง กับก้าวที่กล้าเสี่ยงเพื่อสถาบัน |
![]() |
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 17 เมษายน 2553 16:24 น. |
ชื่อของ “อี้ เอกชัย บูรณผานิต" เริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อเกือบ 10 ปีก่อนในฐานะนักแสดงดาวรุ่ง ก่อนจะห่างหายไปจากวงการและโผล่มาอีกครั้งกับชื่อใหม่ “อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ” ในฐานะพิธีกรรายการของเวิร์คพอยท์หลายรายการ อาชีพพิธีกรของอี้กำลังก้าวหน้าไปด้วยดี ถึงขั้นมีการวางตัวจะให้เป็นตัวตายตัวแทนของ “ปัญญา นิรันดร์กุล” เจ้าพ่อเวิร์คพอยท์เลยด้วยซ้ำ
แต่เหตุการณ์ที่อี้นำ 84 องค์กรเครือข่ายต้านคอรัปชั่นไปยื่นถวายฎีกาไม่เอา “สมัคร สุนทรเวช” เป็นนายกเมื่อปี 2551 ก็ทำให้ชีวิตในการทำงานของอี้พลิกผันอีกครั้งตามสไตล์ดาราที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเมือง ที่มักจะถูกนายทุนติดเบรก เป็นเหตุให้ไม่มีดาราคนไหนกล้าแสดงจุดยืนเรื่องการเมืองสักเท่าไหร่
หลังจากสร้างประวัติศาสตร์คนบันเทิงโดยการยื่นถวายฎีกาแล้ว อี้ แทนคุณ ก็หายไปจากวงการกลับไปทำงานภาคพลเมืองให้กับองค์กรต่างๆ เหมือนที่เคยทำมา ก่อนจะมาปรากฏเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวโผล่มาเป็นนักวิเคราะห์ข่าวและทำหน้าที่สัมภาษณ์บุคคลต่างๆ ในรายการ “ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า” ช่อง 11 สทท. ซึ่งเป็นรายการเฉพาะกิจที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ “ม็อบเสื้อแดง” ประกาศรวมพลใหญ่ เพื่ออธิบาย คลี่คลาย สถานการณ์บ้านเมืองให้ประชาชนเข้าใจ
กับการทำหน้าที่ครั้งนี้ อี้ได้สร้างความตกตะลึงในวงการข่าวฟรีทีวี ด้วยการกล้าพูด กล้าถาม กล้าอธิบาย ในสิ่งที่ผู้สื่อข่าว ผู้ประกาศข่าวช่องต่างๆ ไม่กล้าทำ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย จนเป็นเหตุให้ม็อบเสื้อแดงถึงกับขึ้นบัญชีดำ อะไรที่ทำให้เขากล้า และต้องใช้ความบ้าซักเท่าไหร่ ไปทำความรู้จักตัวตนของ อี้ แทนคุณ กัน
แต่เหตุการณ์ที่อี้นำ 84 องค์กรเครือข่ายต้านคอรัปชั่นไปยื่นถวายฎีกาไม่เอา “สมัคร สุนทรเวช” เป็นนายกเมื่อปี 2551 ก็ทำให้ชีวิตในการทำงานของอี้พลิกผันอีกครั้งตามสไตล์ดาราที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเมือง ที่มักจะถูกนายทุนติดเบรก เป็นเหตุให้ไม่มีดาราคนไหนกล้าแสดงจุดยืนเรื่องการเมืองสักเท่าไหร่
หลังจากสร้างประวัติศาสตร์คนบันเทิงโดยการยื่นถวายฎีกาแล้ว อี้ แทนคุณ ก็หายไปจากวงการกลับไปทำงานภาคพลเมืองให้กับองค์กรต่างๆ เหมือนที่เคยทำมา ก่อนจะมาปรากฏเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวโผล่มาเป็นนักวิเคราะห์ข่าวและทำหน้าที่สัมภาษณ์บุคคลต่างๆ ในรายการ “ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า” ช่อง 11 สทท. ซึ่งเป็นรายการเฉพาะกิจที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ “ม็อบเสื้อแดง” ประกาศรวมพลใหญ่ เพื่ออธิบาย คลี่คลาย สถานการณ์บ้านเมืองให้ประชาชนเข้าใจ
กับการทำหน้าที่ครั้งนี้ อี้ได้สร้างความตกตะลึงในวงการข่าวฟรีทีวี ด้วยการกล้าพูด กล้าถาม กล้าอธิบาย ในสิ่งที่ผู้สื่อข่าว ผู้ประกาศข่าวช่องต่างๆ ไม่กล้าทำ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย จนเป็นเหตุให้ม็อบเสื้อแดงถึงกับขึ้นบัญชีดำ อะไรที่ทำให้เขากล้า และต้องใช้ความบ้าซักเท่าไหร่ ไปทำความรู้จักตัวตนของ อี้ แทนคุณ กัน
“จริงๆ เรื่องการเมืองเป็นเรื่องที่ผมสนใจมานานแล้ว และผมก็ทำงานภาคพลเมืองมานานตั้งแต่สมัยผู้ว่าอภิรักษ์ตอนนั้นรณรงค์เรื่องการไปเลือกตั้งใช้ชื่อว่า บิ๊กแบงบางกอก แล้วก็ไปทำกับกลุ่มเยาวชนต่างๆ กลุ่มคนพิการ กลุ่มระมัดระวังตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่น และก็ร่วมกับอีกหลายๆ กลุ่มในการรณรงค์เรื่องต่างๆ และก็มีกลุ่มสื่อของตัวเอง ชื่อกลุ่มสื่อธรรมะเพื่อเยาวชน แต่ไม่เคยไปปรากฏตัว ผมคิดว่าภาคพลเมืองเราควรจะทำให้มันดีไม่ต้องเด่น”
“แต่ภาพมันพึ่งจะชัดเจนเมื่อตอนที่ไปยื่นฎีกา ครั้งนั้นที่ตัดสินใจไปยื่นเพราะมีความรู้สึกว่า มันแย่ พรรคการเมืองพึ่งพาไม่ได้แล้ว ขณะนั้นผลการตัดสินของศาลก็ออกมาแล้วทุกคนก็ควรที่จะเคารพ ไม่ว่าจะถูกใจหรือไม่ถูกใจ เพราะมันเป็นขบวนการยุติ ยุติโดยธรรม ความถูกต้องมันต้องมาก่อน”
“แต่ที่สุดแล้วนักการเมืองก็ไม่จบ เขาไม่สนใจ เขารู้สึกว่าอยากจะทำอะไรก็ได้ มันคือกลียุคแห่งความคิด คิดว่าพวกพ้องของตัวเองเป็นใหญ่ เห็นแก่ตัวตามประสานักการเมือง ซึ่งความคิดเหล่านี้มันปรากฏชัดเจนตอนยุคของคุณทักษิณ ที่คิดรวบอำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เลยทำให้พรรคพวกกลุ่มผลประโยชน์ใช้วิธีคิดแบบเดียวกัน ซึ่งผมคิดว่ามันน่ากลัวมาก ขอเพียงให้เขาได้อำนาจฐานจากเสียงจากประชาชน แล้วเขาจะทำอะไรยังไงก็ได้ ซึ่งเบื้องหลังก็รู้กันอยู่ ว่ามันได้มาโดยใสสะอาดบริสุทธิ์มากนัก การที่เขาถูกยุบพรรคอะไรต่างๆ มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว”
“เพราะฉะนั้นผมก็มีความรู้สึกว่า มันต้องช่วยทำอะไรบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้อำนาจมันไหลเลื่อนไปทางนักการเมืองและก็ปกครองแบบนี้ ประชาธิปไตยมันไม่ใช่คนที่ต้องอยู่ใต้ปกครอง มันต้องร่วมปกครอง และคนที่เป็นนักการเมืองก็ต้องรู้สึกตระหนักว่า พลังของประชาชนมันไม่ได้จบที่การให้อำนาจเป็นตัวแทนประชาชน แล้วคุณจะไปทำอะไรยังไงก็ได้ โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงความดีงามที่ถูกต้อง ไม่ใช่ว่าพวกฉันใหญ่พวกฉันมาก จนเกิดวาทกรรมประมาณว่า โกงแล้วได้ แต่แบ่งกูด้วย” (ยิ้ม)
“คือโกงก็ได้ แล้วก็แบ่งเศษเงินเศษทองให้กับประชาชน คือแทนที่ประชาชนจะได้รับเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่เขาแบ่งสรรให้พวกเราเพียงน้อยนิด (กำลังจะหมายถึงนโยบายประชานิยมหรือเปล่า) คืออันนี้น่ากลัวที่สุด เมื่อนักธุรกิจมาทำการเมือง เขาก็เลยใช้ระบบมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งมันไม่ยั่งยืน คำนึงถึงผลกำไรเป็นตัวตั้ง และมีการสร้างภาพว่ามันเป็นผลสำเร็จ ความสวยงามดูดี ทำให้ภาพความเป็นจริงไม่ถูกแสดงออกมา งบประมาณบางส่วนก็ถูกนำมาใช้เพื่อการโปรโมทตัวเอง มีผลงานอะไรก็แถลงข่าวใหญ่โต ด้านมืดด้านลบอะไรก็ไม่บอก”
“ลึกๆ ผมมีความเจ็บปวดกับรัฐบาลของคุณทักษิณมาก ทั้งๆ ที่เดิมทีผมรู้สึกศรัทธาคุณทักษิณในระดับหนึ่ง เขาเป็นคนเก่ง ยุคควบคุมสื่อเริ่มจากยุคเขาเป็นยุคแรก ตอนแรกๆ ผมทำรายการของหลวงปู่พุทธอิสระ ช่อง 9 รายการออกทุกวัน หลวงปู่ท่านก็วิพากษ์วิจารณ์ตรงๆ ซึ่งตอนนั้นท่านไม่ได้โฟกัสหรอกว่าเป็นคุณทักษิณ แต่ท่านพูดถึงนักการเมืองที่โกงกิน ตอนหลังรายการก็เลยถูกยุบ ถามจากวงในทำให้ทราบว่า เราวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเกินไป”
“อย่างไรก็ตาม อันนี้ก็ไม่ได้เป็นเหตุที่อคติต้องลุกขึ้นมาต่อสู้กับรัฐบาลคุณสมัคร แต่ผมรู้สึกว่ามันเป็นส่วนหนึ่ง ขนาดเราคิดว่า เราไม่ได้ทำร้ายใคร พูดอะไรเขายังไม่ฟังเลย แล้วคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ต้องถูกครอบงำความคิดถูกเปลี่ยนแปลงทัศนะคติ ถูกครอบงำหรือถูกหลอกใช้หลอกลวงมากขึ้น การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงก็เป็นปรากฏการณ์ที่มันสะสมมาทีละนิดๆ ใส่ข้อมูลว่าเขาดีๆ มากขึ้นๆ จนคนมองไม่เห็นความชั่วของเขา นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ให้คิดว่า เราต้องรวมตัวกัน”
“ซึ่งหลังจากยื่นไปแล้วก็มีผู้ใหญ่มาบอกว่า ผมขึ้นแบล็คลิสต์ ของกลุ่มเสื้อแดง ทำอะไรก็ต้องระวังตัวหน่อย เพราะเป็นศัตรูเขา ถามว่ากลัวไหม ก็กลัว ทำไมต้องคุกคาม แต่โดยส่วนตัวผมไม่ได้คิดว่าเขาเป็นศัตรูนะ ผมแค่รู้สึกว่า ทำไมไม่ทำให้ถูกต้อง หาคนอื่นมาเป็นนายกไม่ได้เหรอ ทำไมจะต้องเอาคุณสมัครซึ่งถูกตัดสินแล้ว การที่คนในพรรคยังเลือกคุณสมัครมาเป็น ทั้งๆ ที่ถูกตัดสินแล้ว ก็แปลว่าเขาไม่เห็นหัวประชาชนเลย”
“หลังจากที่ผมออกมาครั้งนั้น ก็มีหลายคนมาเตือน เพราะผมค่อนข้างออกหน้ามาก จากนั้นผมก็หายไป แต่ก็ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ ผมเองก็ยังทำหน้าที่ภาคพลเมืองอยู่ อย่างไรก็ตามช่วงนั้นมันก็ยังไม่ชัดเท่าช่วงนี้”
“ม็อบอยู่...ผมอยู่ เพื่อคลี่คลายความจริง”
“จริงๆ แล้วต้องบอกว่าผมไม่ใช่นักข่าวมืออาชีพ แต่จุดเริ่มต้นมาจากตอนที่ผมทำเครือข่ายศึกษาและพัฒนาสันติวิธีของมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นที่ปรึกษาของกลุ่มเยาวชน และวันนั้นก็ไปจัดกิจกรรมกันที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ก็มีท่านว.วชิรเมธีโฟนอินเข้ามา และก็มีพระพยอม ผมก็พูดเรื่องธรรมะศาสนาและก็เรื่องการเมือง การเมืองจะต้องเสียสละเอาธรรมะเป็นที่ตั้ง”
“จากนั้นทางช่อง 11 ก็ติดต่อเข้ามาว่า อยากใช้แนวทางสันติวิธีแบบนี้ช่วยมาเป็นพิธีกรให้หน่อย ผมก็เลยบอกว่า ผมมีจุดยืนของตัวเองคือ ไม่เป็นเครื่องมือของรัฐบาล จะให้มานั่งบอกว่ารัฐบาลดีอย่างโน้นอย่างนี้ไม่เอา สอง ผมจะเชื่อในสิ่งที่ผมคิดว่าใช่ ถ้าผมตรวจสอบแล้วว่ามันถูกต้อง ผมจะช่วยเต็มที่ อันไหนผิดถูกผมจะบอกเต็มที่”
“ผมเริ่มทำรายการตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม คือพอเขาชุมนุมผมก็เริ่มทำเลย เป็นรายการเฉพาะกิจ(เหมือนเขาปั้นเราขึ้นมาต่อสู้กับเสื้อแดง) มันก็คล้ายๆ อย่างนั้นครับ(หัวเราะ) แต่อย่างว่าใจผมมันมาเกินร้อย วันแรกผมสัมภาษณ์ท่านไพศาล วิสาโล ทำให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้น”
“เข้าใจอย่างแรกก็คือ เรื่องทั้งหมดมันเกิดจากคุณทักษิณจริงๆ เขาเป็นคนที่ไม่ยอมรับกติกาเพราะอุปนิสัย ใครที่ทำให้เขาผิดเป้าหมาย เขาจะมองเป็นศัตรูหมด ใครที่เป็นคู่แข่งกับเขาจะเป็นคู่แค้นด้วย หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ขัดขวางผลประโยชน์ของเขา เขาจะทำร้ายล้างอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แล้วไอ้ความคิดแบบนี้มันได้เข้าไปครอบคลุมกลุ่มพรรคการเมืองเพื่อไทย”
“อย่างที่สอง คนเสื้อแดงถูกบิดเบือนข้อมูลเยอะมาก ถูกบิดเบือนว่ารัฐบาลคุณอภิสิทธิ์เป็นรัฐบาลที่เกิดจากทหาร และการยุบพรรคก็เกิดจากอำมาตย์ เขามองว่ามันเชื่อมโยงกันหมด การตัดสินของศาลไม่ยุติธรรม เขามองว่าเป็นการใช้อำนาจครอบงำศาล ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือเขาไม่ดูที่เหตุ แต่เขาดูที่ผล ถ้าผลออกมาไม่ถูกใจเขาก็จะบอกว่าไม่ถูกต้อง”
“หลังจากสัมภาษณ์เทปแรกเสร็จ ผู้ใหญ่ทางช่องก็บอกว่า ผมมีเซ้นส์ทางการเมือง ผมก็บอกว่า ถ้ามันผิดผมก็จะบอกว่าผิด ถ้าถูกก็จะบอกว่าถูก ซึ่งผมเองก็มองว่าคุณทักษิณคือต้นเหตุทั้งหมด ผู้ใหญ่ทางช่องก็ถามว่า พร้อมจะช่วยไหม เพราะไม่ค่อยมีผู้ประกาศคนไหนที่กล้าจะพูดแบบนี้ ผมก็บอกว่า ไม่มีปัญหา ถ้าการที่ผมออกมาแล้ว มันทำให้บ้านเมืองสงบได้และคลี่คลายได้”
“คือตอนนี้สถานการณ์มันค่อนข้างวิกฤติมาก ข้อมูลทุกอย่างถูกบิดเบือน และมันก็ลุกลามไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้โดยเด็ดขาด ผู้ใหญ่ก็บอกว่า มันเสี่ยงนะ มันอาจจะมีผลตามมา ผมก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก คือถ้าเรามีส่วนเล็กๆ น้อยๆ ทำให้มันเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ มันสื่อออกไปทั่วประเทศและทำให้มีคนเข้าใจอะไรมากขึ้นได้ผมก็ยินดี”
ที่มา :
ป้ายกำกับ:
ก้าวไปข้างหน้า,
จิตต์อิสระ,
แทนคุณ,
บูรณผานิต,
ประเทศไทย,
อี้,
เอกชัย
"การ์ดเสื้อแดง" ถ.สีลมผวา เจอก๊าซ NGV บึ้มสนั่น
Rating: | ★★★ |
Category: | Other |
"การ์ดเสื้อแดง" ถ.สีลมผวา
เจอก๊าซ NGV บึ้มสนั่น
เมื่อเวลา 11.20 น. ได้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว คล้ายเสียงระเบิดที่บริเวณแยกศาลาแดง ที่กลุ่มคนเสื้อแดงตั้งบังเกอร์ และกลุ่มตำรวจตรึงกำลังป้องกันถนนสีลม โดยจากการตรวจสอบพบว่า เสียงดังกล่าวมาจากรถปรับอากาศสีเหลืองรุ่นใหม่ โดยนายตรวจพิเศษ ขสมก.ซึ่งมาอำนวยความสะดวกบริเวณดังกล่าว โดยกล่าวว่า เสียงที่เกิดขึ้นมาจากแรงอัดของก๊าซเอ็นจีวีที่เผาไหม้ไม่หมด จึงมีเสียงดังคล้ายระเบิด ซึ่งผลจากแรงอัดกล่าวทำให้พื้นถนนที่ผสมด้วยยางมะตอยเกิดหลุดเล็อกน้อย ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้กระจายตัวอยู่บริเวณแยกศาลาแดงพากันวิ่งหลบเข้าไปอยู่หลังแนวยางรถยนต์ เพราะคาดว่าทหารปาระเบิดเข้ามาสลายการชุมนุม เมื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงแกนนำ ได้ประกาศไม่ให้ผู้ชุมนุมตื่นตกใจแต่ว่า ให้จับตาการเคลื่อนไหวของตำรวจและทหารอย่างใกล้ชิด
ขณะที่บรรยากาศการตรึงกำลังของการ์ดเสื้อแดงเป็นอย่างตรึงเครียด โดยกลุ่มเสื้อแดงได้จัดชายฉกรรจ์ กระจายอยู่หลังแนวยางรถยนต์ เพื่อสอดส่องความเคลื่อนไหวของทหารและตำรวจ ขณะที่ได้มีการจัดทีมการ์ดอีกชุดหนึ่งขึ้นไปอยู่บนสะพานข้ามแยกศาลาแดง เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครโยนวัตถุระเบิดลงมาจากสะพาน และทุกครั้งที่ตำรวจสับเปลี่ยนกำลัง ทางการ์ดของคนเสื้อแดงก็ต่างลุกฮือมามอบอยู่หลังแนวยางรถยนต์ พร้อมทั้งตะโกนเรียกกำลังมาสมทบ เป็นระยะๆ
ทั้งนี้กลุ่มคนเสื้อแดงได้นำไม้ไผ่ปลายแหลมมาสานเป็นกำแพงปิดกั้นทางขึ้นสะพานลอยคนข้ามแยกศาลาแดงทำให้ประชาชนต้องข้ามถนนบนทางม้าลายเท่านั้น ส่งผลให้การจราจรติดขัดตลอดช่วงบ่าย
21 เมษา. 2553 12:57 น.
ศอฉ. ลั่นจัดการเด็ดขาดห้ามแดงบุกศิริราช สีลม - ออกหมายเรียกแดงอีก ๕๔
Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
ศอฉ.ลั่นจัดการเด็ดขาด
ห้ามแดงบุกศิริราช สีลม-ออกหมายเรียกแดงอีก 54

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกฯศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) แถลงผลการประชุมศอฉ. ว่า ศอฉ.ได้ออกหมายเรียกคนเสื้อแดงเพิ่มอีก 54 คนเพื่อมาให้ข้อมูล ทั้งการ์ดเสื้อแดง วิทยุชุมชน และแท๊กซี่ โดยกลุ่มแรกที่ศอฉ.ออกหมายเรียกไป52 คนมารายงานตัวเพียง21 คน ซึ่งศอฉ.จะออกหมายจับต่อไปหากยังไม่มารายงานตัว รวมทั้งจะใช้มาตรการอย่างเฉียบขาดกับคนเสื้อแดงโดยห้ามเคลื่อนออกจากพื้นที่ราชประสงค์โดยเฉพาะห้ามไปยังพื้นที่สำคัญ เช่น ศิริราช และสีลม
โฆษกฯศอฉ. ยังกล่าวถึงการที่มีรายงานข่าวว่ากองพิสูจน์หลักฐานได้สรุปว่าวิถีปืนจากทหารยิงทำให้ช่างภาพญี่ปุ่นรอยเตอร์เสียชีวิตนั้น ว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) แล้วซึ่งยืนยันว่ายังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลการปะทะเมื่อ10เมย.จึงยังไม่ได้มีการสรุปว่ามีการยิงจากฝ่ายใด และตนเห็นว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยากที่จะสรุปว่าฝ่ายใดยิง

วัน - เวลา 2010-04-21 11:56:27
ป้ายกำกับ:
กบฏแดง,
แก้วกำเนิด,
ควายแดง,
ทักษิณ,
ผู้ก่อการร้าย,
ยามเฝ้าแผ่นดิน,
ศอฉ,
สรรเสริญ,
เสธไก่อู
ผอ. ศูนย์เอราวัณวอนแดงอย่ายึดรถพยาบาล
Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
ผอ. ศูนย์เอราวัณวอนแดง
อย่ายึดรถพยาบาล
ผอ.ศูนย์เอราวัณ วอนเสื้อแดงอย่ายึดรถพยาบาล หลังมีกระแสข่าวว่าเป็นที่ขนอาวุธ ชี้เป็นไปไม่ได้ย้ำ จนท.เสียสละทั้งวันทั้งคืนไม่มีการฝักใฝ่ฝ่ายใด
น.พ.เพ็ชรพงษ์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยการศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณี นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง ประกาศบนเวทีปราศรัย จะยึดรถพยาบาลกว่า 30 คัน ให้มาเป็นของกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากเชื่อว่ามีอาวุธสงครามของเจ้าหน้าที่ทหารซ่อนอยู่ ว่า เรื่องดังกล่าวสร้างความหวั่นวิตกให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งถือเป็นผู้เสียสละต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ชุมนุมทั้งกลางวัน และกลางคืน ไม่เว้นวันหยุด และปัจจุบัน ก็ยังถูกตรวจรถพยาบาลอยู่เสมอ ซึ่งคล้ายกับการถูกคุกคามทางอ้อม ทั้งที่บุคลากรทางการแพทย์มีความตั้งใจ แต่การช่วยเหลือทุกคนโดยไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
ซึ่งการประกาศบนเวทีเช่นนี้ ทำให้ไม่ทราบว่า ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร อีกทั้งขณะนี้ทางศูนย์เอราวัณ และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ได้ประสานกำลังเตรียมพร้อมดูแลผู้ชุมนุมอย่างเต็มที่ หลังจากเกิดเหตุการณ์ 10 เมษายน เตรียมระดมรถพยาบาลฉุกเฉินทั้ง กทม.และปริมณฑล เข้ามาเสริมเป็นจำนวนมาก เพื่อให้การช่วยเหลือ เป็นทีมสนับสนุนอย่างเต็มที่ ดังนั้น ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมอย่าเข้าใจผิด และเรียกร้องให้สร้างความเข้าใจระหว่างกัน เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ของทั้งสองฝ่าย

21 เมษายน 2553 07:52:38
ศอฉ. พบข้อมูลแดงทุบอิฐบล็อคใช้ทำร้ายจนท.-ทำบั้งไฟยิงฮ.
Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
ศอฉ.บอกพบข้อมูล
แดงทุบอิฐบล็อคใช้ทำร้ายจนท.-ทำบั้งไฟยิงฮ.

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกฯศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) แถลงผลการประชุมว่า เจ้าหน้าที่มีความพร้อมในการบังคับใช้กฏหมายกับกลุ่มคนเสื้อแดงเต็มที่ รอเพียงเวลาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามได้รับรายงานว่าคนเสื้อแดงได้ทุบอิฐบล็อคเป็นชิ้นเล็กๆเพื่อใช้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กรุงเทพมหานครจะเอาผิดทางกฏหมายได้ นอกจากนี้ยังตรวจพบว่ามีการทำบั้งไฟเพื่อใช้ยิงใส่ใบพัดเฮลิคอปเตอร์ด้วย

วัน - เวลา 2010-04-20 21:35:02
ป้ายกำกับ:
กบฏแดง,
แก้วกำเนิด,
ควายแดง,
ทักษิณ,
ผู้ก่อการร้าย,
ยามเฝ้าแผ่นดิน,
ศอฉ,
สรรเสริญ,
เสธไก่อู
ส.นักข่าวไม่ยอมรับปลอกแขนยุบสภาที่แดงแจก ยันสื่อไม่ใช่ขั้วขัดแย้งใคร
Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
ส.นักข่าวไม่ยอมรับ
ปลอกแขนยุบสภาที่แดงแจก
ยันสื่อไม่ใช่ขั้วขัดแย้งใคร

นายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง กรรมการฝ่ายสิทธิเสรีภาพและปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีหน่วยรักษาความปลอดภัยของกลุ่มเสื้อแดง นปช. ได้เปลี่ยนมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยการให้สื่อมวลชนที่เข้ามาทำข่าวการชุมนุมลงทะเบียนรับปลอกแขนที่มีข้อความ"ยุบสภา" ว่า ได้รับรู้ความคิดเห็นและความกังวลใจของพี่น้องสื่อมวลชนในพื้นที่จำนวนหนึ่ง ที่จะเปลี่ยนมาใส่ปลอกแขนดังกล่าว
จากนั้นจึงได้ประสานไปยัง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.ที่มีหน้าที่ดูแลสื่อมวลชนทำข่าวการชุมนุมโดยตรง ซึ่งนายณัฐวุฒิยืนยันว่าปลอกแขนสีเขียวเข้มที่มีสัญลักษณ์ของสมาคมนักข่าวฯที่ได้แจ้งต่อนายณัฐวุฒิรับทราบด้วยตัวเองก่อนจะมีการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม ก็ยังสามารถใช้ใส่ทำข่าวในการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ได้ตามปกติโดยไม่มีการห้ามเข้าพื้นที่หลังเวที ซึ่งเป็นที่แถลงข่าวของ นปช.แต่อย่างใด
นายจีรพงษ์กล่าวว่า การทำปลอกแขนของสมาคมฯแจกนั้น เพราะตระหนักถึงความปลอดภัยในสวัสดิภาพชีวิตของนักข่าวทุกคนที่เข้าไปทำข่าวในพื้นที่ที่ชุมนุม การจัดทำปลอกแขนก็เพื่อการแสดงตัวและสังกัดของสื่อมวลชนให้มีความชัดเจนและต้องการแสดงเจตนาบริสุทธิ์ในการทำหน้าที่สื่อมวลชน เพื่อนำข้อมูลรายงานต่อประชาชนและนักข่าวทุกคนที่ได้รับปลอกแขนจะมีหนังสือรับรองจากต้นสังกัด และมีการตรวจสอบเพื่อป้องกันบุคคลอื่นที่ไม่มีความปรารถนาดีแฝงอาชีพสื่อมวลชนไปในการชุมนุม
อย่างไรก็ตาม หากแกนนำนปช.ต้องการทำปลอกแขนเพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยให้สื่อมวลชนควบคู่กันไปด้วยก็ไม่ขัดข้อง แต่ไม่ควรพ่วงคำว่า "ยุบสภา" หรือข้อเรียกร้องอื่นของนปช.อยู่ด้วย เพราะสื่อมวลชนมิใช่ขั้วของความขัดแย้งของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่อย่างใด ส่วนแกนนำจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมอย่างไรก็สามารถกระทำได้ แต่ต้องไม่มีลักษณะข่มขู่ คุกคาม หรือขัดขวางการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน

วัน - เวลา 2010-04-20 19:44:04
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)