วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ตะโกนกันอยู่ได้..ไม่เท่าเทียม ไม่เป็นธรรม สองมาตรฐาน // ถามจริงเหอะ..ที่ตะโกนปาว ๆ อยากเห็น “ความเป็นธรรม-เท่าเทียม” นั้นน่ะ อธิบายได้ไหมว่าอย่างไร // หรือว่ามันเป็นแค่ “ความไม่เป็นธรรมนกแก้วนกขุนทอง” เฉพาะกิจ // คนเสื้อแดงที่ตะโกนปาว ๆ เรียกหาความเป็นธรรม-ไม่สองมาตรฐาน น่าจะลองมานึกตรึกตรองด้วยสติสัมปชัญญะสักรอบว่า ถ้าคุณอยากจะเห็นความเป็นธรรมเท่าเทียม ไม่สองมาตรฐาน เกิดขึ้นในสังคมนี้อย่างสมบูรณ์ทั่วถึง จะต้องทำอย่างไรเพื่อให้มันเกิดขึ้น...? ..........ที่มา : จากบทความเรื่อง "ตะโกนกันอยู่ได้.. ไม่เท่าเทียมไม่เป็นธรรมสองมาตรฐาน".......โดย บัณรส บัวคลี่ http://www.manager.co.th/Columnist/ViewNews.aspx?NewsID=9530000175023

วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

กูเกิ้ลร่วมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและวันชาติของไทย

Rating:★★★★★
Category:Other









วันเฉลิมพระชนมพรรษา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และวันชาติของไทย













       Doodle ชิ้นนี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อรวมฉลองวันครบรอบวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งวันนี้ยังถือเป็นวันชาติของประเทศไทยอีกด้วย โดยดูเดิลชิ้นนี้ออกเเบบโดยใช้สีเเบบเดียวกับธงชาติไทยคือ เเดง ขาว น้ำเงิน โดยในตำเเหน่งของตัว g นั้นถูกเเทนที่ด้วยเเผนที่ประเทศไทยสีน้ำเงิน อันหมายถึงเป็นสิ่งรวมกันระหว่างวันเฉลิมพระชนมพรรษาเเละวันชาติ


ข้อมูลจำเพาะ : Doodle เเสดงในวันที่ 5 ธันวาคม 2553 (5 December 2010)

ประเทศที่เเสดง Doodle : ประเทศไทย

หัวข้อ : วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและวันชาติของไทย


เรื่องราวที่น่าสนใจจาก Doodle นี้


       พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชสมภพ ณ โรงพยาบาลเมาน์ออเบิอร์น (Mount Auburn) เมืองเคมบริดจ์ (Cambridge) รัฐแมสซาชูเชตต์ (Massachusetts) สหรัฐอเมริกา เมื่อวันจันทร์เดือนอ้าย ขึ้น 12 ค่ำ ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 เป็นพระราชโอรสพระองค์เล็กในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี) และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช คือสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อานันทมหิดล ทรงเข้ารับการศึกษาชั้นต้น ณ โรงเรียนมาแตร์เดอี กรุงเทพฯ จนถึง พ.ศ. 2476 จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทรงศึกษาต่อชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา และมหาวิทยาลัยโลซานน์ ในแขนงวิชาวิทยาศาสตร์

       วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 เสด็จสวรรคต เดิมทีพระองค์ทรงตั้งพระราชหฤทัยไว้ว่าจะครองราชสมบัติเพียงชั่วระยะเวลาจัดงานพระบรมศพพระบรมเชษฐาให้สมพระเกียรติ เพราะขณะนั้นพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมพรรษา 18 พรรษาเศษ ไม่เคยเตรียมพระองค์เพื่อดำรงตำแหน่งพระมหากษัตริย์มาก่อนเลย แต่ด้วยความจงรักภักดีของเหล่าอาณาประชาราษฎร์ที่มีต่อพระองค์อย่างแน่นแฟ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จึงเสด็จขึ้นครองราชสมบัติสืบราชสันตติวงศ์นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา แต่เนื่องจากยังมีพระราชกิจด้านการศึกษา จึงเสด็จกลับไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อีกครั้งหนึ่ง เพื่อทรงศึกษาต่อ และทรงเลือกศึกษาวิชากฎหมายและรัฐศาสตร์ แทนวิชาวิทยาศาสตร์ ที่ทรงศึกษาอยู่เดิม

       เหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในวันเสด็จพระราชดำเนินกลับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อทรงศึกษาวิชาการเพิ่มเติม เมื่อกลางเดือนสิงหาคม พ.ศ.2489 ระหว่างประทับรถพระที่นั่งไปสู่สนามบินดอนเมือง พระองค์ทรงได้ยินราษฎรคนหนึ่งตะโกนลั่นว่า “ในหลวง อย่าทิ้งประชาชน”

       พระองค์ทรงนึกตอบบุคคลผู้นั้นในพระราชหฤทัยว่า”ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนได้อย่างไร”

       หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไปประมาณ 20 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพบชายผู้ตะโกนทูลพระองค์ในครั้งนั้น เมื่อคราวเสด็จเยี่ยมราษฎรในต่างจังหวัด ชายผู้นั้นกราบบังคมทูลว่า ที่เขาร้องเช่นนั้น เพราะรู้สึกว่าเหว่และใจหายที่พระเจ้าแผ่นดินจะเสด็จไปจากเมืองไทย เขาเห็นพระพักตร์เศร้ามาก จึงร้องไปเหมือนคนบ้า พระเจ้าอยู่หัวทรงตอบว่า “นั้นแหละ ทำให้เรานึกถึงหน้าที่ จึงต้องกลับมา”

       พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส กับ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2493 ทรงสถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร เป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ และในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามแบบอย่างโบราณราชประเพณีขึ้น ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง เฉลิมพระบรมนามาภิไธย ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร” พร้อมทั้งพระราชทานพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”   และพระองค์ได้พิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์แก่หัวใจของชาวไทยทุกดวงแล้วว่า พระองค์ได้ทรงอุทิศทั้งกำลังกาย กำลังทรัพย์ และกำลังความคิดในการประกอบพระราชกรณียกิจด้านต่าง ๆ เพื่อความผาสุกของพสกนิกรของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นด้านการส่งเสริมอาชีพ การเกษตร การอุตสาหกรรม การศึกษา การสาธารณสุข และการต่างประเทศ ฯลฯ

       นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังได้เสด็จออกไปเยี่ยมเยียนราษฎรในถิ่นทุรกันดารเพื่อความรับทราบความ เดือดร้อนและปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ด้วยพระองค์เอง ในคราวที่เกิดสาธารณภัยต่าง ๆ ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ น้ำท่วม ลมพายุพัดบ้านเรือนราษฎรให้ได้รับความเสียหาย พระองค์จะทรงห่วงใยและอาทรในความเดือนร้อนของพวกเขาเหล่านั้น ทรงรับสั่งให้มีการช่วยเหลือและพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อเป็นการ ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน










วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553

"เล็กคิดถึงมาก" ลายพระราชหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว










        เมื่อวานบังเอิญเปิดเว็บไซต์หนึ่ง แล้วไปเห็นภาพไปรษณียบัตรที่มีลายพระราชหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ทรงเขียนถึงสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระพันวัสสามาตุจฉาเจ้า พระราชมารดาในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก

        เห็นแล้วก็อมยิ้มมีความสุขกับข้อความ "เล็กคิดถึงมาก" ด้วยลายพระราชหัตถ์อย่างทรงพระเยาว์

        จากนั้นเลยลองสืบค้นด้วยคำว่า "ลายพระหัตถ์" ดูต่อไปเรื่อย ๆ ก็พบว่ามีลายพระราชหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่ไม่น้อย รวมทั้งลายพระราชหัตถ์และลายพระหัตถ์ของพระองค์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้รวบรวมจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่พบมาให้ชมกัน

        ภาพเหล่านี้ หลายคนอาจจะเห็นจนคุ้นตาแล้ว แต่ในยามที่บ้านเมืองรุ่มร้อน ผู้คนร้อนในอก เพราะมีผู้ไม่หวังดีมุ่งจะเผาบ้านเผาเมืองให้วอดวาย หวังว่าการนำภาพมงคลนี้กลับมาชมกันอีกครั้ง จะช่วยให้ทุกคนที่ได้พบเห็นยิ้มออกบ้าง และมีความสุข มีกำลังใจที่จะร่วมแรงร่วมใจกันฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคนานา เพื่อนำพาบ้านเมืองของเราให้ผ่านพ้นทุกข์เข็ญไปให้ได้

        และเหนือสิ่งอื่นใด ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทยจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน และหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว


"เป็นต่าง"
เพราะ ต่าง เป็น

๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๒









ไปรษณียบัตรลายพระราชหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เมื่อครั้งทรงพระเยาว์
ทรงเขียนถึงสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระพันวัสสามาตุจฉาเจ้า
พระราชมารดาในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
ที่มา : http://campus.sanook.com/u_life/activity_01930.php
 
 
 

 


ลายพระราชหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เมื่อพระชนมายุ ๑๑ พระชันษา
ที่ทรงลงพระปรมาภิไธย “ภูมิพล”
ในสมุดเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ครั้งตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
ทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์เป็นครั้งแรก
เมื่อวันที่ ๓ เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๔๘๑
ที่มา : http://www.komchadluek.net/2006/09/04/a001_43982.php?news_id=43982
 
 
 




ลายพระราชหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในบัตรเชิญ
ที่ทรงส่งให้พระญาติมาชมการแสดงของนักเรียนอนุบาล
เมื่อครั้งทรงพระเยาว์
ที่มา : http://khonthaiuk.com/index.php?topic=105.0
 
 
 



ลายพระหัตถ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ลายพระราชหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทหิดล
และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เมื่อทรงพระเยาว์
 
 
 
 
 

ลายพระราชหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงบันทึกงานส่วนพระองค์ เรื่องการสร้างถนน
ในกิจกรรมโครงการของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
คราวร่วมเฉลิมพระเกียรติ
เนื่องในมหามงคลวโรกาสงานเฉลิมสิริราชสมบัติครบ ๕๐ พรรษา
เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๔๐
จากหนังสือ ใกล้เบื้องพระยุคลบาท กับ “ลัดดาซุบซิบ”
พิมพ์ครั้งที่ ๒๕ หน้า ๓๙
ที่มา...http://khonthaiuk.com/index.php?topic=105.0
 
 
 
 
 

ภาพลายฝีพระหัตถ์แบบร่างต้นแบบเครื่องกลเติมอากาศ
กังหันน้ำชัยพัฒนา
ซึ่งต่อมามูลนิธิชัยพัฒนาได้รับพระบรมราชานุญาต
ให้ดำเนินการขอจดสิทธิบัตรเครื่องกลเติมอากาศแบบ RX-5C
ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ออกสิทธิบัตรการประดิษฐ์
เมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๔๔
ในชื่อ “เครื่องกลเติมอากาศแบบอัดอากาศและดูดน้ำ”
 
 
 
 
 

ลายพระราชหัตถ์เพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 
 
 
 
 

ลายพระราชหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ในทะเบียนสมรส
 
 

 


ลายพระหัตถ์สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระพันวัสสามาตุจฉาเจ้า
ถึงหม่อมเจ้าดำรัศดำรงค์
อัครราชทูตไทยประจำประเทศสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น
เมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๐
เรื่องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระราชทานพระนามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ว่า "ภูมิพลอดุลเดช"

 

ลายพระราชหัตถ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระราชทานพระนามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เขียนอย่างวิธีแปลงอักษรตามแบบรัชกาลที่ ๖ ว่า
"Bhumibala Aduladeja"
เขียนอย่างออกเสียง ว่า "Poomipol"
 
 
 
 
 

พระสูติบัตรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพบ
บันทึกพระนามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า 
"ภูมิพลอดุลยเดช สงขลา (Bhumibal Aduldej Songkla)
เกิดวันที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๐
ที่โรงพยาบาลเคมบริดจ์ (Camb ridge Hospital)"






ที่มา : บ้านเป็นต่าง 








วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

...เหวย เหวย ตำรวจไทย... เกิดอุบัติเหตุคนเมาขับมอเตอร์ไซค์ชนประตูบ้านข้าง ๆ ป่อเต็กตึ๊งมาถึงไวมาก แต่กว่าท่าน "ร้อยเวร" จะมารอกันเป็นชั่วโมง ไอ้เจ้าคนขับแขนหัก นิ้วร่องแร่งเกือบขาด คนซ้อนหน้าผากแตก รอไปเย็บแผลที่โรงพยาบาล แต่ป่อเต็กตึ๊งยังพาไปไม่ได้ เพราะยังตกลงค่าเสียหายกับเจ้าของบ้านไม่ได้ และต้องรอท่าน "ร้อยเวร" มาลงบันทึกฯ ไว้เป็นหลักฐานก่อน ..........นานสองนานผ่านไป ท่าน "ร้อยเวร" มาถึง ท่านว่า..."นึกว่ามีเรื่องร้ายแรงอะไร ไม่งั้นไม่รีบมาหรอก ผมกำลังทำคดีงัดตู้เซฟห้าล้านอยู่" ? ! ? ! ? ! ? ! ? ! ..........โอ้ว ! ท่านมีเลือก "ราษฎร์" ที่จะ "พิทักษ์สันติ" ด้วยเว้ย ..........ท่านตำรวจไทย !!!

วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เรื่องของ "ซีดีรัฐไทยใหม่" กับ "ระเบิด"

Rating:★★★★★
Category:Other



พบ CD รัฐฯไทยใหม่
ในบริเวณจุดระเบิด

จากเหตุการณ์ระเบิดในอาคารสมานเมตตาแมนชั่น เบื้องต้นพบ CD มีข้อความเขียนบน CDว่ ารัฐฯไทยใหม่ โดยพบที่ห้อง 202 ซึ่งเป็นห้องของนายสมัย วงสุวรรณ อยู่ติดกับห้อง 201 ซึ่งเป็นห้องที่มีชายชาวไทย-มุสลิม มาเช่าพักอาศัยอยู่ติดกัน และมักมีชาวไทย-มุสลิม เข้าออกอยู่เป็นประจำ

ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุระเบิด เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ได้เข้าไปตรวจสอบ พบว่ายังมีระเบิดอยู่ในบริเวณดังกล่าวอีก 1 ลูก จึงได้กันผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าอาจเกิดเหตุระเบิดขึ้นมาอีก จนได้รับอันตราย 

ส่วน CD ที่พบคาดว่าจะเกี่ยวโยงกับสถานการณ์ป่วนเมืองในปัจจุบัน โดยบริเวณดังกล่าวอาจเป็นจุดผลิตระเบิดให้กลุ่มที่กำลังสร้างความวุ่นวายอยู่ในขณะนี้ 



5 ตค. 2553 22:05 น.








    "ระเบิดที่เพิ่งเกิดขึ้น ภาวนาไม่ให้เกี่ยวข้องกับวัตถุระเบิดที่มีการจงใจเก็บไว้เพื่อทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ขอให้เป็นการเก็บระเบิดที่เอาไว้ระเบิดแร่หรืออะไรก็ได้ ถ้าหากเป็นการเก็บระเบิดเพื่อเอาไว้ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็สะท้อนให้เห็นว่า นี่ขนาดแค่เตรียมการ แล้วถ้าปฏิบัติการจริงคงร้ายแรงมากกว่านี้

    "ส่วนการเจอแผ่นซีดีรัฐไทยใหม่ แน่นอนระเบิดที่เกิดในช่วงนี้ ก็มาจากกลุ่มที่มีการจัดตั้งทางการเมือง จะเกี่ยวกับเสื้อแดงหรือไม่ต้องดู ถ้าเกิดขึ้นต่อเนื่องจากคนเสื้อแดง ก็ขอให้ได้ตระหนักว่า สงครามปฏิวัติได้ถูกจุดขึ้นแล้วจริง ๆ"


สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
(นักสื่อสารมวลชนอิสระ)

จากรายการ “คนในข่าว”
ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี
วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๓
เวลา ๒๐.๓๐-๒๒.๐๐ นาฬิกา




ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์
5 ตุลาคม 2553 23:37 น.
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000140208




กำหนดการงาน "๗ ตุลา อย่าให้สูญเปล่า" วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๓

Rating:★★★★★
Category:Other







       
กำหนดการ
งาน 7 ตุลา อย่าให้สูญเปล่า
ในวันที่ 7 ตุลาคม 2553


       ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า
       06.00-07.00 น. ประชาชนร่วมกันตักบาตรข้าวสวยแด่พระสงฆ์
       07.00-07.59 น. ถวายภัตตาหารเช้าพระสงฆ์
       08.01-10.00 น. ถวายสังฆทาน ทอดผ้าบังสุกุล และพิธีกรรมทางศาสนาอื่นๆ

       
       บริเวณลานหน้าสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เอเอสทีวี 
       11.00-13.30 น. แสดงดนตรี อ่านบทกวี และวาดภาพบนเวที
       13.30-14.30 น. เสวนา เวทีวีรชน : ผู้บาดเจ็บ
       14.30-16.00 น. แสดงดนตรีและกิจกรรมของญาติวีรชน
       16.00-17.30 น. แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 1, 2 กล่าวรำลึกวีรชน
       17.30-22.00 น. แสดงดนตรี




ที่มา :
ASTVผู้จัดการออนไลน์
5 ตุลาคม 2553 12:02 น.

ภาพจาก...ท่านสไปรท์







ผบช.น.โอเค !! พธม.จัดรำลึก ๗ ตุลา ลานพระรูปได้

Rating:★★★★★
Category:Other





ผบช.น.โอเค !!
พธม.จัดรำลึก 7 ตุลา ลานพระรูปได้
ชี้ไม่ละเมิด พ.ร.ก.


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
5 ตุลาคม 2553 12:02 น.



นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์


โฆษกพันธมิตรฯ เผยทำความเข้าใจ “จักรทิพย์” แล้ว ยันจัดรำลึก 7 ตุลา ลานพระรูปมีแค่พิธีสงฆ์ เจ้าตัวกางข้อกฎหมายโชว์ ชี้ไม่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จัดงานได้ พร้อมส่งกำลังรักษาความปลอดภัย เตรียมแจง ศอฉ.ต่อ 
       
       วันนี้ (5 ต.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงการจัดงานรำลึกครบรอบ 2 ปี เหตุการณ์ 7 ตุลาว่า วันนี้ตนได้ไปพบ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมคณะจัดงาน เพื่อทำความเข้าใจหลังจากที่ ทาง ศอฉ.ได้แถลงว่าไม่เห็นชอบกับการจัดงานของพันธมิตรฯ ในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ เราก็ไปชี้แจงว่างานดังกล่าวจะแบ่งเป็นกิจกรรม 2 ส่วน คือ กิจกรรมในช่วงเช้าที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งจะเป็นกิจกรรมทางศาสนาเพียงอย่างเดียว ส่วนกิจกรรมตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ก็จะเป็นกิจกรรมที่จัดบริเวณหน้าลานสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ซึ่งเราได้อธิบายในกิจกรรมแรกว่าจะมีพระสงฆ์มาเพื่อให้ญาติโยมได้ทำบุญตักบาตรเพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ต่างๆ ตลอด 193 วันในการชุมนุมของพันธมิตรฯ โดยไม่มีการปราศรัยแต่อย่างใด มีเพียงแต่ปะรำพิธีทางศาสนาอย่างเดียว มีการใช้เครื่องเสียงเฉพาะพระสงฆ์สวด
       
       นายปานเทพกล่าวต่อว่า เมื่อไปชี้แจงเสร็จทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลก็เอาข้อกฎหมายให้ดูก็ได้พบว่า กิจกรรมที่ทางพันธมิตรฯ จะจัดนั้นไม่ถือเป็นการชุมนุม ไม่เป็นการมั่วสุม แต่เป็นพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งแตกต่างจากการยั่วยุปลุกระดมให้เกิดความรุนแรง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่เข้าข่ายในเกณฑ์ข้อห้ามตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนการจัดพิธีก็อยู่ในพื้นที่ฟุตบาทอาจจะมีล้ำในพื้นที่ถนนบ้างแต่ก็ไม่ถือเป็นการปิดการจราจร ทั้งนี้ยังได้มีการประสานงานกับตำรวจในหลายส่วน โดยเจ้าหน้าที่จะจัดการดูแลรักษาความปลอดภัยให้ เมื่อมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างภาคประชาชนและเจ้าหน้าที่ ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่มีการร่วมมือกัน ทำให้การจัดกิจกรรมดีๆสามารถเดินต่อไปได้ ขณะที่กิจกรรมที่บ้านเจ้าพระยานั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็จะทำการตรวจสกัดสิ่งที่อาจจะเป็นอันตรายต่อการจัดงาน ตั้งแต่หัวถนน และท้ายถนน รวมถึงพื้นที่ด้านแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย อย่างไรก็ตามทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจะไปชี้แจงให้ทาง ศอฉ.ทราบต่อไป
       
       โดยกำหนดการจัดงาน 7 ตุลา อย่าให้สูญเปล่า ในวันที่ 7 ตุลาคม 2553 มีดังนี้

       ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า
       06.00-07.00 น. ประชาชนร่วมกันตักบาตรข้าวสวยแด่พระสงฆ์
       07.00-07.59 น. ถวายภัตตาหารเช้าพระสงฆ์
       08.01-10.00 น. ถวายสังฆทาน ทอดผ้าบังสุกุล และพิธีกรรมทางศาสนาอื่นๆ
       
       บริเวณลานหน้าสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เอเอสทีวี 
       11.00-13.30 น. แสดงดนตรี อ่านบทกวี และวาดภาพบนเวที
       13.30-14.30 น. เสวนา เวทีวีรชน : ผู้บาดเจ็บ
       14.30-16.00 น. แสดงดนตรีและกิจกรรมของญาติวีรชน
       16.00-17.30 น. แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 1, 2 กล่าวรำลึกวีรชน
       17.30-22.00 น. แสดงดนตรี




ที่มา :







วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

เหลือเชื่อ !!!.....ไฟไหม้บ้านพ่อ-แม่ "จักรภพ เพ็ญแข".....แต่จานดาวเทียมแดงไม่ไหม้

ไฟไหม้บ้านพ่อแม่ "จักรภพ เพ็ญแข" แกนนำคนเสื้อแดงที่หลบหนีคดีอยู่.....ชั้น ๒ ถูกเพลิงไหม้เสียหายหมด โดยที่พ่อแม่ของนายจักรภพปลอดภัย ไม่ได้บาดเจ็บแต่อย่างใด.....แล้ว "คุณเพ็ญ" อยู่ไหนเนี่ย ไม่มาดูแลพ่อ-แม่

พระราชดำรัสเกี่ยวกับหลักการที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุข

Rating:★★★★★
Category:Other






พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จออก ณ ห้องประชุม ชั้น ๑๔
อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช
พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี
นำคณะองคมนตรีและภริยา
เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเป็นการส่วนพระองค์

โอกาสนี้
มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับหลักการที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุข
ว่า

"บุคคลที่นับได้ว่า มีสิ่งต่าง ๆ มากกว่าผู้อื่น
สมควรที่จะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
หรือแบ่งปันแก่ผู้ไม่มีอย่างพอเหมาะพอสม
และตนเองไม่เดือดร้อน

ส่วนผู้ที่ไม่มี ก็ควรพยายาม
ไม่ควรรอคอยแต่ความช่วยเหลือ
หรือคิดว่าตนเองไม่มีความสามารถ

หากช่วยเหลือกันดังนี้แล้ว บ้านเมืองก็จะสงบสุข"




ที่มา : ไทยโพสต์               
http://www.thaipost.net/node/28042               
เมื่อเวลา ๑๗.๓๐ น. วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๓               

ASTVผู้จัดการรายวัน               
28 กันยายน 2553 00:44 น.