วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

พม่าห้าม "แม้ว" เข้าประเทศ หลังรู้เป็น "เจ้ามูลเมือง" กลับชาติมาเกิด

Rating:★★★★★
Category:Other


 


พม่าห้าม 'แม้ว' เข้าประเทศ
หลังรู้เป็น 'เจ้ามูลเมือง' กลับชาติมาเกิด
เคยยกทัพปล้น ฆ่า ขนพระ



โดย ผู้จัดกวน ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ ๐๘:๕๔ น. 


 


โต๊ะข่าวต่างประเทศ - สำนักข่าว 'หม่องกะโจ๊ะเผี่ยว' แห่งพม่า เปิดเผย 'ตานฉ่วย' ประกาศกำชับทุกหน่วยงาน ห้ามปล่อยให้ 'แม้ว' เข้าประเทศโดยเด็ดขาด หลังทราบข่าวแท้แน่ชัดว่าอดีตชาติ คือ 'เจ้ามูลเมือง' แค้นผูกปีที่ทะลึ่งยกทัพไปปล้น ฆ่า และขนพระพุทธรูปกลับล้านนา หยาม กลับชาติมาเกิดเป็นคนไทย แต่ยังไม่เลิกนิสัยชั่ว อัด โกงกินจนจะสิ้นชาติอยู่แล้ว ดันยังมี 'ไข่แม้ว' เทิดทูน
      
        สำนักข่าวหม่องกะโจ๊ะเผี่ยวแห่งพม่า รายงานพิเศษแบบเปิดศีรษะล่อนจ้อนอย่างไม่ตั้งใจ แต่ใส่สีทะม่อนท่อลเล็กน้อย ว่า ขณะนี้รัฐบาลพม่า โดยนายพลตานฉ่วย โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่ทราบข่าวจากสื่อไทยระดับคุณภาพคับประเทศฉบับหนึ่ง ว่า นักโทษชายหนีคดีที่ดินรัชดาฯ ของไทย ที่ชื่อ ทักษิณ นั้น แท้ที่จริงมีอดีตชาติเคยเป็นถึงเจ้ามูลเมือง ที่สำคัญ ยังเคยสร้างเวรสร้างกรรมไว้กับประเทศพม่า ด้วยการยกไพร่พลกรีธาทัพไปปล้น ฆ่า ฉกชิ่งวิ่งราวพระพุทธรูป นำเอากลับมายังล้านนา ทำให้ระดับบิ๊กเบิ้มของพม่าประกาศอย่างเป็นทางการวานนี้ ว่า ห้ามนักโทษชายทักษิณ กินจนชินเป็นกิจวัตร เข้าเขตประเทศพม่าอย่างเด็ดขาด
      
        รายงานข่าวโดยสำนักข่าวหม่องกะโจ๊ะเผี่ยว ยังระบุว่า ตอนแรกนายพลตานฉ่วยไม่เชื่อว่าข่าวเรื่องนักโทษชายทักษิณเป็นเจ้ามูลเมืองกลับชาติมาเกิดจริง แต่ครั้นได้ยินคำยืนยันจาก พล.อ. ชัยสิทธิ์ ลูกพี่ลูกน้องของนักโทษชายทักษิณกล่าวคอนเฟิร์ม-ฟันธง ว่า ทักษิณชาติที่แล้วเป็นเจ้ามูลเมืองที่ไปทำเวรทำกรรมกับประเทศพม่ามาจริง ๆ ชาตินี้จึงได้รับกรรม กระทั่งต้องมีการสวดคุณไสยไถ่เวร นายพลตานฉ่วยและผู้บริหารประเทศพม่า จึงเห็นพ้องต้องกันว่าเรื่องนี้เป็นความจริง จึงประกาศห้ามนักโทษชายแม้วเข้าประเทศตลอดชีวิต
      
        'ทีแรกนะ ทะหางพาม่าม่ายเชื่อว่าทะสินเป็นเจ้ามูเมือจิง ๆ แต่พอฟังพี่ชายของทะสินพูด ทั่งผู้นำตาฉ่วยเชื่อทาที ถ้าทะสินเป็นคนดี เพื่อเราคนพาม่าไม่เกียด แต่ทะสินไปโข่ขืนคนพาม่า ปล้น ฆ่า และขงพะกะปะเทศไทยด้วย ใจรัน เอ้ย จัญไรมะ ๆ เลย แหม...ไม่รู้เป็นไร พูดจัญไรชัดสุด ๆ ผงเองชาติที่แล้วนะ ก็เกิดเป็นทหารพาม่า เคยเอาซ่งตีงลู่หน้าทะสินด้วยแหละ ชาติที่แล้วทะสินม่ายช่ายหน้าเหลี่ย ๆ แบะนี้นะ หน้าโก ๆ ม่ายช่ายหน้าเหลี่ย ๆ แบะชาตินี้หรอก ที่เปลี่ยนจากหน้าโก ๆ เป็นหน้าเหลี่ย ๆ เพราะถูกซ่งตีงผงลู่งาย อะจริง ๆ ผมไม่โกโหะ' ชาวบ้านย่านท่าขี้เหล็กที่อ้างตัวว่าในชาติที่แล้วชื่อ 'หม่องแท้ว หน้าหมีบ' เคี้ยวหมากพร้อมขยับโสร่งยืนยัน
      
        ด้านภริยาสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ กับหม่อง 'แท้ว หน้าหมีบ' เปิดเผยเสริมว่า ชาติที่แล้วตนชื่อ 'ตะละแม่เรียดี' แต่ชาตินี้มีนามว่า 'ไส จังริน' ไม่ชอบขี้หน้านักโทษชายทักษิณเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะทราบว่าเป็นผู้นำที่คอร์รัปชั่นมากที่สุดตั้งแต่เมืองไทยเคยมีมา ยิ่งรู้ข่าวว่าเป็นอดีตเจ้ามูลเมืองกลับชาติมาเกิด ยิ่งรู้สึกขยะแขยงเป็นการใหญ่
      
        'พั่วโคไทไม่รุระทะสินลงได้ยังงาย มันยะห่าจนจะไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว ยังระทะสินอีก ฉันเองเคยไปทำงานที่เมือไทย จึงพู่ไทยชัด โคไทยเสื้อแดงยิ่งโง่สุ ๆ โสนะหน้าที่พาม่าปากะห้าม่ายให้ขะปะเทะ' ไส จังริน สปีกไทยด้วยความมั่นใจเจรงๆ


 



ที่มา
http://www.manager.co.th/Pjkkuan/ViewNews.aspx?
NewsID=9520000019542


 


















ทีมงานผู้จัดกวน...ขอยืนยัน-นั่งยัน-นอนยัน ว่าเนื้อหาทั้งหมดภายในหมวดเป็นเรื่องสมมติขึ้นทั้งสิ้น หากชื่อหรือสถานการณ์ใดๆ ไปพ้องกับใครเข้า เราจะไม่ยอมรับผิดชอบอย่างเด็ดขาด


 


 

แม่ชอบ พธม. - พ่อชอบ นปก.




 



ฮา ๆ
น่าเอ็นดูดีค่ะ




ได้รับ forward mail จาก "พี่เจ้าฯ"



http://chaosakul.multiply.com/

เลยนำมาแบ่งปันกันชม

ขอบคุณ "พี่เจ้าฯ" มากนะคะ
ที่ส่งอะไรดี ๆ มาให้อ่านให้ดูอยู่เรื่อย ๆ


V
V
V
V
V
 




 


แม่ชอบ พันธมิตรฯ



V
V
V
V
V


พ่อชอบ นปก.


เซ็งเลยตู !!!!!


 



 


 


สองภาพนี้ จากบล็อกคุณ "ดอกหญ้า" 
http://www.oknation.net/blog/people/2008/10/02/entry-2

ขอบคุณค่ะ


 


 


 


 


 

วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ขอเห่อฝรั่งกับเขาหน่อย..."แม่"...




        วันวาเลนไทน์

       
วันแห่งความรักของพวกฝรั่งดั้งขอ ที่คนไทยพลอยเห่อตามฝรั่งไปด้วย

       
ก็ไม่ว่ากันล่ะ
ความรัก มันเป็นสากลนี่

       
แต่แค่รู้สึกเอียน ๆ เลี่ยน ๆ ที่ที่ไหน ๆ ในเมืองไทยก็หากิจกรรมจัดงานวันวาเลนไทน์กันจัง ไม่ว่าจะเป็นงาน
วิวาห์ใต้สมุทร ตามทะเลสวย ๆ วิวาห์เหาะ ตามหน้าผา แต่งงานบนหลังช้าง หรืออีกมากมายต่าง ๆ นานา

       
โดยเฉพาะปีนี้ได้รับฟังข่าวสถานที่ท่องเที่ยวในหลาย ๆ จังหวัดจัดกิจกรรมวันวาเลนไทน์ในท้องถิ่นมากจริง ๆ จนน่าใจหาย

       
เออหนอที
วันมาฆบูชา ที่ผ่านมา ห่างจากวันวาเลนไทน์ไม่กี่วันกลับเงียบเชียบ ไม่เห็นคึกคักครึกครื้นขนาดนี้


        วันวาเลนไทน์นี้ ตรงกับวันเสาร์ เป็นวันหยุดงาน ข้าพเจ้าก็นอนกินบ้านกินเมืองอยู่บ้าน
(กิจกรรมโปรด) ตื่นมาบ่ายแก่ ๆ กินข้าวกับแกงส้มแตงโมอ่อนฝีมือแม่ ตบด้วยกล้วยบวชชี กล้วยเชื่อม ฝีมือแม่อีกเหมือนกัน (กล้วยที่บ้านออกเครือเลยมีขนมจากกล้วยกินหลายอย่าง) แล้วก็นอนดูโทรทัศน์กับแม่ (นาน ๆ ที)

       
ตกค่ำครึ้มอกครึ้มใจ ร้องเพลงเล่นรับวันวาเลนไทน์เห่อฝรั่งกับเขาเสียหน่อย

       
เพลงแห่งความรักเพลงนี้แหละ
       
....แม่....


แม่

ต้นฉบับ....แฮมเมอร์
ฉบับนี้....คุณหวานเจี๊ยบร้องเอง 

 

              ตื่นขึ้นมาแต่เช้า             แม่หุงข้าวต้มปลา
        จวนจะได้เวลา                     ไปท้องนาอีกครา
        ทุกวันคืนแม่อยู่ด้วยความหวัง    ดังแสงทองส่องฟ้า
        ลูกแม่นั้นไปศึกษา                 ในสังคมชาวกรุง

                ตาแม่มองลูกรัก              วันที่เจ้าจากไป
        แม่เคยทุกข์ทนเพียงใด            แลลูกไกลอกตรม
        เมื่อลูกจบจากการศึกษา           แม่คอยตั้งตาชื่นชม
        ลูกอย่าหลงระเริงสังคม            จงหวนคืนบ้านนา

                นาก็คือความหวัง             ดังชีวิตจิตใจ
        จนเดือนดับลับล่วงไป              ไกลหนทางลูกจร
        ม่านเมฆบดบังนัยน์ตา             สาริกาไม่คืนกลับคอน
        ทุกคืนวันแม่มิได้หลับนอน        คอยเจ้าย้อนบ้านนา

                ตื่นขึ้นมาแต่เช้า              แม่หุงข้าวต้มปลา
        ดูแสงทองส่องมา                  ไปท้องนาอีกที
        ทุกวันคืนแม่ก็ยังเฝ้าหวัง          หวังถึงวันสุดท้าย
        รอจนแม่ถึงวันสิ้นใจ               คงได้พบลูกชาย





ภาพประกอบ : จากอินเตอร์เน็ต (ขออภัยที่จำชื่อเว็บไซต์ไม่ได้)

 

 

 

วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ดอกไม้ไม่มีจริง




 


 



 



      หัดวาดภาพด้วยโปรแกรม paint ครั้งแรก เมื่อช่วงเครียด ๆ ในระหว่าง ๑๙๓ วันพันธมิตรฯ ที่ผ่านมา 
      ก็ออกมาเป็นแบบนี้แหละ

     ดอกไม้ (ที่) ไม่มีจริง