วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

จำอวด

Rating:★★★
Category:Other

จำอวด


การแสดงชนิดหนึ่งของไทยที่ในปัจจุบันหาดูได้ยากแล้ว นั่นก็คือ "จำอวด" ซึ่งพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้ให้บทนิยามไว้ดังนี้ "น. การแสดงเป็นหมู่โดยใช้ถ้อยคำชวนให้ตลกขบขัน."

ข้าพเจ้าได้อ่านหนังสือ "ศิลปละคอนรำหรือคู่มือนาฏศิลปไทย" ของ นายธนิต อยู่โพธิ์ อดีตอธิบดีกรมศิลปากร ได้พบคำว่า "จำอวด" ซึ่งได้อธิบายไว้ค่อนข้างละเอียด เห็นว่ามีประโยชน์มาก จึงขออนุญาตนำมาเสนอท่านผู้ฟังพอสมควรแก่เวลา ดังนี้

"จำอวด" คำนี้เข้าใจว่าเป็นพวกที่เล่นตลกเอกเทศ ไม่ต้องแสดงร่วมกับอะไร จำอวด เข้าใจว่าคงเลียนแบบวิธีแสดงมาจากสวดคฤหัสถ์นั่นเอง เพราะมีเป็นชุด ๔ คน อย่างเดียวกัน สวดคฤหัสถ์เล่นได้เพียงครึ่งตัว คือ นั่งเล่นเท่านั้น อย่างดีก็ลุกขึ้นคุกเข่า แต่มือต้องถือตาลปัตรไว้ด้วยเสมอ นาน ๆ จะมียืน ผู้ที่ยืนโดยมากเป็นตัวตลก (ตุ๊ย) จึงจะยืนได้ ส่วนจำอวดยืนเล่นได้ตลอดไป ชุดหนึ่งก็แบ่งหน้าที่เป็น ๔ เหมือนกับสวดคือ แม่คู่ ๑ คอสอง ๑ ภาษา ๑ ตลก (ตุ้ย) ๑ ชุดที่ขึ้นชื่อลือนามในยุคแรก ก็คือ ชุดเสมาทอง ซึ่งมีนาย เจริญ บุญยกลิ่น เป็นแม่คู่ นายตุ๋ย ชำนาญประดิษฐ์ เป็นคอสอง นายอบ บุญติด เป็นภาษา นายทิ้ง มานีมงคล เป็นตลก (ตุ๊ย) และมีนายฟ้อน คุ้มเดช เพิ่มจำนวนขึ้นอีกคนหนึ่ง ต่อมาจึงมีผู้หญิงเข้าร่วมเล่นอีก ๒ คน คือ นางชื่น เป็นตลก และนางพริ้ง เป็นภาษา ชุดนี้ดูเหมือนจะเคยเล่นสวดคฤหัสถ์มา เหมือนกัน อีกชุดหนึ่งเป็นชุดเด็ก แต่เดี๋ยวนี้เป็นผู้ใหญ่หมดแล้ว คือ ชุดสี่สมิง ชุดแรกมีนายเฉลิม บุณยเกียรติ เป็นแม่คู่ นายผล วรศริน เป็นคอสอง นายเริ่ม เรียนรอบกิจ เป็นภาษา นายสนิท เกษธนัง เป็นตลก (ตุ๊ย) ต่อมาเกิดมีชุดสี่สมิง เป็นชุดที่ ๒ อีกชุดหนึ่ง นายสนิท เกษธนัง เป็นหัวหน้าเหมือนกัน แต่เพิ่มผู้เล่นเกินกว่าสำหรับ ๔ คน คือมีนายจำรัส สุวคนธ์ นายขวัญ สุวรรณะ นายนาวา เฮงสมเกียรติ และ นายล้อม สุขะกสิกร กับมีผู้หญิงด้วย คือ เขียน ไกรสกุล เป็นตัวตลก และละม้าย มัฆวิบูลย์ เป็นนา

"วิธีเล่นจำอวด พอเริ่มเล่นเบิกโรง แม่คู่ออกมาก่อน กล่าวอารัมภกถาเล็กน้อย แล้วก็เรียกคอสองออกมาซักเป็นที่สอง แล้วเรียกภาษาออกมาเป็นอันดับสาม ตลกออกสุดท้าย การแสดงจัดเป็นชุด คล้ายสวดคฤหัสถ์ มีชุดจีน ชุดแขก ชุดญวน ชุดโขน ชุดละคอน ฯลฯ เล่นให้ได้ตลกจะลอยดอกออกไปอย่างไรก็ได้ แม่คู่ออกมา "ปูพื้น" คือพูดแนะช่องให้ตลก "หยิบ" คือเล่นสอดให้เข้าเรื่อง การแสดงของตลกหรือจำอวดต้องอาศัยการร่วมชุด (team-work) เป็นสำคัญ โขนโดยมากมักจับชุดนางลอย ใช้เบญกายตัวโต ๆ หนุมานตัวเล็ก ๆ พากย์ล้อ ๆ เล่น ๆ ลงท้ายเบญกายจับหนุมานไป ละคอนก็เรื่องรณจักร หรือ ไกรทอง เล่นตลกตอนแต่งตัวม้วนชายกระเบนพลางคุยไปพลางจนรัดตัวแน่น ผัดหน้าใช้แป้งโปะลงไปกับหน้าให้ดูเลอะ บอกบทซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ต้นเสียงต้องรับตอบว่าได้ยินแล้ว ลูกคู่ ร้องทวนซ้ำอยู่ที่เดียว เหล่านี้เป็นตัวอย่าง ต่อมามีเล่นชุดหัดทหารใหม่ ชุดต่อกลอน ชุดส่งวิทยุ ชุดสั่งอาหารจีน ชุดดนตรีปาก ฯลฯ แล้วแต่คณะไหนถนัดอะไร ตามธรรมดามักมีดนตรีสลับเป็นดนตรีสากลบ้าง ดนตรีไทยบ้าง ก็มีฟ้อนหรือระบำไทย ซึ่งต่อมาสมัยนี้เรียกว่า "นาฏศิลป์" ถ้าเป็นดนตรีสากล ก็มีร้องเพลงไทยปัจจุบัน หรือเรียกว่า เพลงไทยสากลหรือเต้นรำระบำอย่างฝรั่งสลับ มาในขั้นหลัง ๆ นี้ คณะจำอวดมีผู้หญิงแสดงร่วมเพิ่มขึ้นอีก และผู้แสดงไม่จำกัดจำนวน อาจเป็นถึงขนาดละคอนโรงเล็ก ๆ เล่นเรื่องสั้น ๆ ก็ได้

"คำว่า "จำอวด" นี้ ต่อมานายสนิท เกษธนัง ได้ขอให้ข้าพเจ้า (คือ นายธนิต อยู่โพธิ์) คิดหาคำให้ใหม่ เพราะไม่ปรารถนาจะแสดงอย่างจำอวด เกรงจะถูกเหยียดหยาม จึงได้คิดตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "ละคอนย่อย" ซึ่งเคยใช้เรียกเป็นทางการของวิทยุกระจายเสียงเป็นเริ่มต้น จำอวดจึงกลายสภาพเป็นละคอนย่อยมาจนทุกวันนี้

"การแต่งกายของจำอวดสมัยก่อน ใช้นุ่งผ้าม่วงสี โดยมากเป็นผ้าม่วงเซี่ยงไฮ้ วิธีนุ่งมีแปลกกว่านุ่งผ้าธรรมดา คือ แลบชายมุมบนตอนข้างหน้าที่จะม้วนเป็นชายกระเบนไว้หน่อยหนึ่ง เมื่อม้วนและโจงกระเบนแล้ว ก็แผ่ชายผ้ามุมบนที่เหลือไว้นั้นให้เป็นปีกออกไปคล้าย ๆ ชายไหวชายแครง ต้องยกปีกผ้านุ่งให้กาง สวมเสื้อแพรสี เนื้อดี คอพวงมาลัย คาดผ้าคาดพุงแพรหรือไหม ต้องผัดหน้าให้ค่อนข้างขาว แต่งคิ้วแต่งปากนิดหน่อย แต่ไม่ถึงละคอน ไว้ผมยาวอย่างที่เรียกว่า ผมนัด แปลว่า กระไรไม่ทราบ ใส่น้ำมันหวีเรียบ แต่งเครื่องประดับที่เป็นเพชรทองมาก ๆ เช่น นาฬิกาข้อมือสายทอง เรือนทอง แหวนเพชร สร้อยคอสร้อยข้อมือทองคำ กิริยาอาการที่ติดจนเป็นนิสัยของพวกจำอวด เวลาออกโรงแสดง คือมักใช้มือทั้งสอง จัดกลีบผ้านุ่งข้างหลัง ดึงแขนเสื้อขึ้นไปหาหัวไหล่ เสยผม ท้าวสะเอว จำอวดเป็นมหรสพที่นิยมกันมากในยุคหนึ่ง ซึ่งทุกงานที่สำคัญจะขาดไม่ได้ คือ ในสมัยปลายรัชกาลที่ ๖ กับต้นรัชกาลที่ ๗ จำอวดคณะเสมาทองเคยได้รับพระราชทานเสมาอักษรพระปรมาภิไธยย่อ ป.ป.ร. ทองคำจากพระราชหัตถ์ในหลวงรัชกาลที่ ๗ เพราะได้เคยแสดงถวายบำเรอพระยุคลบาท จึงให้ชื่อคณะว่า "คณะเสมาทอง"

"การแสดงของจำอวดหรือตลกของไทยเรา มีความสำคัญอยู่ที่ว่าต้องแสดงหลักไปทางหยาบโลนเป็นพื้นอย่างดีก็ใช้คำพูดชนิดที่เรียกกันว่า "สองง่าม" ต่อมาในสมัยนี้ มีจำอวดบางคนชอบใช้วาทะโวหารให้ไพเราะเรียกกันว่า "คำคม" อยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่วายมีหยาบโลนแกมอยู่นั่นเอง จำอวดหรือตลกเป็นศิลปะชนิดหนึ่ง ซึ่งควรที่จะรักษาไว้เป็นแบบฉบับของไทยเราต่อไป อย่าให้เสื่อมสูญเสียได้ จะได้ชื่อว่าเป็นการรักษาทรัพย์อันมีค่าของชาติไว้ส่วนหนึ่งด้วย"




จำนงค์ ทองประเสริฐ
๓๐ ธันวาคม ๒๕๓๔



ที่มา : ภาษาไทย ๕ นาที
http://www.tpschamnong.iirt.net/article/basa_5nt042.html



บั น เ ทิ ง . . ."คุณหวานเจี๊ยบ" ขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมงานมงคลสมรส (ขออภัยที่ไม่ได้มาเรียนเชิญด้วยตัวเอง)


ขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมงานมงคลสมรส

และขอกราบขออภัยที่ไม่ได้มาเรียนเชิญด้วยตัวเอง


เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่รักทุกคน
เรามีข่าวดีมาบอก
เราจะแต่งงานเดือนหน้า
จัดงานแบบง่าย ๆ เป็นปาร์ตี้เล็ก ๆ
เชิญเพื่อนสนิทแค่ไม่กี่คน

เราอยากให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ มาร่วมงานนะ

Dear all,
I'm getting married next month.
There would be a small party
and only few people will be invite.

 

Don't bring any gift.

Just bring someone to marry me !!!!!

กร้าก ก ก ก ก ก ก ก ก ก ก ก ก

สะจาย ย ย ย ย ย ย

(หลงเข้ามาอ่านกันใหญ่เรยอะดี๊...เฮอะ...เฮอะ...)

             

ที่มา : http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=227.220

วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

บ ท ก วี . . . เมื่อฉันไป

 

 

 

    เ มื่ อ ฉั น ไ ป

                    

 

                                ดูแล ตัวกับ หัวใจเธอให้ดี
                  อย่าให้มีสิ่งใดมาให้หมอง
                  ฉันอาจอยู่เกินกว่าสายตามอง
                  และคงต้องห่างไกลไปตามทาง
 
                                แต่จะฝาก ดวงดาวบนราวฟ้า
                  ทอดสายตาแทน ฉันในวันห่าง
                  คอยดูแล เธอไว้ไม่เว้นวาง
                  ให้เหมือนอย่างที่ฉันนั้นเคยทำ
 
                                มันจะเหมือนฉันหรือไม่ฉันไม่รู้
                  เมื่อฉันอยู่บนเส้นทางที่ย่างย่ำ
                  คงรับรู้เรื่องราวได้แค่ใจจำ
                  มิอาจซ้ำเส้นทางเก่าที่เราเคย
 
                                ดูแลตัวกับหัวใจเธอให้ดี
                  สองสิ่งนี้มีค่ากว่าจะเอ่ย
                  เมื่อฉันไปไกลตาอย่าละเลย
                  ดวงดาวเอ๋ยเธอจ๋าอย่าลืมเลือน
 
 
                                      "คุณหวานเจี๊ยบ"...เขียน
                                            ๒๗ กันยาฯ ๒๕๓๘
 

 

 

 
 
 
 
 
 

บ ท ก วี . . . “เขา” กับ “เรา”

 

 

 

 

ภาคภูมิ น้อยวัฒน์...ภาพ  

  จากอนุสาร อ.ส.ท.  

www.osotho.com  

 

"เขา" กับ "เรา"  

 

            เขาจะเป็นเช่นไรในคืนหนาว         

นะดวงดาวพราวพรายตอบได้ไหม         

งหนาวเหน็บเย็นเยียบเฉียบหัวใจ         

จะมีใครก่อไฟผิงให้อิงกาย         

            หรือ เขามีแมกไม้ในม่านหมอก         

คอยเย้าหยอกเคลียข้างไม่ห่างหาย         

จนแปรเปลี่ยนความหนาวเย็นเป็นอุ่นสบาย         
ใช่เหน็บหนาวร้าวร้ายคล้ายกับเรา         

 

"คุณหวานเจี๊ยบ"...เขียน            

๑๘ พฤศจิกาฯ ๒๕๓๘            

ณ ขุนเขาหัวแม่คำ เชียงราย            

 

วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

"คุณหวานเจี๊ยบ"...ผอมผอม





ยิ่งกว่า "สวยด้วยแพทย์"
เพราะไม่ต้องกรีด เจาะ ตัด ดูด ดึง อาไรเลย

"คุณพิงค์กี้" ช่างภาพ อ.ส.ท. ถ่ายให้
ทั้งจัดท่า หามุม สั่งให้บิดตัวท่าโน้นท่านี้
เก็บต้นแขนหนา ๆ ปิดพุงโต ๆ
จนดูผอมกว่าตัวจริงที่น้ำหนักเหยียบร้อยแยะเลย

ดูเหมือน "คุณพิงค์กี้" จะเป็นช่างภาพคนเดียว
ที่ถ่ายรูป "คุณหวานเจี๊ยบ" ให้ออกมาผอมเพรียว
ดูสวยกว่าตัวจริงได้

ขอบใจนะ "คุณพิงค์กี้"
งานแต่งจาให้ไปถ่ายรูปให้นะจ๊ะ...เฮอะ...เฮอะ...


ป.ล. "คุณพิงค์กี้" เค้าชื่อจริง
ภาคภูมิ น้อยวัฒน์ จ้า



"น้องชินฯ" กู้ชาติ







จับ "ชินจัง" มากู้ชาติซะเรย ย ย ย ย ย

พี่ "สอหอ" ก้อมาด้วย ย ย ย ย ย ย ย


"คุณอุทัย"...สัตว์เลี้ยงประจำบ้านหวานเจี๊ยบ




"คุณอุทัย"
สัตว์เลี้ยงประจำบ้านเราเอง

น่ารักมะ

กว่าจาถ่ายรูปมาได้
กัวมานฉี่ใส่หน้าเอาหงะดิ



จุ๊ จุ๊...อย่าเอ็ดไป




จุ๊ จุ๊...

ไม่มีไรหรอก

...อย่าเอ็ดไป

"คุณหวานเจี๊ยบ"





"คุณหวานเจี๊ยบ" หลังผ่าตัด ๗ วัน
เมื่อเดือนพฤศจิกาฯ ปีที่แล้ว

หลังผ่าตัดอยู่แต่ในบ้าน บนห้องนอน จนซีด
พอลุกไหว เลยลงมาเดินดูต้นไม้รอบบ้าน
แล้วนึกครึ้ม ๆ อาไรมะรุ
เอากล้องดิ๊ฯ มาถ่ายภาพตัวเองเล่น

เอาเป็นว่า ภาพนี้ "สวยด้ายจัย" ละกัน
ชอบอะ

วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

บั น ทึ ก . . . ขึ้นบ้านใหม่...เพราะ "เก่งจัง"

ขึ้นบ้านใหม่...เพราะ "เก่งจัง"
 
เปล่านะ......
ที่เขียนไว้แบบนี้ไม่ได้หมายความว่า
ขึ้นบ้านใหม่เพราะ "คุณหวานเจี๊ยบ" เจ้าของบ้านเก่งมาก

แต่จะบอกเล่าให้ฟังว่า

เดิมที "คุณหวานเจี๊ยบ" มีบ้านอยู่แล้ว ๒ หลัง ที่ฮ็อตเมรุ

คือ "บ้านหวานเจี๊ยบ" บ้านทางโลกของ "คุณหวานเจี๊ยบ" 
http://sweetjiabhome.spaces.live.com/

และ
"หอสมุดแห่งข้า ง้วนดิน" บ้านทางธรรมของ "คุณหวานเจี๊ยบ"
http://nguandinlibrary.spaces.live.com/

ว่าง ๆ ลองไปเยี่ยม ๆ มอง ๆ ได้จ้า
แต่ตอนนี้เหมือนบ้านร้างนะ
 
 
อะต่อ...ต่อ...
 
ก้อบ้านก้อมีอยู่แล้วตั้ง ๒ หลัง
มาสร้างอีกทำม้ า า า า า า า า า า า า า า า า า า ย
 
คำตอบ
ก้อ "เก่งจัง" อะดิ

"เก่งจัง" ในที่นี้
หมายถึงเจ้า "ดำจัง"
น้องที่ทำงานอ่าดิ
เกิดกบฏ เอ้ย !! ปฏิวัติตัวเอง
ลุกขึ้นมาทำ "บล็อก" กะเค้าม่าง
 
อันนี้เป็นเรื่องน่าชื่นชม
พัฒนาการเยี่ยมยอด...ยกนิ้วให้

"เก่งจัง" นะ "เก่งจัง"...ขอชมอิกที


แบบนี้ "คุณหวานเจี๊ยบ" จาอยู่เฉยด้ายงาย
ก้อต้องลุกขึ้นมาให้กำลังจายกันหน่อยแล้ว

เลยเป็นที่มาที่ไป
ให้ต้องมาสร้าง "บ้านหวานเจี๊ยบ" หลังใหม่อิกหลัง
เพื่อจาได้เข้าไปเยี่ยม "บ้านเก่งจัง" เค้าได้สะดวก (และสวยงาม)

เพราะถ้าไม่สมัครสมาชิก สร้างบ้านที่นี่
เวลาไปโพสต์อาไรบ้านเค้า
จาไม่มี "หน้าสวย ๆ หวาน ๆ" ของเราไปปรากฏ
ยอมไม่ด้าย...ยอมไม่ได้...เฮอะ...เฮอะ...

แล้วไงหละทีนี้...ก้อเหนื่อยอ่าดิ...
สร้างบ้านนี่ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นา

เพิ่งย้ายเข้ามาได้ไม่กี่วัน
ยัง...งง ๆ กับบ้านใหม่
ยัง...จัดบ้านไม่เข้าที่เข้าทางเลย

ยัง...ไงก้อแวะมาเยี่ยมมายามกันบ้างนะ

นี่แหละ
ขึ้นบ้านใหม่...เพราะ "เก่งจัง" แท้แท้
กำ !!!!!
 
 

ง่วงแร้ว ว ว ว ว ว ว ว ว ว ว ว ว
ไปนอนก่อนน้า า า า า า า า า า า า า า

 


 

 

"คุณหวานเจี๊ยบ"...เหงาเหงา











"อยากรู้เหมือนกัน...ว่าฉันมันเหงาอาไรมากมาย อาย อาย อาย ย ย ย ย ย ย ย ย"

ใครรู้มาตอบทีดิ๊...มาดิ...มาดิ...








บ้ า น ห ว า น เ จี๊ ย บ...Sweet Jiab Home บ้านหวานเจี๊ยบหลังแรก ณ ฮ็อตเมรุ

http://sweetjiabhome.spaces.live.com/
บ้านหวานเจี๊ยบ หลังแรก
http://sweetjiabhome.spaces.live.com/


เสปซทางโลกอีกอันของ "คุณหวานเจี๊ยบ"
ณ ฮ็อตเมรุ


เว็บไซต์ อ นุ ส า ร อ. ส. ท. . . . วารสารเพื่อการท่องเที่ยวและอนุรักษ์ธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม

http://www.osotho.com
www.osotho.com
เว็บไซต์ของอนุสาร อ.ส.ท.
วารสารเพื่อการท่องเที่ยวและอนุรักษ์ธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม

ช่วย ๆ เข้าไปเล่น..เข้าไปปั่นกาทู้..กันหน่อยจ้า

ไปเที่ยวไหนกันมา
เอารูปไปอวด
เอาเรื่องหนุกหนานหนุกหนานไปเล่าได้ที่นี่

แล้วเจอกันที่ "กระดานสนทนา" นะ






คลิกเรย...คลิกเรย...
เว็บไซต์ของอนุสาร อ.ส.ท.
www.osotho.com/